อาร์เจนตินาเงินเฟ้อ 300% ราคาสินค้าแพงต่อเนื่องแม้มีสัญญาณบวก

ข้อมูลของรัฐบาลอาร์เจนตินาที่มีการเผยแพร่เมื่อวันก่อน พบว่า อัตราเงินเฟ้อรายปีในประเทศแตะระดับใกล้ 300% ขณะที่ราคาสินค้าต่างๆ ยังคงเพิ่มสูงขึ้นต่อเนื่อง แม้อัตราเงินเฟ้อรายเดือนจะชะลอตัวลงนับตั้งแต่แตะระดับสูงสุด 25% ในเดือนธันวาคม

บรรดาพ่อค้าแม่ค้าและผู้บริโภคต่างพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า ไม่สำคัญว่าเงินเฟ้อจะลดลงมาเท่าไหร่ เนื่องจากไม่สะท้อนความเป็นจริงในตอนนี้ที่ราคาสินค้ายังแพง เมื่อเงินเฟ้อลดลง ข้าวของต่างๆ ควรจะปรับลดราคาลงมา แต่ความจริงแล้วไม่ใช่

เจ้าของแผงขายผักผลไม้ในตลาดแห่งหนึ่งในกรุงบัวโนสไอเรส บอกว่าจำเป็นต้องปรับเพิ่มเงินเดือนให้คนงาน เพราะค่าเช่าห้องแพงขึ้น ขณะที่ต้นทุนต่างๆ เช่น ถุงพลาติก ก็ขยับราคาขึ้นเช่นกัน ผลักดันให้ราคาผักผลไม้ อย่างแครอท และแอปเปิล ราคาแพงขึ้น เช่นเดียวกับค่าขนส่งแพงขึ้นกว่าเดิม ราคาน้ำมันดีเซลดีดตัวขึ้น ทุกอย่างแพงขึ้น แม้ว่าเธอจะพยายามมากน้อยแค่ไหนที่จะลดราคาสินค้าลง แต่ก็ไม่สามารถทำได้

รัฐบาลของประธานาธิบดี ฮาเวียร์ มิเลย์ ซึ่งรับมรดกตกทอดเป็นวิกฤตเศรษฐกิจครั้งใหญ่ ได้อวดอ้างเกี่ยวกับความสำเร็จในการปรับลดเงินเฟ้อรายเดือนซึ่งอ่อนตัวลงในปีนี้ นับตั้งแต่ มิเลย์ เข้ารับตำแหน่งในวันที่ 10 ธันวาคม เช่นเดียวกับแก้ไขปัญหาสกุลเงินเปโซอ่อนค่าลงอย่างหนัก เขายังผลักดันมาตรการรัดเข็มขัด ด้วยการปรับลดการใช้จ่ายและหาทางรักษาสภาพคล่องในตลาด ซึ่งได้รับการขานรับเป็นอย่างดีจากนักลงทุน และช่วยส่งเสริมสถานะทางการเงินของรัฐบาลและขับเคลื่อนการฟื้นตัวของตลาดทุนและพันธบัตรรัฐบาล

อย่างไรก็ดี มาตรการดังกล่าวส่งผลกระทบอย่างหนักต่อค่าแรงและกิจกรรมทางเศรษฐกิจของประชาชนในประเทศ อูเจนิโอ มาริ หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์ จากบริษัทที่ปรึกษา Libertad and Progreso Foundation มองว่า การรัดเข็มขัดทางการเงิน หยุดอัดฉีดเปโซเข้าสู่เศรษฐกิจส่งผลให้เกิดอาการช็อกในหมู่ประชาชน แต่เขายังเชื่อว่า สิ่งต่างๆ หลังจากนี้น่าจะดีขึ้นเรื่อยๆ

ขณะที่ชาวบ้านคนหนึ่งยอมรับว่า ไม่ได้รู้สึกว่าเงินเฟ้อชะลอตัว ในขณะที่กลุ่มคนเกษียณอายุทั้งหลาย เช่นเดียวกับแรงงานภาครัฐได้รับผลกระทบหนักหน่วงที่สุดจากมาตรการรัดเข็มขัดของมิเลย์ พวกเขาได้แต่หวังว่า วิกฤตครั้งเลวร้ายนี้จากการเสียสละของประชาชน จะมีแง่ดีบางประการและจะช่วยให้ผู้สามารถหลุดพ้นจากวิกฤตครั้งนี้ได้

—————

ภาพ: Reuters