ฝีดาษลิง ในแอฟริกาพบแล้วเกือบ 3 หมื่นคน "อินเดีย" พบผู้ป่วยชนิดรุนแรงรายแรก

เจ้าหน้าที่รัฐบาลอินเดีย ระบุว่า ผู้ติดเชื้อซึ่งอยู่ในรัฐเกรละ มีผลตรวจพบการติดเชื้อสายพันธุ์เคลดวันบี ซึ่งการตรวจพบเชื้อไวรัสกลายพันธุ์ดังกล่าวในชายวัย 38 ปีในเขตมาลัปปุรัมของรัฐเกรละ ซึ่งเพิ่งเดินทางกลับจากสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ (UAE) ขณะที่ไทยเป็นประเทศแรกในเอเชียที่มีการตรวจพบเชื้อไวรัสสายพันธุ์นี้เมื่อเดือนที่แล้ว หลังจากที่ชายชาวยุโรปคนหนึ่งเดินทางจากแอฟริกามายังกรุงเทพฯ

ประเทศต่าง ๆ ในเอเชียตั้งแต่จีนไปจนถึงปากีสถานได้ยกระดับการเฝ้าระวังมาเป็นเวลาหลายสัปดาห์ ในขณะที่สิงคโปร์ได้กำหนดมาตรการตรวจวัดอุณหภูมิร่างกาย และการตรวจด้วยสายตาของเจ้าหน้าที่ในสนามบิน ตลอดจนกำหนดให้กักกันตัวในสถานที่ที่กำหนดเป็นเวลา 3 สัปดาห์

นอกจากนี้ หน่วยงานสาธารณสุขอินเดียยังเฝ้าระวัง และเตรียมรับมือกับเชื้อโรคภายในประเทศที่มีประชากรหนาแน่น ซึ่งผู้โดยสารที่ใช้บริการขนส่งสาธารณะมักต้องนั่งเบียดกันอย่างแน่นขนัด ขณะที่สนามบินนานาชาติ อาทิ บังกาลอร์ได้ยกระดับการเฝ้าระวังโดยกำหนดให้ผู้โดยสารต้องผ่านเครื่องตรวจวัดอุณหภูมิ

กระทรวงสาธารณสุขอินเดีย ระบุว่า อินเดียมีห้องปฏิบัติการมากกว่า 20 แห่งที่ติดตั้งอุปกรณ์สำหรับทดสอบเชื้อฝีดาษลิง กำลังดำเนินการเพื่อเพิ่มความไวในการตรวจเชื้อให้กับทีมงานด้านสาธารณสุขที่สนามบินนานาชาติ รวมถึงรายงานความคืบหน้าเกี่ยวกับการแจ้งเตือนโรคฝีดาษลิง โดยอินเดียประเมินว่า ความเสี่ยงของการระบาดครั้งใหญ่ จะทำให้เกิดการแพร่ระบาดอย่างต่อเนื่องนั้น ยังคงอยู่ในระดับต่ำ

ขณะที่ องค์การอนามัยโลก (WHO) เปิดเผยว่า มีรายงานผู้ต้องสงสัยติดเชื้อฝีดาษลิงในแอฟริการวม 29,342 คน นับตั้งแต่เดือนมกราคม ถึงวันที่ 15 กันยายน 2567 โดยส่วนใหญ่พบในสาธารณรัฐประชาธิปไตยคองโก ซึ่งเป็นประเทศที่อุปกรณ์ตรวจหมดลงแล้ว  ส่วนในเดือนสิงหาคม เพียงเดือนเดียว มีรายงานผู้ป่วยยืนยันเพิ่มขึ้น 2,082 คนทั่วโลก ซึ่งถือเป็นจำนวนสูงสุดนับตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน 2565