จับตาอนาคตการเมืองอังกฤษ หลัง ‘บอริส จอห์นสัน’ ลาออก ใครจะขึ้นเป็นผู้นำคนต่อไป?
แม้บอริส จอห์นสัน นายกรัฐมนตรีสหราชอาณาจักร ลาออกจากตำแหน่ง เพราะทนแรงกดดันจากคนในพรรคและประชาชนไม่ไหว แต่เขาจะยังคงรักษาการณ์ไปจนกว่าจะได้ผู้นำคนใหม่ แต่ล่าสุดกระแสภายในพรรคอนุรักษ์นิยม เรียกร้องให้มีการเปลี่ยนตัวผู้นำคนใหม่ทันที ขณะที่ นักวิเคราะห์ มองว่า ไม่ว่าใครจะขึ้นเป็นผู้นำคนใหม่ สหราชอาณาจักรจะยังคงสนับสนุนยูเครนอย่างแข็งขันเช่นเดิม
---เรื่องอื้อฉาวสู่การสละเก้าอี้ผู้นำ---
หลังจากที่ทนแรงกดดันให้ลาออกจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรีไม่ไหว ท่ามกลางความไม่พอใจของประชาชนและสมาชิกพรรคอนุรักษ์นิยม จากกรณีแต่งตั้งคริส พินเชอร์ ดำรงตำแหน่งประธานวิปรัฐบาล แม้เขาเคยมีเรื่องอื้อฉาวทางเพศ รวมทั้งการจัดงานเลี้ยงสังสรรค์หลายครั้งที่บ้านพักนายกรัฐมนตรีในช่วง 2 ปี ที่สหราชอาณาจักรอยู่ภายใต้มาตรการล็อกดาวน์คุมเข้มโควิด
ในที่สุดบอริส จอห์สัน ก็ประกาศลาออกจากตำแหน่งแล้วเมื่อวันพฤหัสบดี (6 กรกฎาคม) ที่ผ่านมา แต่เขาระบุว่า จะยังคงทำหน้าที่รักษาการณ์นายกรัฐมนตรีต่อไป จนกว่าจะได้หัวหน้าพรรคอนุรักษ์นิยมคนใหม่ ซึ่งกระบวนการนี้จะกินเวลานานหลายเดือน คาดว่าน่าจะถึงเดือนตุลาคม และเขาได้แต่งตั้งคณะรัฐมนตรีชุดใหม่ แทนที่รัฐมนตรีที่ลาออกเพื่อประท้วงความเป็นผู้นำของเขา แต่จะไม่ขอให้พวกเขาตัดสินใจเรื่องนโยบายสำคัญ ๆ จนกว่าจะมีผู้นำคนใหม่เข้ามาแทนที่
นักวิเคราะห์ มองว่า การเคลื่อนไหวที่ไม่คาดฝันนี้ ทำให้วิกฤตทางการเมืองของสหราชอาณาจักรหยั่งลึกอย่างที่ไม่เคยปรากฏมาก่อน และเป็นการแหกขนบธรรมเนียมของอดีตนายกรัฐมนตรีที่ลาออกจากตำแหน่งด้วย
---ฝ่ายค้านเรียกร้อง ‘ยุบสภา’---
รายงาน ระบุว่า พรรคแรงงานกลางซ้าย ซึ่งเป็นพรรคฝ่ายค้านหลักของสหราชอาณาจักร เรียกร้องให้ยุบสภาและการเลือกตั้งเร็วขึ้น แต่ด้วยคะแนนเสียงข้างมาก 73 ที่นั่งในสภา และจะครบกำหนดการเลือกทั่วไปครั้งใหม่ในเดือนมกราคม 2025 นักวิเคราะห์ มองว่า พรรคอนุรักษ์นิยมไม่น่าจะสละอำนาจ
นอกจากนี้ พรรคแรงงานขู่จะปลดนายกรัฐมนตรีทันที ผ่านการลงมติไม่ไว้วางใจ แม้จะต้องได้รับการสนับสนุนจากพรรคอนุรักษ์นิยมอย่างมากถึงจะประสบความสำเร็จก็ตาม
คำถามสำคัญคือ พวกเขาสามารถเร่งกระบวนการคัดเลือกผู้สืบทอดตำแหน่งหัวหน้าพรรคอนุรักษ์นิยมคนใหม่ได้หรือไม่ หากพวกเขายืนกรานให้จอห์นสันลาออกตอนนี้
เซอร์ จอห์น เมเจอร์ อดีตนายกรัฐมนตรี กล่าวกับพรรคอนุรักษ์นิยมหลายคนว่า เพื่อความผาสุกโดยรวมของประเทศ จอห์นสันไม่ควรอยู่ที่ถนนดาวนิงนานเกินความจำเป็น เมื่อเขาไม่สามารถควบคุมความเชื่อมั่นของสภาได้ เพื่อให้การเปลี่ยนแปลงของรัฐบาลเป็นไปอย่างราบรื่น
