เด็กในกาซาอดยากทวีความรุนแรง - มากกว่า 2 หมื่นคนสูญหายตั้งแต่เริ่มสู้รบ

วันนี้ ( 25 มิ.ย. 67 )มูมอว์วาร์ ซาอิด หนึ่งในทีมแพทย์ กล่าวกับรอยเตอร์ทางโทรศัพท์ว่า กลุ่มความช่วยเหลือและพันธมิตร วางแผนที่จะเข้าถึงเด็กมากกว่า 200,000 คน ที่อายุไม่ถึง 5 ปี ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของโครงการ “ตรวจและรักษา” (Find and Treat) โดยในช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา มีหลายครอบครัวเดินทางไปที่คลินิกใจกลางเมือง เดอีร์ อัล-บาลาห์ แต่ก็ปิดทำการไป 2 แห่ง เนื่องจากความไม่ปลอดภัยในกาซา 

รัจดา อิบราฮิม เกชตา เจ้าหน้าที่โภชนาการ กล่าวกับรอยเตอร์ว่า จานา อายัด วัย 5 ขวบ มีน้ำหนักตัวเพียง 9 กิโลกรัม เมื่อมาถึงคลินิก เนื่องจากมีอาการท้องเสียและอาเจียน ขณะที่เธออุ้มเด็กหญิงด้วยความระมัดระวัง 

กลุ่มความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรม ที่นำโดยสหประชาชาติ หรือยูเอ็น ประเมินว่า มีเด็กชาวกาซาประมาณร้อยละ 7 อาจขาดสารอาหารอย่างรุนแรง เมื่อเทียบกับร้อยละ 0.8 ก่อนความขัดแย้งระหว่างอิสราเอลกับกลุ่มฮามาส เริ่มต้นขึ้นในเดือนตุลาคม ปีที่แล้ว โดยขณะนี้ ปัญหาความอดอยากหิวโหยที่เลวร้ายที่สุดอยู่ในภาคเหนือของกาซา 

เจ้าหน้าที่กังวลว่า ปัญหาดังกล่าวอาจลุกลามไปยังพื้นที่ตอนกลางและใต้ของกาซา เนื่องจากเหตุการณ์ความวุ่นวายรอบเมืองราฟาห์ ซึ่งทำให้มีประชาชนกว่า 1 ล้านคนพลัดถิ่นไร้ที่อยู่อาศัย และส่งผลกระทบต่อการส่งความช่วยเหลือผ่านเส้นทางช่วยเหลือในพื้นที่ตอนใต้

ขณะเดียวกัน มีรายงานว่า เด็กมากกว่า 21,000 คน ยังสูญหายในกาซา ตั้งแต่สงครามเริ่มต้นขึ้น ตามข้อมูลขององค์การช่วยเหลือเด็ก (Save the Children) โดยองค์กรนอกภาครัฐแห่งนี้ ระบุในแถลงการณ์ฉบับหนึ่งเมื่อวานนี้ว่า มีเด็กอย่างน้อย 4,000 คน อาจถูกฝังอยู่ภายใต้ซากปรักหักพังของอาคารบ้านเรือนที่ถูกทำลายจำนวนมาก ระหว่างการสู้รบ และอีกอย่างน้อย 17,000 คน เชื่อว่าถูกพรากจากครอบครัวและไม่มีใครไปด้วย 

แถลงการณ์ระบุด้วยว่า “คนอื่น ๆ ถูกบังคับให้สูญหาย รวมถึงผู้ต้องสงสัยอีกจำนวนหนึ่งที่ถูกควบคุมตัวและส่งตัวออกจากฉนวนกาซา โดยที่ครอบครัวไม่ทราบว่าพวกเขาอยู่ที่ไหน ท่ามกลางรายงานการถูกทารุณกรรมและทรมาน” 

องค์การช่วยเหลือเด็ก แถลงเพิ่มเติมว่า การโจมตีเมืองราฟาห์ของกองทัพอิสราเอลในปัจจุบันนี้ ทำให้เด็กเกิดการพลัดพรากมากขึ้น และเพิ่มความตึงเครียดให้กับครอบครัวและชุมชนที่ดูแลเด็ก 

ภาพจาก: รอยเตอร์