TNN เปิดประวัติ “กมลา แฮร์ริส" ตัวเต็งจากเดโมแครต ชิงเก้าอี้ปธน.สหรัฐฯ

TNN

World

เปิดประวัติ “กมลา แฮร์ริส" ตัวเต็งจากเดโมแครต ชิงเก้าอี้ปธน.สหรัฐฯ

เปิดประวัติ “กมลา แฮร์ริส ตัวเต็งจากเดโมแครต ชิงเก้าอี้ปธน.สหรัฐฯ

เปิดประวัติ “กมลา แฮร์ริส" ตัวเต็งของเดโมแครตที่ “โจ ไบเดน” เสนอชื่อลงชิงเก้าปธน.สหรัฐฯกับ “โดนัล ทรัมป์ ”

หลังจากที่ ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ผู้นำสหรัฐ ได้ตัดสินใจประกาศ ถอนตัวจากการลงสมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐในปี 2567 และเสนอชื่อนางกมลา แฮร์ริสรองประธานาธิบดีสหรัฐ ให้เป็นตัวแทนพรรคเดโมแครตเพื่อลงชิงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐในเดือนพ.ย.ปีนี้ แข่งกับนายโดนัลด์ ทรัมป์ ตัวแทนจากพรรครีพับลิกัน


สำหรับประวัติของนางกมลา แฮร์ริส วัย 59 ปีนั้น เธอเกิดที่เมืองโอ๊คแลนด์ รัฐแคลิฟอร์เนีย เป็นบุตรสาวของผู้อพยพชาวอินเดียและจาเมกา เธอสำเร็จการศึกษาจากมหาวิทยาลัย Howard University, University of California และ Hastings College of the Law จากนั้นเธอเริ่มต้นชีวิตการทำงานที่สำนักงานอัยการประจำเขตอาลาเมดา เคาท์ตี้ ก่อนที่จะย้ายไปทำงานที่สำนักงานอัยการเขตซานฟรานซิสโก


ปี 2546 กมลา แฮร์ริส ได้รับเลือกให้เป็นอัยการเขตของซานฟรานซิสโก และต่อมาในปี 2553 เธอเป็นสตรีคนแรก เป็นชาวอเมริกันเชื้อสายเอเชียคนแรก และเป็นชาวอเมริกันเชื้อสายแอฟริกันคนแรกที่ได้รับเลือกให้ดำรงตำแหน่งอัยการสูงสุดรัฐแคลิฟอร์เนีย และได้รับเลือกให้ดำรงตำแหน่งดังกล่าวอีกสมัยในปี 2557


ปี 2560  กมลา แฮร์ริส เข้าพิธีสาบานตนเพื่อรับตำแหน่งวุฒิสมาชิกรัฐแคลิฟอร์เนีย ซึ่งถือเป็นสตรีชาวอเมริกันเชื้อสายแอฟริกันคนที่ 2 และเป็นชาวอเมริกันเชื้อสายเอเชียใต้คนแรกที่ดำรงตำแหน่งวุฒิสมาชิกในประวัติศาสตร์สหรัฐ นอกจากนี้ เธอยังทำหน้าที่ในคณะกรรมาธิการฝ่ายกิจการความมั่นคงแห่งมาตุภูมิและกิจการของรัฐ, คณะกรรมาธิการข่าวกรอง, คณะกรรมาธิการตุลาการ และคณะกรรมาธิการด้านงบประมาณ


นอกจากนี้ นางแฮร์ริสยังเป็นสตรีคนที่ 3 ในประวัติศาสตร์สหรัฐที่ได้รับเลือกจากพรรคการเมืองใหญ่ให้เข้าชิงตำแหน่งรองประธานาธิบดี ต่อจากนางเจราลดีน เฟอร์ราโร ที่เคยได้รับเลือกจากพรรคเดโมแครตในปี 2527 และนางซาราห์ พาลิน ที่ได้รับเลือกจากพรรครีพับลิกันในปี 2551


ปัจจุบัน กมลา แฮร์ริส อาศัยอยู่กับนายดอจ เอ็มฮอฟฟ์ สามีของเธอ ในเมืองลอสแอนเจลิส และเป็นมารดาเลี้ยงของเอลลา และโคล เอ็มคอฟฟ์ ซึ่งเป็นบุตรภรรยาเก่าของนายดอจ เอ็มฮอฟฟ์


ภาพจากAFP 

ข่าวแนะนำ