ทำไม? แผ่นดินไหวตุรกี-ซีเรีย มีผู้เสียชีวิตมาก ล่าสุดยอดทะลุ 4,300 ราย
ทำไม "แผ่นดินไหวตุรกี-ซีเรีย" ถึงมีผู้เสียชีวิตจำนวนมาก ล่าสุดมีรายงานว่ายอดทะลุ 4,300 รายแล้ว
ทำไม "แผ่นดินไหวตุรกี-ซีเรีย" ถึงมีผู้เสียชีวิตจำนวนมาก ล่าสุดมีรายงานว่ายอดทะลุ 4,300 รายแล้ว
เหตุแผ่นดินไหวความรุนแรงขนาด 7.8 ที่ตุรกี ถือได้ว่าเป็นหนึ่งในแผ่นดินไหวที่มีผู้เสียชีวิตมากที่สุดครั้งหนึ่งในรอบทศวรรษ เหตุใดจึงเกิดความสูญเสียมากเช่นนี้ โดยบรรดานักวิทยาศาสตร์และนักธรณีวิทยา ให้เหตุผลว่าทำไมแผ่นไหวครั้งนี้จึงรุนแรงและนำมาซึ่งความสูญเสียมา The Straits Times ได้รวบรวมข้อมูลเหล่านี้
จุดเกิดแผ่นดินไหว
ศูนย์กลางของแผ่นดินไหว อยู่ห่างจากเมืองนูร์ดากี ของตุรกีราว 26 กิโลเมตร ที่ความลึก 18 กิโลเมตร บนรอยเลื่อนอนาโตเลียตะวันออก แรงสั่นสะเทือนขยายไปในทิศทางตะวันออกเฉียงเหนือ จึงทำให้เกิดความเสียหายมาในทางตอนกลางของตุรกี และซีเรีย
ในช่วงศตวรรษที่ 20 รอยเลื่อนอนาโตเลียตะวันออกเกิดปรากฏการณ์แผ่นดินไหวครั้งใหญ่ไม่มากนัก โดยมีการแผ่นดินไหวที่มีแรงสั่นสะเทือนเกิด 6 เพียงสามครั้ง นับตั้งแต่ปี 1970 แต่หากย้อนไปก่อนหน้านั้น ในปี 1822 เคยเกิดแผ่นดินไหวรุนแรงระดับ 7 ในภูมิภาคนี้ คร่าชีวิตผู้คนไปราวสองหมื่นคน
โดยเฉลี่ยแล้ว ในแต่ละปีโลกจะมีแผ่นดินไหวที่มีความรุนแรงเกินระดับ 7 ไม่ถึง 20 ครั้ง จึงทำให้แผ่นดินไหวครั้งล่าสุดที่ตุรกีนี้ ถือเป็นเหตุรุนแรง
ดร. โจอันนา วอล์คเกอร์ จากสถาบันลดความเสี่ยงและภัยพิบัติ แห่ง University College London กล่าวว่า ในปี 2016 เคยเกิดแผ่นดินไหวรุนแรงระดับ 6.2 ในทางตอนกลางของอิตาลี ซึ่งคร่าชีวิตผู้คนไปราว 300 คน แต่เหตุครั้งนี้ที่ตุรกีและซีเรีย ปล่อยพลังมากกว่าแผ่นดินไหวที่อิตาลีถึง 250 เท่า
นอกจากนี้ แผ่นดินไหวที่มีผู้เสียชีวิตมากที่สุดสองเหตุการณ์ในช่วงปี 2013-2022 ยังมีแรงสั่นสะเทือนรุนแรงเท่ากับเหตุที่เกิดขึ้นเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมาด้วย
**ปัจจัยที่ทำให้เหตุการณ์ครั้งนี้ร้ายแรง
1.ลักษณะของรอยเลื่อน
