สหรัฐฯ ออกโรงปกป้อง ‘เนทันยาฮู’

ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ของสหรัฐฯ ออกโรงปกป้องนายกรัฐมนตรี เบนจามิน เนทันยาฮู ของอิสราเอลวานนี้ (20 พ.ค.) หลังอัยการศาลอาญาระหว่างประเทศ หรือ ICC ขอให้ศาลไอซีซีออกหมายจับเนทันยาฮู ไบเดนปฏิเสธการกระทำดังกล่าวของศาลไอซีซี ระบุว่าศาลทำเกินไปมาก

ขณะเดียวกัน ไบเดนยังกล่าวปกป้องอิสราเอลด้วยว่า กองกำลังอิสราเอลไม่ได้กำลังฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ ในปฏิบัติการทางทหารต่อกลุ่มติดอาวุธฮามาสในฉนวนกาซา ตามที่ผู้ประท้วงต่อต้านอิสราเอลในสหรัฐฯ กล่าวหา สหรัฐฯ ขอปฏิเสธว่า สิ่งที่กำลังเกิดขึ้นในกาซาไม่ใช่การฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ 

ไบเดนย้ำความเชื่อของเขาว่า อิสราเอลคือฝ่ายที่ตกเป็นเหยื่อในวันที่ 7 ตุลาคม ที่ฮามาสบุกภาคใต้อิสราเอลสังหารคนไป 1,200 คน และจับตัวประกันไป 253 คน ยืนยันว่าการสนับสนุนของสหรัฐฯ ที่มีต่อความปลอดภัยและความมั่นคงของอิสราเอลนั้น แข็งแกร่งประดุจหุ้มด้วยเหล็ก

ด้านแอนโทนี บลิงเคน รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ ตำหนิศาล ICC พยายามออกหมายจับเนทันยาฮู ตั้งคำถามถึงขอบเขตอำนาจศาล และกระบวนการในการขอให้ศาลออกหมายจับครั้งนี้ เตือนว่า  การออกหมายจับผู้นำอิสราเอล จะทำลายการเจรจาหยุดยิงในกาซา 

เมื่อวานนี้ สำนักอัยการ คาริม ข่าน อัยการศาลอาญาระหว่างประเทศ เปิดเผยว่า ได้ขอให้ศาลออกหมายจับเนทันยาฮู โยอาฟ กัลแลนท์ รัฐมนตรีกลาโหมอิสราเอล และอีก 3 แกนนำฮามาส คือ อิสมาอิล ฮานิเยห์ ผู้นำฮามาส ยาห์ยา ซินวาร์ และโมฮัมเหม็ด อัล-มัสรี รวมผู้ต้องสงสัยฝ่ายอิสราเอลและฮามาสทั้งหมด 5 คน ในข้อหาอาชญากรรมสงคราม 

โดยสำนักอัยการศาลไอซีซีระบุในแถลงการณ์ว่า ทางอัยการมีเหตุผลเพียงพอที่เชื่อได้ว่า ผู้ต้องสงสัยทั้ง 5 จะต้องรับผิดชอบทางอาญา ต่ออาชญากรรมสงครามและอาชญากรรมต่อมนุษยชาติ ที่เกิดขึ้นทั้งในฉนวนกาซาและอิสราเอล หลังจากเกิดสงครามกาซามานานกว่า 7 เดือน

ส่วนศาลไอซีซีจะออกหมายจับเนทันยาฮูและผู้ต้องสงสัยทั้งหมด ตามคำฟ้องของอัยการหรือไม่นั้น ขึ้นอยู่กับผู้พิพากษาเห็นว่า มีหลักฐานมากพอที่จะออกหมายจับหรือไม่ และไม่มีกำหนดระยะเวลาหรือกำหนดวันที่ศาลจะตัดสินใจเรื่องการออกหมายจับนี้

ด้านอิสราเอลปฏิเสธไม่เคยก่ออาชญากรรมสงครามในการทำสงครามกาซา ส่วนเนทันยาฮูประณามความพยายามออกหมายจับตัวเขาและรัฐมนตรีกลาโหมอิสราเอลว่า เป็นการกระทำแปลกประหลาดเกินขอบเขตทางด้านศีลธรรมไปอย่างมากในเชิงประวัติศาสตร์ และเป็นการราดน้ำมันลงบนกองไฟแห่งการต่อต้านยิวที่กำลังร้อนแรงไปทั่วโลก นอกจากนี้ การเปรียบตัวเขาให้อยู่ในระดับเดียวกับแกนนำฮามาสที่จะถูกออกหมายจับพร้อมกันนั้น เป็นการกระทำที่น่าละอาย

ด้านฮามาสระบุ ศาลไอซีซีทำเช่นนี้ เท่ากับกดเหยื่อลงไปให้อยู่ในฐานะที่ไม่ต่างอะไรกับเพชรฆาต