OPEC+ ไม่เพิ่มกำลังผลิตน้ำมัน หลังอียูกำหนดเพดานราคาน้ำมันรัสเซีย
กลุ่มโอเปกพลัสยืนยันจะไม่เพิ่มกำลังการผลิตน้ำมัน ระบุต้องรอดูผลกระทบที่อาจเกิดขึ้น หลังอียูกำหนดเพดานราคาน้ำมันของรัสเซีย
---โอเปกพลัสยังไม่เพิ่มกำลังผลิต---
เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา กลุ่มโอเปกพลัสประกาศจะยังคงลดกำลังการผลิตวันละ 2 ล้านบาร์เรลต่อไป หลังเริ่มบังคับใช้มาตรการนี้มาตั้งแต่เดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา เพื่อพยุงราคาน้ำมันดิบที่ราคาตกลง
กลุ่มโอเปกพลัสให้เหตุผลว่า กลุ่มชาติผู้ส่งออกน้ำมันยังไม่แน่ใจว่าว่าราคาน้ำมันดิบจะมีทิศทางอย่างไร หลังชาติตะวันตกประกาศมาตรการกำหนดเพดานราคาน้ำมันที่ขนส่งทางทะเลของรัสเซีย
The Wall Street Journal รายงานว่า สมาชิกบางประเทศ สนับสนุนให้กลุ่มโอเปกเพิ่มกำลังการผลิตได้แล้ว โดยอ้างว่าอาจเกิดภาวะติดขัด เพราะคาดว่าน้ำมันรัสเซียอาจหายไปจากตลาดราว 1-1.5 ล้านบาร์เรลต่อวัน จากมาตรการดังกล่าว
ทั้งนี้ ในเดือนตุลาคมที่ผ่านมา เดิมรัสเซียผลิตน้ำมันราววันละ 9.9 ล้านบาร์เรล ในขณะที่รัฐบาลรัสเซียย้ำเมื่อวานนี้ว่าจะไม่ขายน้ำมันให้กับชาติที่ใช้มาตรการเพดานราคาของอียู
แต่ท้ายสุดแล้ว กลุ่มโอเปกมีฉันทามติว่า ยังไม่ใช่เวลาที่เหมาะสมที่จะเพิ่มกำลังการผลิต เพราะเมื่อเดือนที่แล้ว ราคาน้ำมันลดต่ำลงไปกว่า 13% แล้ว
---อียูประกาศกำหนดเพดานราคาน้ำมันรัสเซีย---
ทั้งนี้ สหภาพยุโรป ออสเตรเลีย และกลุ่มประเทศ G7 ประกาศเพดานราคาน้ำมันรัสเซียที่ไม่เกิน 60 ดอลลาร์สหรัฐฯ ต่อบาร์เรล มีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันจันทร์นี้ โดยมีเป้าหมายเพื่อสกัดช่องทางหารายได้ของรัสเซีย ซึ่งอาจนำไปใช้ในการทำสงครามในยูเครน นอกจากนี้ มาตรการแบนการนำเข้าน้ำมันจากรัสเซียเกือบทั้งหมดก็ยังมีผลบังคับใช้ด้วย
ด้านดมิทรี เปสคอฟ โฆษกทำเนียบเครมลิน กล่าวช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมาว่ารัสเซียจะไม่ยอมรับมาตรการดังกล่าว และจะประเมินสถานการณ์ก่อนตัดสินใจว่าจะตอบโต้อย่างไร
ขณะที่ผู้สื่อข่าวของสำนักข่าว Al Jazeera รายงานจากมอสโกว่า รัสเซียเตรียมพร้อมรับเรื่องการกำหนดเพดานราคาน้ำมันมาล่วงหน้าแล้ว และรัสเซียรู้ดีว่า จะใช้ทางเลือกอื่นในการส่งออกน้ำมันไปยังประเทศที่ไม่ได้ร่วมตกลงในมาตรการนี้ของอียู
นอกจากนี้ ผู้ซื้อน้ำมันรายใหญ่สุดของรัสเซียสองราย คือ จีนและอินเดีย ยังไม่ได้ประกาศว่าจะเข้าร่วมมาตรการดังกล่าว
---ประเด็น ‘น้ำมัน’ กลางวิกฤตรัสเซีย-ยูเครน---
ก่อนหน้านี้ ในเดือนตุลาคมที่ผ่านมา กลุ่มโอเปกพลัสซึ่งมีรัสเซียเป็นสมาชิกรวมอยู่ด้วย ทำให้สหรัฐฯ และชาติตะวันไม่พอใจ หลังกลุ่มโอเปกพลัสตกลงที่จะตัดลดกำลังการผลิตน้ำมันลงวันละ 2 ล้านบาร์เรล หรือราว 2% ของความต้องการโลก ตั้งแต่เดือนพฤศจิกายนไปจนถึงสิ้นปี 2023
ในตอนนั้น รัฐบาลสหรัฐฯ กล่าวหากลุ่มโอเปกพลัส และซาอุดิอาระเบีย ซึ่งเป็นผู้ผลิตน้ำมันรายใหญ่สุดของโลกว่า เลือกข้างรัสเซีย ทั้ง ๆ ที่รัสเซียเปิดปฏิบัติการทางทหารในยูเครน เท่ากับว่าเป็นการบั่นทอนความพยายามของประชาคมโลกในการหาทางยับยั้งสงครามของรัสเซียในยูเครน
นอกจากนี้ การตัดสินใจของโอเปกพลัส ยังถูกมองว่าเป็นการตบหน้าประธานาธิบดีโจ ไบเดนของสหรัฐฯ ที่ตอนนั้นกำลังเข้าสู่การเลือกตั้งกลางเทอมด้วย
แต่กลุ่มโอเปกพลัสแย้งว่า ต้องตัดลดกำลังการผลิตจากการคาดการณ์ทางเศรษฐกิจที่อ่อนแอลง ราคาน้ำมันลดต่ำลงตั้งแต่เดือนตุลาคม เป็นผลมาจากการขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางในกลุ่มประเทศยุโรปและสหรัฐฯ รวมทั้งการที่เศรษฐกิจจีนและเศรษฐกิจโลกเติบโตช้าลง
ทั้งนี้ การประชุมของกลุ่มโอเปกในวันอาทิตย์นั้นถือว่าไม่ใช่เรื่องปกติ เพราะโดยทั่วไปแล้ว กลุ่มโอเปกจะประชุมกันในวันทำงาน แต่การประชุมครั้งนี้เกิดขึ้นช่วงสุดสัปดาห์ก่อนหน้ามาตรการแบนน้ำมันและกำหนดเพดานราคาน้ำมันรัสเซียของอียูจะเริ่มบังคับใช้ในวันจันทร์นี้ (5 ธันวาคม)
—————
แปล-เรียบเรียง: ธันย์ชนก จงยศยิ่ง
ภาพ: Reuters
ข้อมูลอ้างอิง: