TNN รัสเซียงัดอาวุธเด็ด โจมตียูเครนด้วย ขีปนาวุธ ‘Kinzhal’ ที่เร็วเหนือเสียง และ “ไม่อาจหยุดยั้งได้”

TNN

World

รัสเซียงัดอาวุธเด็ด โจมตียูเครนด้วย ขีปนาวุธ ‘Kinzhal’ ที่เร็วเหนือเสียง และ “ไม่อาจหยุดยั้งได้”

รัสเซียงัดอาวุธเด็ด โจมตียูเครนด้วย ขีปนาวุธ ‘Kinzhal’ ที่เร็วเหนือเสียง และ “ไม่อาจหยุดยั้งได้”

ขีปนาวุธความเร็วเหนือเสียงของรัสเซีย สามารถโจมตีเป้าหมายได้ไกลถึง 2,000 กิโลเมตร ด้วยความเร็ว 10 เท่าของเสียง

---รัสเซียโจมตีสองวันด้วยขีปนาวุธ---


โฆษกกระทรวงกลาโหมของรัสเซียระบุเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา ว่ารัสเซียได้โจมตีคลังน้ำมันแห่งหนึ่งในยูเครนด้วย ขีปนาวุธความเร็วเหนือเสียง “คินซาล” ซึ่งเป็นการยิงมาจากน่านฟ้าของไครเมียยูเครน  และมีการใช้ขีปนาวุธร่อน “คาลีบร์” ที่ยิงจากเรือที่อยู่ในทะเลดำ ไปยังโรงงานนีซิน ซึ่งเป็นที่ซ่อมยานเกราะ


การโจมตีดังกล่าว ถือเป็นวันที่สองติดต่อกัน ที่รัสเซียใช้ขีปนาวุธคินซาล ซึ่งสามารถโจมตีเป้าหมายได้ไกลถึง 2000 กิโลเมตร ด้วยความเร็ว 10 เท่าของเสียง โดยหนึ่งวันก่อนนั้น กองทัพรัสเซียเผยว่า ได้ใช้ขีปนาวุธความเร็วเหนือเสียงคินซาล เป็นครั้งแรก ในภารกิจเพื่อทำลายคลังแสงทางตะวันตกของยูเครน


---ขีปนาวุธความเร็วเหนือเสียง อาวุธเด็ดของรัสเซีย---


เมื่อเดือนธันวาคมปีที่แล้ว ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน กล่าวว่า รัสเซียเป็นผู้นำโลกในเรื่องขีปนาวุธความเร็วเหนือเสียง ซึ่งความเร็ว ความคล่องแคล่วหลบหลีก และความสูงนั้น ทำให้ยากต่อการติดตามและยับยั้ง


ทั้งนี้ รัสเซียได้ใช้ขีปนาวุธความเร็วเหนือเสียงเป็นครั้งแรกในปฏิบัติการทางทหารในซีเรียเมื่อปี 2016

สำหรับขีปนาวุธคินซาล ซึ่งมีความหมายว่า “กริช” ในภาษารัสเซีย ถือเป็นส่วนหนึ่งของกลุ่มอาวุธ

ความเร็วเหนือเสียงที่ประธานาธิบดีปูตินได้ประกาศในปี 2018 โดยเขากล่าวสุนทรพจน์อย่างฮึกเหิมที่สุดในรอบหลายปี ว่า ขีปนาวุธเหล่านี้สามารถโจมตีจุดใดของโลกก็ได้ และยังสามารถหลบหลีกจากระบบป้องกันขีปนาวุธของสหรัฐฯด้วย


---“อาวุธชั้นเลิศ”--- 

ประธานาธิบดีปูตินเคยเรียกขีปนาวุธคินซาลว่าเป็น “อาวุธชั้นเลิศ” เมื่อดูจากความเร็วและศักยภาพในการเอาชนะระบบป้องกันภัยทางอากาศได้


ด้านดอร์ซา จับบารี ผู้สื่อข่าวของสำนักข่าวอัล จาซีรา ประจำกรุงมอสโกกล่าวว่า ขีปนาวุธคินซาลนี้ สามารถติดหัวรบนิวเคลียร์ได้ และเชื่อว่า ระบบป้องกันภัยทางอากาศของชาติตะวันตกไม่สามารถตรวจจับได้ ทำให้ขีปนาวุธนี้ถูกเรียกว่า “ขีปนาวุธแบบทิ้งตัวที่หยุดยั้งไม่ได้”


