เนปาลน้ำท่วมหนัก เสียชีวิตพุ่งเกิน 100 ราย

เจ้าหน้าที่เนปาลเผยว่า สถานการณ์น้ำท่วมหนักและดินถล่มในหลายพื้นที่ หลังจากมีฝนตกหนักตลอด 24 ชั่วโมงตั้งแต่วันศุกร์ที่ผ่านมา (27 ก.ย.) ยอดผู้เสียชีวิตล่าสุดเพิ่มขึ้นเป็นอย่างน้อย 100 รายแล้ว ในจำนวนนี้อย่างน้อย 43 รายอยู่ในกรุงกาฐมาณฑุ และยังมีผู้สูญหายอีกหลายสิบคน โดยเมื่อคืนนี้ (28 ก.ย.) เจ้าหน้าที่กู้ภัยพบร่างผู้เสียชีวิต 14 รายในรถบัสโดยสาร 2 คัน ที่ถูกดินถล่มจากเทือกเขาลงทับบนทางหลวงแทบจะในจุดเดียวกัน ระหว่างเดินทางมุ่งหน้าไปยังกรุงกาฐมาณฑุ ขณะนี้กำลังเร่งค้นหาผู้สูญหายใต้กองดินโคลน

เจ้าหน้าที่เนปาลเผยด้วยว่า ยอดผู้เสียชีวิตน่าจะมีเพิ่มขึ้นอีก เพราะคาดว่าจะยังเกิดฝนตกหนักตลอดต่อเนื้องในช่วง 2 วันข้างหน้า ฝนที่ตกอย่างหนักตั้งแต่วันศุกร์  ทำให้แม่น้ำเกือบทุกสายในแถบหุบเขากาฐมาณฑุไหลทะลักเข้าท่วมพื้นที่ใกล้เคียง บ้านเรือนถูกน้ำท่วมเสียหายหลายพันหลังคาเรือนและทางหลวงส่วนใหญ่ถูกปิดกั้นจากเหตุดินถล่ม แต่ในวันนี้ (29 ก.ย.) สภาพอากาศเริ่มดีขึ้น ทำให้เจ้าหน้าที่กู้ภัยเร่งมือค้นหาผู้ที่ยังสูญหายและช่วยเหลือผู้ประสบภัย

หน่วยงานของรัฐบาลเนปาลยังขอให้ประชาชนหลีกเลี่ยงการเดินทางที่ไม่จำเป็นและสั่งห้ามการเดินทางโดยใช้ถนน เพื่อลดอัตราเสี่ยงจากการเกิดอุบัติเหตุ หลังมีรายงานทางหลวงยังถูกดินถล่มทับ 28 จุด ส่งผลให้การจราจรกลายเป็นอัมพาต ซึ่งตำรวจกำลังเร่งเปิดเส้นทาง 

ขณะเดียวกันกระทรวงศึกษาธิการของเนปาลขอความร่วมมือโรงเรียนและมหาวิทยาลัยในพื้นที่ประสบภัยให้หยุดการเรียนการสอน 3 วัน เนื่องจากนักเรียนและผู้ปกครองต้องเผชิญกับความยากลำบาก จากอาคารมหาวิทยาลัยและโรงเรียนที่ได้รับความเสียหายจากฝนจำเป็นต้องได้รับการซ่อมแซม

นอกจากนี้ ผู้เชี่ยวชาญเผยว่า พื้นที่บางส่วนของเมืองหลวงมีฝนตกหนักถึง 322.2 มิลลิเมตร ส่งผลให้ระดับน้ำในแม่น้ำบักมาตีสูงขึ้น 2.2 เมตร ซึ่งเกินระดับอันตราย

ด้านนักวิทยาศาสตร์ด้านสภาพอากาศ จากศูนย์นานาชาติเพื่อการพัฒนาภูเขาแบบบูรณาการ (ICIMOD) กล่าวในแถลงการณ์ว่า การพัฒนาแบบไร้ทิศทางทำให้ความเสี่ยงต่อการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศในเนปาลเพิ่มมากขึ้น พร้อมเรียกร้องให้รัฐบาลและนักวางผังเมืองเร่งลงทุนและวางแผนด้านโครงสร้างพื้นฐาน เช่น ระบบระบายน้ำฝนและน้ำเสียใต้ดิน ทั้งแบบสีเทาหรือแบบวิศวกรรม และแบบสีเขียวหรือแบบที่อิงจากธรรมชาติ