ญี่ปุ่นกระชับสัมพันธ์แอฟริกา ทุ่มงบช่วยพัฒนา คานอิทธิพลจีน
ญี่ปุ่นรุกแอฟริกา ประกาศทุ่มงบมหาศาลช่วยพัฒนาประเทศ ท่ามกลางอิทธิพลจีน
นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่นเผยว่า ญี่ปุ่นจะร่วมมือใกล้ชิดกับชาติแอฟริกันมากขึ้น และประกาศทุ่มงบประมาณกว่า หนึ่งล้านล้านบาท ช่วยทวีปแอฟริกา ขณะที่จีนกำลังมีบทบาทอย่างมากในทวีปแอฟริกาเช่นกัน
---ญี่ปุ่นกระชับสัมพันธ์แอฟริกา---
ฟูมิโอะ คิชิดะ นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่น กล่าวในการประชุมนานาชาติโตเกียวว่าด้วยเรื่องการพัฒนาแอฟริกา ครั้งที่ 8 จัดขึ้นที่ตูนีเซียเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมาว่า ญี่ปุ่นจะร่วมมือใกล้ชิดกับทวีปแอฟริกามากขึ้น เพื่อส่งเสริมเศรษฐกิจที่ยืดหยุ่น โดยญี่ปุ่น ต้องการสร้างสภาพแวดล้อมที่ชาวแอฟริกันสามารถอยู่ได้อย่างสันติและมั่นคง เพื่อจะได้พัฒนาประเทศได้
คิชิดะกล่าวด้วยว่า ญี่ปุ่นจะใช้โอกาสที่ญี่ปุ่นจะได้อยู่ในคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ หรือ UNSC ปีหน้า ในการผลักดัน ให้ทวีปแอฟริกาได้เป็นสมาชิกอย่างถาวรใน UNSC ด้วย
ด้าน แมคกี้ ซัลล์ ประธานาธิบดีเซเนกัล ซึ่งเป็นประธานสหภาพแอฟริกา ที่มีสมาชิก 55 ประเทศ กล่าวสนับสนุนข้อเรียกร้องนี้ของคิชิดะด้วย โดยเขากล่าวว่า ความขัดแย้งต่าง ๆ ที่ทำให้แอฟริกาไร้เสถียรภาพและยับยั้งการพัฒนาของแอฟริกา ต้องได้รับความสำคัญให้อยู่ในการพิจารณาในคณะมนตรีความมั่นคงได้แล้ว และย้ำว่า หากไม่มีความมั่นคง ก็ยากที่แอฟริกาจะพัฒนาได้
---จีนยกเลิกหนี้ให้กว่า 17 ประเทศ---
คาอิส ซาอิด ประธานาธิบดีตูนีเซีย เรียกร้องให้โลกดำเนินแนวทางใหม่ต่อแอฟริกา เนื่องจากหลายประเทศที่ติดหนี้ต่างชาติมหาศาลนับตั้งแต่ได้รับเอกราช กลายเป็นผู้ส่งออกทรัพยากรมนุษย์ เพราะชาวแอฟริกันที่มีทักษะ กลับถูกนำไปทำงานในประเทศทางตอนเหนือ จนไม่รู้ว่าใครเป็นเจ้าหนี้ใครกันแน่
ขณะที่ประธานาธิบดีเซเนกัล เรียกร้องให้มีการยกเลิกหรือเลื่อนการชำระหนี้ของชาติแอฟริกา รวมทั้งให้กลุ่มประเทศ G7 ปฏิบัติตามคำมั่นสัญญา ที่จะระงับการชำระดอกเบี้ยให้ ขณะที่แอฟริกากำลังเผชิญวิกฤต และต้องกอบกู้เศรษฐกิจใหม่ก่อน