รอยเลื่อนอนาโตเลียตะวันออก เป็นรอยเลื่อนตามแนวระดับ (strike-slip fault) ซึ่งเป็นรอยเลื่อนที่ชั้นหินทั้ง 2 ระนาบ เคลื่อนตัวในแนวระดับ ในทิศทางตรงข้ามกัน เสียดสีกันจนกว่าอีกแผ่นหนึ่งจะตกไปอยู่ในแนวนอน จึงทำให้เกิดแรงกดดันมหาศาลที่นำไปสู่แผ่นดินไหว
สำหรับแผ่นดินไหวที่ตุรกี-ซีเรียนั้น เกิดขึ้นในความลึกที่ตื้น ดังนั้นการสั่นสะเทือนในระดับพื้นผิวย่อมรุนแรงกว่าการสั่นสะเทือนในระดับเดียวกันแต่ในจุดที่ลึกกว่า
ทั้งนี้ รอยเลื่อนซาน แอนเดรียส ที่รัฐแคลิฟอร์เนียของสหรัฐฯ คือรอยเลื่อนตามแนวระดับที่เป็นที่รู้จักที่สุดของโลก และบรรดานักวิทยาศาสตร์เคยเตือนเช่นกันอาจเกิดแผ่นดินไหวอันเลวร้าย
2.แผ่นดินไหวเกิดในภูมิภาคที่มีประชากรหนาแน่น
แผ่นดินไหวครั้งนี้ เกิดความเสียหายมาก เพราะเกิดขึ้นในเวลา 04.17 น. ตามเวลาท้องถิ่น หมายความว่าผู้คนกำลังหลับใหล และติดอยู่ในอาคารบ้านเรือนของตนเองที่พังถล่มลงมา
นอกจากนี้ การสร้างอาคารยังไม่ได้ออกแบบมาดีพอสำหรับพื้นที่ที่เสี่ยงต่อแผ่นดินไหวขนาดใหญ่เช่นนี้
ที่ผ่านมา แผ่นดินไหวความรุนแรงระดับนี้ที่เกิดในพื้นที่ชุมชนหนาแน่น มักคร่าชีวิตผู้คนไปหลายพันคน เช่น แผ่นดินไหวขนาด 7.8 ที่เนปาลในปี 2015 มีผู้เสียชีวิตเกือบเก้าพันคน
ผู้เชี่ยวชาญมองว่า สถานการณ์ที่ตุรกีและซีเรียไม่ค่อยดีเท่าไหร่นัก อาจมีผู้เสียชีวิตหลายพันคนหรือแตะระดับหลักหมื่นคนได้ เพราะสภาพอากาศในฤดูหนาวเวลานี้ ทำให้คนที่ติดอยู่ภายใต้ซากปรักหักพัง มีโอกาสที่จะรอดชีวิตน้อยลง
**จับตาอาฟเตอร์ช็อค
หลังเกิดแผ่นดินไหวขนาด 7.8 แล้ว 11 นาทีต่อมา ยังเกิดแรงสั่นสะเทือนขนาด 6.7 และไม่กี่ชั่วโมงต่อมา แรงสั่นสะเทือนขนาด 7.5 และตามมาด้วยขนาด 6 อีกรอบ
ดร. โรเจอร์ มัสสัน นักวิจัยจากสถาบันสำรวจธรณีวิทยาของอังกฤษ กล่าวว่า สิ่งที่เราจะเห็นต่อจากนี้คือ จะเกิดแรงสั่นสะเทือนกระจายไปยังรอยเลื่อนอื่นๆใกล้เคียง ดังนั้นจะเกิดแผ่นดินไหวต่อเนื่องไปอีกระยะหนึ่ง
โดยในปี 1822 ที่เคยเกิดแผ่นดินไหวครั้งใหญ่ในบริเวณนี้ มีอ๊าฟเตอร์ช็อคเกิดตามมาต่อเนื่องไปถึงอีกปีเลยทีเดียว
ล่าสุดรอยเตอร์รายงานยอดผู้เสียชีวิตล่าสุด ทะลุ 4,300 รายแล้ว คาดว่ายอดผู้เสียชีวิตจะเพิ่มขึ้นอีก เนื่องจากเจ้าหน้าที่กู้ภัยยังคงปฏิบัติการค้นหาอย่างต่อเนื่อง