อัปเดตล่าสุด! ยอดผู้เสียชีวิต ดินถล่มมาเลเซียเพิ่ม 23 คน สูญหายนับ 10 ราย

เจ้าหน้าที่กู้ภัยมาเลเซีย ยังคงเร่งค้นหาผู้ประสบภัยจากเหตุดินถล่มบริเวณจุดตั้งแคมป์ชื่อดังในรัฐสลังงอร์ ของมาเลเซีย  ยอดผู้เสียชีวิตเพิ่มขึ้นเป็น 23 คนแล้ว ในจำนวนนี้มีเด็กรวมอยู่ด้วย 10 คนและยังมีแนวโน้มที่จะเพิ่มสูงขึ้นอีก เนื่องจากยังคงมีผู้สูญหายอีก 10 คน

โดย เมื่อกลางดึกที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ต้องยุติการค้นหาชั่วคราว เนื่องจากสภาพอากาศที่มีฝนตกหนัก ประกอบกับความมืดที่ปกคลุม  ก่อนจะกลับมาเริ่มต้นค้นหากันต่ออีกครั้งในวันนี้(17 ธ.ค.) เวลา 8 นาฬิกา 30 นาที วันนี้ตามเวลาท้องถิ่น  เบื้องต้นยอมรับว่าโอกาสที่จะเจอผู้รอดชีวิตเพิ่มเติมค่อนข้างน้อย ซึ่งคาดว่าปฏิบัติการค้นหานี้จะดำเนินต่อเนื่องไม่เกิน 7 วัน

ขณะที่เจ้าหน้าที่ให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่า เจ้าของฟาร์มบริเวณจุดเกิดเหตุไม่มีใบอนุญาตให้บริการจุดตั้งแคมป์ พร้อมเร่งการตรวจสอบ ซึ่งหากพบว่า เจ้าของฟาร์มลักลอบดำเนินการแบบผิดกฎหมายก็ต้องถูกดำเนินคดีด้วย   ซึ่งจุดที่เกิดเหตุเป็นการทำฟาร์มออแกนิค เจ้าของได้รับอนุญาตให้ทำฟาร์มแต่ไม่ได้ยื่นขอใบอนุญาตในการตั้งแคมป์ 3 แห่งในที่พัก หากพบว่ามีความผิด เจ้าของจะถูกลงโทษ จำคุกสูงสุด 3 ปี หรือ ปรับสูงสุด 50,000ริงกิต หรือประมาณ 11,300 ดอลลาร์ 

ล่าสุด นายอมิรูดิน ชาห์รี มุขมนตรีรัฐสลังงอร์ ได้ประกาศผ่านทางทวิตเตอร์ ให้ทุกพื้นที่ตั้งแคมป์ที่พักที่อยู่ใกล้แม่น้ำ ไหล่เขา และพื้นที่เสี่ยง ทั่วประเทศ เป็นระยะเวลา 7 วัน

 เพื่อหลีกเลี่ยงเหตุการณ์ซ้ำซ้อน

ขณะที่นายกรัฐมนตรีอันวาร์ อิบราฮิม ของมาเลเซีย ได้เดินทางลงพื้นที่ไปตรวจสอบจุดเกิดเหตุด้วยตัวเองเมื่อช่วงค่ำวานนี้ และยืนยันว่า จะให้ความช่วยเหลือด้านการเงินแก่ครอบครัวของผู้ประสบภัยที่เสียชีวิต ครอบครัวละ 10,000 ริงกิต หรือเกือบ 80,000 บาท ขณะที่ผู้บาดเจ็บจะได้เงินเยียวยาคนละ 1,000 ริงกิต หรือราวๆ 8,000 บาท

จากการตรวจสอบเหตุดินถล่มเบื้องต้นพบว่า ปริมาตรดินประมาณ 450,000 ลูกบาศก์เมตรไถลลงมาจากความสูงที่คาดว่าอยู่ 30 เมตร และปกคลุมพื้นที่ด้านล่างด้วยความกว้างประมาณ 4,047 ตารางเมตร

ส่วนสหรัฐฯที่เผชิญอากาศหนาวจัดมีหิมะตกหนัก และยังมีทอร์นาโด ในหลายพื้นที่ทางตอนใต้ ทำให้มีผู้เสียชีวิต 3 คน  ทำให้ต้องปิดถนนหลายสาย และยกเลิกเที่ยวบินหลายพันเที่ยว เกิดไฟฟ้าดับกระทบประชาชนหลายหมื่นคน  ล่าสุดมีผู้ประสบภัยหนาวโพสต์คลิปลงโซเชียล มีเดีย เล่าว่า  ติดพายุหิมะอยู่ในรัฐเซาธ์ดาโกตามานาน 4 วันแล้วตั้งแต่ 13-16 ธันวาคมที่ผ่านมา   โดยมีภาพรถหลายคันที่จอดอยู่ด้านนอกที่แทบจะกลายเป็นน้ำแข็ง โดยรถบางคันถูกหิมะปกคลุมแทบทั้งคัน  และกระแสลมแรงพัดเกล็ดหิมะปลิวว่อนไปทั่ว 

ส่วนสถานการณ์พายุฤดูหนาวรุนแรงถล่มสหรัฐฯ ตั้งแต่วันศุกร์ที่แล้ว (9 ธ.ค.) ล่าสุด พายุได้เคลื่อนไปถึงภาคตะวันออกเฉียงเหนือของสหรัฐฯ แล้ว ทำให้เกิดหิมะตกหนักและกระแสลมแรง คาดว่าหิมะจะตกหนักตลอดสุดสัปดาห์นี้ 

ภาพ Reuters