TNN เจาะลึกคู่ชิงชัยประธานาธิบดีฝรั่งเศสในการเลือกตั้งรอบ 2

TNN

World

เจาะลึกคู่ชิงชัยประธานาธิบดีฝรั่งเศสในการเลือกตั้งรอบ 2

เจาะลึกคู่ชิงชัยประธานาธิบดีฝรั่งเศสในการเลือกตั้งรอบ 2

การเลือกตั้งประธานาธิบดีฝรั่งเศสรอบแรกผ่านพ้นไปแล้วและได้ผู้เข้ารอบชิงสองคน คือประธานาธิบดีเอ็มมานูเอล มาครง ซึ่งต้องการเป็นประธานาธิบดีสมัยที่สอง กับนางมารีน เลอ เปน ผู้สมัครฝ่ายขวาจัด ที่ต้องการเป็นประธานาธิบดีหญิงคนแรกของประเทศ

การเลือกตั้งประธานาธิบดีฝรั่งเศสนปี 2022 นี้ ได้ผู้เข้ารอบชิงเหมือนห้าปีที่แล้ว คือ ประธานาธิบดีเอ็มมานูเอล มาครง จากพรรคสายกลาง La Republique en Marche และมารีน เลอ เปน จากพรรคสายขวาจัด Le Rassemblement National


การเลือกตั้งรอบสอง จะมีขึ้นในวันที่ 24 เมษายนนี้ เพื่อชี้ขาดว่าใครจะได้เป็นประธานาธิบดีของฝรั่งเศส โดยผู้ชนะต้องได้คะแนน 50% ขึ้นไป


ผลการนับคะแนนไปแล้ว 96% พบว่า


นายมาครง 27.42%


นางเลอ เปน 24.03%


ฌ็อง-ลุค เมล็องชง ฝ่ายซ้ายจัด ได้ 21.57%


เอริค เซ็มมูร์ ฝ่ายขวาจัด ได้ 6.97%


วาเลครี เปเครส ฝ่ายขวา ได้ 4.75%


---คำแถลงหลังผ่านเข้ารอบ---


นายมาครง ได้แถลงหลังทราบผลนับคะแนน เรียกร้องให้ประชาชนช่วยกันยับยั้งผู้สมัครฝ่ายขวาจัด ไม่ให้ได้ครองอำนาจ โดยเขากล่าวว่า ตอนนี้ยังไม่มีการตัดสินชี้ขาก เขาจะทำงานเพื่อโน้มน้าวคนทุกฝ่าย รวมทั้งคนที่งดออกเสียง และคนที่เลือกฝ่ายขวาจัด และฝ่ายซ้ายให้หันมาเลือกเขาให้ได้


มาครงระบุว่า เขาต้องการให้ฝรั่งเศสแข็งแรงในยุโรป ไม่ใช่เนรเทศตนเองออกจากยุโรป และในวันที่ 24 เมษายนนี้ ชาวฝรั่งเศสจะต้องเลือกเพื่อศักราชใหม่ของฝรั่งเศสและยุโรป ที่จะอยู่ด้วยกัน


ด้านนางเลอ เปน ประกาศ ให้คำมั่นว่า เธอจะเป็นประธานาธิบดีของทุกคน และจะฟื้นฟูระเบียบของประเทศภายในกรอบเวลาห้าปีของประธานาธิบดี เพื่อให้ฝรั่งเศสกลับมาเป็นตุดที่โดดเด่นของศตวรรษที่ 21 ที่เต็มไปด้วยโอกาส


---มาครง & เลอ เปน ต่างกันอย่างไร---


— มาครง —


- ชูเรื่องความต่อเนื่องและความเป็นผู้นำในช่วงวิกฤต ตั้งแต่วิกฤตเงินเฟ้อ โควิด-19 มาจนถึงวิกฤตรัสเซีย-ยูเครน


- เน้นว่าเขาไม่ได้เป็นฝ่ายซ้ายหรือฝ่ายขวา แต่จะนำแนวทางจากทั้งสองฝ่ายมาปรับใช้


- ในมุมฝ่ายขวา เขาจะลดภาษีสำหรับบริษัทมากขึ้น เพิ่มจำนวนตำรวจและผู้พิพากษาหลายพันอัตรา เพิ่มอายุเกษียณจาก 62 เป็น 65 ปี เพื่อลดหนี้มหาศาลของระบบบำนาญ


- ในมุมฝ่ายซ้าย เขาให้คำมั่นจะขึ้นเงินบำนาญขั้นต่ำ เพิ่มเจ้าหน้าของหน่วยบริหารสาธารณสุข เพิ่มความเท่าเทียมกันทางเพศ และให้ความสำคัญกับการแก้ปัญหาการคุกคามในโรงเรียน