ในปีต่อมา ผู้นำรัสเซียเคยขู่ว่าจะนำขีปนาวุธความเร็วเหนือเสียงไปประจำในเรือและเรือดำน้ำ ที่ซุ่มอยู่นอกน่านน้ำสหรัฐฯ หากรัฐบาลสหรัฐฯย้ายขีปนาวุธติดหัวรบนิวเคลียร์พิสัยกลางมาประจำการในยุโรป

ด้านยูโรนิวส์ รายงานว่า รัฐบาลรัสเซียเคยกล่าวอ้างว่า ขีปนาวุธความเร็วเหนือเสียงของรัสเซียนั้นบินที่ระดับสูงมาก ด้วยความเร็ว 10 มัค หรือ 12,000 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ประกอบกับความคล่องแคล่ว จึงทำให้ยาก หรือเป็นไปไม่ได้ที่จะยับยั้ง แต่บรรดาผู้เชี่ยวชาญด้านการทหารของชาติตะวันตกมองว่า รัสเซียอาจกล่าวเกินจริง และบางคนมองว่า ขีปนาวุธคินซาลนี้ไม่ได้ทำให้รัสเซียมีข้อได้เปรียบทางยุทธศาสตร์ แต่เป็นเรื่องของความได้เปรียบทางจิตวิทยา เพื่อข่มขวัญคู่ต่อสู้มากกว่า


---สหรัฐฯก็มีอาวุธความเร็วเหนือเสียง---


อัล จาซีรา รายงานว่า สหรัฐฯได้พัฒนาโครงการอาวุธความเร็วเหนือเสียงในเชิงรุกเช่นกัน โดยเป็นอาวุธที่สามารถบินได้ด้วยความเร็วอย่างน้อย 5 มัค และเป็นส่วนหนึ่งของโครงการโจมตีทั่วโลกได้ฉับพลัน หรือ Prompt Global Strike ซึ่งดำเนินมาตั้งแต่ช่วงต้นปี 2000 แล้ว


พลเอกจอห์น ไฮเทิน อดีตผู้บัญชาการของหน่วยบัญชาการทางยุทธศาสตร์ของสหรัฐฯ ระบุว่า อาวุธเหล่านั้นสามารถมีปฏิบัติการตอบโต้พิสัยไกล ต่อต้านภัยคุกคามในช่วงเวลาหน้าสิ่วหน้าขวาน เมื่อกองกำลังอื่นๆไม่สามารถปฏิบัติการ หรือเข้าถึงเป้าหมายได้


นอกจากนี้สหรัฐฯแล้ว จีนยังเคยประกาศความสำเร็จในการทดสอบเครื่องร่อนความเร็วเหนือเสียงมาก่อนแล้ว ในขณะที่เกาหลีเหนือก็อ้างว่ากำลังพัฒนาอาวุธความเร็วเหนือเสียงเช่นกัน


---นาโตประจำการระบบป้องกันภัยทางอากาศแพทริออท---


ขณะเดียวกัน สำนักข่าว Reuters รายงานอ้างคำกล่าวของรัฐมนตรีกลาโหมสโลวาเกียว่า ชาติสมาชิกนาโต้กำลังทยอยส่งระบบป้องกันภัยทางอากาศแพทริออท ไปถึงสโลวาเกียแล้ว และจะมีการนำไปประจำการในอีกไม่กี่วันนี้


ระบบป้องกันภัยทางอากาศดังกล่าว จะดำเนินการโดยกองทัพเยอรมนีและเนเธอร์แลนด์ และจะนำไปประจำการที่สนามบินสเลียค ทางตอนกลางของสโลวาเกีย เพื่อช่วยเสริมความแข็งแกร่งให้กับระบบป้องกันภัยทางอากาศทางตะวันออกของอาณาเขตนาโต้


ระบบแพทริทออทนี้จะเป็นส่วนหนึ่งของหน่วยทหารหน่วยใหม่ของนาโต้ในสโลวาเกีย ซึ่งเป็นเพื่อนบ้านยูเครน และรัฐมนตรีกลาโหมของสโลวาเกียกล่าวว่า ระบบแพทริออทนั้นเข้ามาช่วยเติมเต็ม แต่ไม่ได้เข้ามาแทนที่ระบบป้องกันภัยทางอากาศ S-300 ของโซเวียด ที่สโลวาเกียใช้มาอยู่แล้ว โดยจะเป็นการนำไปประจำการที่ฐานทัพอากาศสเลียคเป็นการชั่วคราว และจะมีการหารือเรื่องพื้นที่ประจำการเพิ่มเติม เพื่อให้พื้นที่ส่วนใหญ่ของสโลวาเกียได้รับการปกป้องด้านความมั่นคง

-------------

แปล/เรียบเรียง: สุภาพร เอ็ลเดรจ

ภาพ: Reuters

ข่าวแนะนำ