นักวิเคราะห์ มองว่า ทางออกหนึ่งที่เป็นไปได้ คือการแต่งตั้งโดมินิค ราบ รองนายกรัฐมนตรี ให้รักษาการณ์นายกรัฐมนตรีแทน เพราะเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจมากกว่า เพราะราบถูกมองว่าเป็นกลาง หลังจากที่เขาประกาศว่าไม่มีเจตจำนงต้องการเป็นผู้นำ
---การคัดเลือกหัวหน้าพรรค---
การเลือกหัวหน้าพรรคอนุรักษ์นิยมเป็นเรื่องที่ซับซ้อน ผู้สมัครเป็นหัวหน้าพรรค ต้องได้รับการเสนอชื่อจาก ส.ส.ของพรรค 2 คน จากนั้นจะมีการลงคะแนนหลายรอบ ผู้ที่มีคะแนนเสียงน้อยในแต่ละรอบจะถูกคัดออก จนกว่าจะเหลือผู้สมัครเพียง 2 คน จากนั้นจะมีการลงคะแนนครั้งสุดท้าย โดยสมาชิกพรรคผ่านทางบัตรลงคะแนนทางไปรษณีย์ทั่วประเทศ คาดว่าจะมียืนยันการเริ่มกระบวนการนี้ในสัปดาห์หน้า และนายกรัฐมนตรีคนใหม่น่าจะดำรงตำแหน่งภายในเดือนกันยายน
ผู้ที่ได้เป็นหัวหน้าคนใหม่ของพรรคอนุรักษ์นิยม ซึ่งมีเสียงข้างมากในสภา จะกลายเป็นนายกรัฐมนตรีคนใหม่โดยพฤตินัย ดังนั้นจึงไม่จำเป็นต้องยุบสภาเพื่อจัดเลือกตั้งก่อนกำหนด แต่ก็มีอำนาจที่จะทำเช่นนั้นได้เช่นกัน
---ตัวเต็งผู้นำอังกฤษ---
ตัวเต็งที่คาดว่า จะได้เป็นผู้นำคนใหม่มีหลายคนด้วยกัน ไม่ว่าจะเป็นรีชิ สุนัก รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังที่ลาออกสัปดาห์นี้ ซาจิด จาวิด อดีตรัฐมนตรีกระทรวงการคลังและสาธารณสุข เป็นสมาชิกคณะรัฐมนตรีคนแรกที่ประกาศลาออกจากตำแหน่งเพื่อประท้วงจอห์นสัน
เจเรมี ฮันต์ อดีตรัฐมนตรีต่างประเทศ ที่มีคะแนนเป็นอันดับสองรองจากจอห์นสัน ระหว่างการแข่งขันชิงเก้าอี้พรรคอนุรักษ์นิยมครั้งล่าสุดในปี 2019
นอกจากนี้ ยังมีนาดฮิม ซาฮาวีรัฐมนตรีคลังที่เพิ่งได้รับการแต่งตั้งใหม่ และลิซ ทรัสส์ รัฐมนตรีต่างประเทศคนปัจจุบัน
สำนักข่าว The Straits Times มองว่า ผู้สมัครที่มีศักยภาพที่น่าสนใจที่สุดคือ เบน วอลเลซ อดีตนายทหารและรัฐมนตรีกระทรวงกลาโหมคนปัจจุบัน ท่าทางที่ดุดันและตรงไปตรงมาของเขา ทำให้เขาเป็นที่นิยมของผู้มีสิทธิเลือกตั้งสายอนุรักษ์นิยมทั่วไป
อย่างไรก็ตาม นักวิเคราะห์ มองว่า ไม่ว่าใครจะขึ้นมาเป็นนายกรัฐมนตรีคนใหม่ โครงร่างของนโยบายต่างประเทศไม่น่าจะเปลี่ยนแปลง สหราชอาณาจักรจะยังคงเป็นผู้สนับสนุนยูเครนอย่างเข้มแข็งในสงคราม เพราะได้รับการสนับสนุนเกือบเป็นเอกฉันท์ในรัฐสภาสหราชอาราจักร
นอกเหนือจากนี้ แทบทุกนโยบาย ตั้งแต่เศรษฐกิจไปจนถึงตำแหน่งในคณะรัฐมนตรี อาจจะมีการเปลี่ยนแปลงได้
ด้านคริส เมสัน บรรณาธิการข่าวการเมืองของสำนักข่าว BBC มองว่า นายกรัฐมนตรีคนต่อไป จะเป็นตัวละครที่แตกต่างจากบอริส จอห์นสันอย่างมาก ด้วยลักษณะและแรงจูงใจเบื้องหลังการโค่นล้มของเขา ทำให้มองว่า ความซื่อตรงและการเคารพความจริง เป็นคุณสมบัติที่ผู้สมัครทุกคนปรารถนาจะแสดงให้เห็น
—————
แปล-เรียบเรียง: สุภาพร เอ็ลเดรจ
ภาพ: Reuters