— เลอ เปน —–


- แข็งกร้าวเรื่องผู้อพยพเข้าเมืองและอัตลักษณ์ของชาติ


- แบนการสวมผ้าคลุมศรีษาของหญิงมุสลิมในที่สาธารณะ


- จัดทำประชามติเรื่องการควบคุมการเข้าเมืองอย่างเข้มงวด รวมถึง การกำหนดให้ต้องยื่นใบสมัครพำนักระยะยาวจากต่างประเทศเท่านั้น / ยกเลิกการได้สัญชาติอัตโนมัติหากเกิดจากพ่อแม่ต่างชาติในแผ่นดินฝรั่งเศส และจะเพิ่มกฎการได้สัญชาติผ่านการสมรสให้ยากขึ้น


- ให้ความสำคัญกับคนฝรั่งเศสก่อน เช่น ให้สิทธิในการซื้อบ้านและเข้าถึงบริการสังคมต่างๆ แก่คนฝรั่งเศส ก่อนชาวต่างชาติ และจะเพิ่มเรือนจำ 25000 แห่ง และเพิ่มจำนวนตำรวจ


- ลดภาษีน้ำมันและค่าไฟจาก 20% เหลือ 5.5% และเพิ่มเงินบำนาญ


- ในด้านนโนบายต่างประเทศ เธอเสนอว่าจะถอนฝรั่งเศสออกจากกองบัญชาการร่วมของนาโต เพื่อให้สอดคล้องกับนโยบายเพิ่มอธิปไตยของฝรั่งเศส และเธอยังมีเสนอแนวทางต่าง ๆ ซึ่งจะทำให้เกิดความท้าทายต่อรากฐานของสหภาพยุโรปด้วย เช่นการเจรจาเรื่องเขตเชงเกนใหม่ เพื่อเพิ่มด่านเข้าเมือง และไม่ต้องการให้มีกฎหมายอียูใด ๆ ที่ขัดต่อกฎหมายฝรั่งเศส


---ฝ่ายกลาง-ซ้ายผนึกกำลังสกัดฝ่ายขวาจัด---


บรรดาผู้สมัครในกลุ่มฝ่ายซ้ายเกือบทั้งหมด ประกาศสนับสนุนนายมาครง โดยเฉพาะนายเมล็องชง ถึงขั้นเรียกร้องผู้สนับสนุนว่า อย่าลงคะแนนให้นางเลอ เปน แม้แต่เสียงเดียว ให้ช่วยกันขัดขวางไม่ให้ผู้สมัครฝ่ายขวาจัดได้เป็นประธานาธิบดี


ส่วนวาเลครี เปเครส จากพรรคขวากลาง ก็ประกาศสนับสนุนนายมาครงเช่นกัน


ด้านนายเซ็มมูร์ ประกาศสนับสนุนนางเลอ เปน โดยกล่าวว่า แม้เขามีความไม่ลงรอยกันกับนางเลอ เปน แต่นายมาครงนั้นเป็นตัวเลือกที่แย่กว่า จึงขอให้ผู้สนับสนุนของเขาหันไปเลือกนางเลอ เปนแทน


ผลโพลจาก Ifop-Fifucial พบว่า รอบชิง นายมาครงมีคะแนนนำนางเลอ เปน อย่างเฉียดฉิวที่เพียง 51% ต่อ 49% ซึ่งเป็นส่วนต่างที่แคบที่สุดที่โพลเคยสำรวจมา


ขณะที่โพลของ BFMTV คาดว่านายมาครงจะได้ 52% ส่วนนางเลอ เปนจะได้ 48%


โพลยังพบว่า คนรุ่นใหม่ราวหนึ่งในสี่และคนที่อายุมากกว่า 65 ปีขึ้นไป สนับสนุนนายมาครง และมากกว่าหนึ่งในสาม สนับสนุนนายเมล็องชง ส่วนนาง เลเปนมีฐานเสียอยู่ที่กลุ่มคนอายุระหว่าง 35-64 ปี


นอกจากนี้ ยังพบว่า สองพรรคการเมืองดั้งเดิมของฝรั่งเศส คือ พรรค La Partie Socialiste และ Les Republicains เกือบล่มสลายโดยสิ้นเชิง เพราผู้สมัครได้คะแนนต่ำกว่า 5% ขณะที่อัตรางดออกเสียงอยู่ที่ 25.16% ซึ่งถือว่าสูง

—————

ติดตามสถานการณ์ยูเครน-รัสเซียอย่างใกล้ชิด

https://bit.ly/TNNRussiaInvasion

—————

แปล-เรียบเรียง: ธันย์ชนก จงยศยิ่ง

ภาพ: Nicolas TUCAT / AFP

ข่าวแนะนำ