เตือน “เฮอริเคนมิลตัน” อาจสร้างความหายนะครั้งรุนแรงที่สุดในประวัติศาสตร์

แคลร์ นุลลิส โฆษกขององค์การอุตุนิยมวิทยาโลก (WMO) แถลงในนครเจนีวา ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ ว่า เฮอริเคนมิลตัน อาจจะเป็นเฮอริเคนที่จะสร้างความหายนะครั้งรุนแรงที่สุดในประวัติศาสตร์อย่างที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน และคาดว่าจะขยายตัวมากขึ้นก่อนพัดขึ้นฝั่ง ซึ่งจะเป็น “ภัยคุกคามที่รุนแรงอย่างยิ่ง” ต่อรัฐฟลอริดาของสหรัฐอเมริกา

พื้นที่ชายฝั่งด้านตะวันตกที่มีประชากรหนาแน่นของรัฐฟลอริดา เพิ่งได้รับความเสียหายจากเฮอริเคนเฮลีน ในช่วงเวลาไม่ถึงสองสัปดาห์ที่ผ่านมา ต้องเตรียมความพร้อม เพื่อรับมือเฮอริเคนกำลังแรงลูกนี้ ซึ่งหากเฮอริเคนมิลตัน พุ่งตรงเข้าอ่าวแทมปา จะถือเป็นครั้งแรกที่เกิดขึ้นตั้งแต่ ปี พ.ศ.2464 ซึ่งอ่าวแทมปา ประกอบด้วยเมืองหลัก ๆ ได้แก่ แทมปาเซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก และ คลีร์วอเตอร์

ล่าสุด ประชาชนบางส่วนในพื้นที่ ซึ่งมีกว่า 3 ล้านคน เร่งรีบกำจัดกองเศษซากขยะที่เฮอริเคนเฮลีนทิ้งไว้ก่อนจะปฏิบัติตามคำสั่งอพยพหนีเฮอริเคนมิลตัน 

โฆษกขององค์การอุตุนิยมวิทยาโลก กล่าวด้วยว่า นอกจากเฮอริเคนมิลตันแล้ว ขณะนี้ยังมีเฮอริเคนอีก 2 ลูกอยู่ในมหาสมุทรแอตแลนติก ได้แก่ พายุเลสลี และ เคิร์ก โดยเคิร์ก ได้กลายเป็นพายุไซโคลนนอกเขตร้อนที่ทรงพลัง และคาดว่า จะพัดขึ้นฝั่งทางชายฝั่งตะวันตกของฝรั่งเศส โดยมี "ลมกระโชกแรงถึง 100 กิโลเมตรต่อชั่วโมง และมีฝนตกหนักมาก" 

สำนักข่าวรอยเตอร์รายงาน เพิ่มเติมว่า เฮอริเคนมิลตัน ได้อ่อนกำลังลงจากความรุนแรงสูงสุดที่ระดับ 5 เหลือระดับ 4 เมื่อวันที่ 8 ตุลาคม ตามเวลาท้องถิ่น ได้เคลื่อนตัวเข้าใกล้รัฐฟลอริดา  ทำให้ทางการสั่งอพยพประชาชนออกจากพื้นที่เสี่ยงภัยไปแล้วกว่า 1 ล้านคน 

คาดการณ์ว่า เฮอริเคนมิลตัน จะพัดขึ้นที่ชายฝั่งตะวันตกของฟลอริดาในวันนี้ ซึ่งขณะนี้ศูนย์กลางของเฮอริเคนมิลตันอยู่ห่างจากเมืองโปรเกรโซของประเทศเม็กซิโกไปทางตะวันออกเฉียงเหนือราว 105 กิโลเมตร และอยู่ห่างจากเมืองแทมปา รัฐฟลอริดาของสหรัฐอเมริกาไปทางตะวันตกเฉียงใต้ราว 840 กิโลเมตร

สำหรับเฮอริเคนมิลตันมีกำลังแรงขึ้นจากกระแสน้ำที่อุ่นในอ่าวเม็กซิโก ทำให้มันกลายเป็นพายุในมหาสมุทรแอตแลนติกที่มีกำลังแรงขึ้นเร็วที่สุดเป็นอันดับ 3 โดยเปลี่ยนจากพายุโซนร้อนกลายเป็นเฮอริเคนความรุนแรงระดับ 5 ในเวลาเพียงไม่ถึง 24 ชั่วโมง 

เฮอริเคนมิลตันยังมีทิศทางการเคลื่อนตัวที่ไม่เหมือนเฮอริเคนทั่วไปเช่นกัน เพราะมิลตันพัดจากทิศตะวันตกไปตะวันออก ต่างจากเฮอริเคนทั่วไปในอ่าวเม็กซิโกที่มักก่อตัวในทะเลแคริบเบียนและขึ้นฝั่งหลังพัดไปทางทิศตะวันตกก่อนไปทางทิศเหนือ

ภาพจาก AFP