รัสเซียสอยเครื่องบินยูเครนพร้อมด้วยโดรนอีกหลายร้อยลำ

กระทรวงกลาโหมรัสเซีย ออกมารายงานเมื่อวานนี้ (14 มิถุนายน) ว่าในช่วงตลอดสัปดาห์ที่ผ่านมา กองทัพรัสเซียยังคงเดินหน้าโจมตีใส่ฐานที่มั่นของกองทัพยูเครน และประสบความสำเร็จในการทำลายอาวุธและยุทโธปกรณ์ของอีกฝ่าย ซึ่งทำให้สามารถรุกคืบเข้าไปควบคุมฐานที่มั่นแห่งใหม่ในแคว้นลูฮันสก์ และแคว้นคาร์คิฟ เพิ่มเติมรวม 2 แห่ง นอกจากนี้ ยังสามารถสอยเครื่องบินรบ มิก-29, ซู-27 และ ซู-25 รวมถึงเฮลิคอปเตอร์ เอ็มไอ-8 และยิงสกัดโดรนที่ถูกส่งมาจากกองทัพยูเครนได้อีกหลายร้อยลำ

ขณะที่ฝ่ายกองทัพยูเครนเอง ก็ออกมารายงานสถานการณ์ในวันเดียวกันว่า เมื่อวานนี้ ยังคงมีสมรภูมิรบระหว่างกองทัพรัสเซียและยูเครน ที่เกิดขึ้นในดินแดนยูเครนทั้งหมด 71 แห่ง ส่วนใหญ่เกิดขึ้นจากทางแคว้นโปครอฟสก์ ซึ่งค่อนข้างตึงเครียดและมีการปะทะกันเกิดขึ้นถึง 24 ครั้ง ภายในวันเดียว โดยทางกองทัพยูเครน ก็สามารถสกัดกั้นการโจมตีจากรัสเซียได้ 14 แห่ง ส่วนอีก 10 แห่ง การสู้รบยังคงเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง

ขณะที่ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย ก็ได้ออกมาระบุว่า หากยูเครนตัดสินใจถอนกำลังทหารออกจากแคว้นโดเนตสก์, ลูฮันสก์, ซาปอริชเชีย และเคอร์ซอน รวมถึงประกาศว่าจะไม่เข้าร่วมองค์การสนธิสัญญาป้องกันแอตแลนติกเหนือ ทางรัสเซียจะประกาศข้อหยุดยิง และเริ่มต้นการเจรจาเพื่อหาข้อยุติปัญหาความขัดแย้งระหว่างทั้งสองฝ่ายในทันที

ด้านประธานาธิบดีโวโลดิมีร์ เซเลนสกี ของยูเครน ก็ออกมาตอบโต้เรื่องดังกล่าวในทันที โดยเขาได้ให้สัมภาษณ์กับสื่อโทรทัศน์ในอิตาลีนอกรอบ การประชุมจี 7 ว่า ข้อเสนอหยุดยิงของผู้นำรัสเซียเป็นสิ่งที่เชื่อไม่ได้ และเขาก็เชื่อว่า การรุกรานทางทหารของรัสเซียจะยังไม่ยุติ แม้ว่าเขาจะมีคำสั่งหยุดยิงแล้วก็ตาม

ผู้นำยูเครน ยังระบุด้วยว่า ข้อความจากปูติน ไม่ได้แตกต่างอะไรจากข้อความที่เขาเคยพูดในอดีต จึงทำให้เขาค่อนข้างเชื่อว่า ผู้นำรัสเซียจะไม่หยุดแค่นี้ พร้อมกับได้นำปูตินไปเปรียบเทียบกับ อดอล์ฟ ฮิตเลอร์ ผู้นำเผด็จการนาซีเยอรมันในอดีต ที่พยายามขยายอำนาจจนนำไปสู่การเกิดสงครามโลกครั้งที่ 2 ขึ้น