ทั้งนี้ การประชุมครั้งนี้ของญี่ปุ่นกับชาติแอฟริกา มีขึ้นขณะที่จีนกำลังสยายปีกอิทธิพลในแอฟริกาผ่านโครงการแถบและเส้นทาง ซึ่งเป็นการเข้ามาลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานในทวีปแอฟริกา โดยเมื่อช่วงต้นเดือนนี้ จีนได้ประกาศยกหนี้เงินกู้จำนวน 23 รายการ ซึ่งเชื่อว่าเป็นหนี้เงินกู้ที่ปราศจากดอกเบี้ยให้กับประเทศในแอฟริกา 17 ประเทศ
ขณะที่ ข้อมูลจากสถาบันศึกษาก้าวหน้าระหว่างประเทศ ของมหาวิทยาลัยจอห์น ฮอปกินส์ ในสหรัฐฯ พบว่า ตั้งแต่ปี 2000 จีนได้ประกาศยกหนี้เงินกู้ให้กับประเทศในแอฟริกาหลายรอบ เฉพาะในปี 2019 ก็ยกหนี้ไปจำนวนกว่า 3,400 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ หรือ 1.2 แสนล้านบาท โดยเกือบทั้งหมดเป็นหนี้เงินกู้ระหว่างประเทศแบบไม่มีดอกเบี้ย
นอกจากยกหนี้เงินกู้แล้ว จีนยังประกาศพร้อมโยกเงินทุนสำรองกว่า 10,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ หรือ 3.6 แสนล้านบาท ในกองทุนการเงินระหว่างประเทศ หรือ IMF ของตน ไปให้กับประเทศยากจนในแอฟริกา และภูมิภาคอื่น ๆ ด้วย
---จ่อแต่งตั้งทูตพิเศษประจำแหลมแอฟริกา---
ในโอกาสนี้ ผู้นำญี่ปุ่นจึงประกาศว่า ญี่ปุ่นจะทุ่มงบประมาณช่วย 30,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ หรือราว 1 ล้านล้านบาท สำหรับภาครัฐและเอกชนในแอฟริกา
นอกจากนี้ ญี่ปุ่นจะอัดฉีดเงินราว 8.3 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ หรือ เกือบ 300 ล้านบาท ให้กับแอฟริกาตะวันตก ซึ่งเกิดการโจมตีด้วยกองกำลังติดอาวุธมานานลายปี โดยพื้นที่ชายแดนลิปตาโค-กูร์มา ซึ่งอยู่ระหว่างชายแดนมาลี ไนเจอร์ และเบอร์กินา ฟาโซ นั้นเป็นพื้นที่ที่เผชิญปัญหามากแต่เต็มไปด้วยทอง โดยงบประมาณนี้จะนำไปช่วยพัฒนาความร่วมมือระหว่างทางการท้องถิ่นกับประชาชนที่มีกว่าห้าล้านคน
คิชิดะยังกล่าวด้วยว่า ญี่ปุ่นจะแต่งตั้งทูตพิเศษประจำแหลมแอฟริกา ซึ่งประกอบด้วยเอธิโอเปีย เคนยา และโซมาเลีย ที่เผชิญภัยแล้งมายาวนาน จนสหประชาชาติเตือนว่า เกิดหายนะภัยด้านมนุษยธรรมอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน
ขณะที่แถลงการณ์ของการประชุมครั้งนี้ แสดงความกังวลอย่างยิ่งต่อผลกระทบด้านเศรษฐกิจและสังคมจากสงครามในยูเครน ที่ทำให้เกิดปัญหาความไม่มั่นคงทางอาหารในแอฟริกา จึงเรียกร้องให้มีการกลับมาส่งออกธัญพืช เมล็ดพันธ์พืช และสินค้าเกษตร ตอลดจนปุ๋ย เข้าสู่ตลาดโลก เพื่อช่วยบรรเทาความยากลำบากของประชากรแอฟริกันด้วย
————
แปล-เรียบเรียง: ธันย์ชนก จงยศยิ่ง
ภาพ: Getty Images