รัสเซียเล่นเกม ลับ-ลวง-พราง ปากบอกถอนทัพ แต่กลับส่งทหารเพิ่มประชิดยูเครน
แม้ว่ารัสเซียจะเผยคลิปวิดีโอขณะที่ทหารบางส่วนถอนกำลังออกจากชายแดนยูเครนออกมาแล้ว แต่ชาติตะวันตกก็ยังไม่วางใจ และระแวงว่ารัสเซียอาจจะบุกยูเครนได้ทุกเมื่ออยู่ดี ล่าสุด สหรัฐฯ ชี้ว่าการถอนทหารรัสเซียที่ประชิดพรมแดนยูเครนออกไปบางส่วนเป็นข่าวลวง และยังส่งทหารเพิ่มอีก 7,000 นาย
เจ้าหน้าที่ระดับสูงในรัฐบาลสหรัฐฯ กล่าวหาว่ารัสเซียส่งทหารไปเพิ่มอีก 7,000 นายที่บริเวณชายแดนติดยูเครนในช่วง 2-3 วันที่ผ่านมา ตรงข้ามกับคำกล่าวอ้างของประธานาธิบดี วลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย ที่ระบุว่ากำลังถอนทหารรัสเซียบางส่วนออกจากชายแดนยูเครน หลังเสร็จสิ้นภารกิจซ้อมรบ
เจ้าหน้าที่รัฐบาลสหรัฐฯ คนดังกล่าวยังชี้ว่า รัสเซียกำลังเริ่มทำสงครามข้อมูลข่าวสาร โดยให้ข้อมูลผิด ๆ ให้ร้ายสหรัฐฯ เพิ่มขึ้น รวมถึงการระบุว่าสหรัฐฯ กับยูเครน กำลังเตรียมใช้อาวุธเคมีและชีวภาพ และประเทศตะวันตกจะหันไปใช้สงครามกองโจร นอกจากนี้ รัสเซียยังสร้างข่าวว่า พบหลุมศพพลเรือนมากมาย ที่ถูกสังหารโดยกองทัพยูเครนด้วย
จากการประเมินของชาติตะวันตก ระบุว่าขณะนี้รัสเซียมีกำลังทหารราว 150,000 นาย ประชิดปิดล้อมชายแดนยูเครน ทั้งเหนือ ใต้และตะวันออก
ภาพถ่ายดาวเทียมล่าสุดที่บันทึกไว้ ระหว่างวันที่ 10-16 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา แสดงเห็นกองทหารรัสเซียที่ยังคงจ่อประชิดชายแดนยูเครน ทั้งในคาบสมุทรไครเมียที่รัสเซียผนวกมาจากยูเครน ในเบลารุส และชายแดนด้านตะวันตกของรัสเซียที่ติดกับยูเครน และภาพทัพยานเกราะ ฝูงบินเฮลิคอปเตอร์โจมตีรุ่นใหม่เกือบ 20 ลำ ปืนใหญ่ รวมทั้งเต๊นท์ตั้งเรียงราย
---รัสเซียอาจโจมตีแบบ “วงจำกัด”---
ฝ่ายข่าวกรองของประเทศเอสโทเนีย ระบุว่า รัสเซียอาจเปิดฉากบุกโจมตียูเครน “แบบวงจำกัด” โดยจะเลี่ยงโจมตีเมืองใหญ่ที่มีประชากรมาก แต่ยังไม่ทราบว่ารัสเซียจะโจมตีเมืองใด
ส่วนวิธีการโจมตีอาจเป็นการระดมยิงขีปนาวุธ และการบุกเข้ายึดครองชัยภูมิสำคัญ ส่วนกำลังทหารนับแสนนายที่รัสเซียส่งประชิดชายแดนยูเครนนั้น เพื่อไว้ใช้ควบคุมพื้นที่ที่โจมตีหรือยึดได้
การเปิดเผยข้อมูลดังกล่าวมีขึ้น ขณะที่แอนโทนี บลิงเคน รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ ได้ให้การต้อนรับเอวา-มาเรีย ลิเมตส์ รัฐมนตรีต่างประเทศเอสโตเนียเมื่อวันพุธ (16 กุมภาพันธ์) เพื่อหารือเกี่ยวกับความพยายามทางการทูตที่มีเป้าหมายเพื่อป้องกันการรุกรานของรัสเซียต่อยูเครน
รองประธานาธิบดี กมลา แฮร์ริส ของสหรัฐฯ เดินทางไปที่เมืองมิวนิก เยอรมนีในวันนี้ (17 กุมภาพันธ์) เพื่อไปพบกับประธานาธิบดี โวโลดิเมียร์ เซเลนสกี้ ของยูเครน พร้อมด้วยนายกรัฐมนตรี โอลาฟ โชลซ์ ของเยอรมนี เพื่อหารือวิกฤติยูเครนในวันเสาร์ที่จะถึงนี้ (19 กุมภาพันธ์)
---นาโตไม่เชื่อว่ารัสเซียจะรามือ---
เยนส์ สโตลเทนเบิร์ก เลขาธิการ NATO ดูเหมือนจะไม่เชื่อว่าภัยคุกคามจากการรุกรานยูเครนของรัสเซียจะลดน้อยลง
สโตลเทนเบิร์กระบุว่า ไม่เห็นการถอนกำลังของรัสเซียเลย แต่กลับได้เห็นการเพิ่มขึ้นของกองกำลังรัสเซีย และจนถึงขณะนี้ยังไม่มีการลดระดับความตึงเครียดลง ซึ่งเป็นการส่งสาส์นที่ขัดแย้งกับความพยายามทางการทูต และอย่างไรก็ตามแสดงความหวังว่าจะมีการเจรจาต่อรองกันต่อไป
ท่าทีของสโตลเทนเบิร์กมีขึ้น ในช่วงต้นของการหารือระหว่างรัฐมนตรีกลาโหมสมาชิกนาโต 2 วัน เกี่ยวกับวิกฤตยูเครน-รัสเซีย ที่กรุงบรัสเซลส์ ของเบลเยียม
---รัสเซียว่าอย่างไร?---
ล่าสุด มาเรีย ซาคาโรวา โฆษกหญิงกระทรวงต่างประเทศรัสเซีย ระบุว่า ไม่สนใจ ต่อแถลงการณ์ของเลขาธิการ NATO อีกต่อไป และการประเมิณของ NATO นั้นผิด
ขณะที่เอกอัครราชทูตรัสเซียประจำไอร์แลนด์ ระบุว่ากองกำลังทางตะวันตกของรัสเซีย จะกลับสู่ฐานที่มั่นปกติภายในสามถึงสี่สัปดาห์
---ผู้นำยูเครนบอกไม่กลัว---
ส่วนในยูเครน เมื่อวานนี้ (16 กุมภาพันธ์) เป็น “วันแห่งสามัคคี” ตามที่ประธานาธิบดี โวโลดิเมียร์ เซเลนสกี้ ของยูเครน ได้ประกาศไว้ ก่อนหน้านี้ เซเลนสกี้ระบุว่า วันที่ 16 เมื่อวานนี้ จะเป็นวันที่รัสเซียจะบุกโจมตียูเครน แต่ภายหลังได้กลับลำและประกาศให้เป็นวันสามัคคีของชาวยูเครนแทน ชาวยูเครนได้ออกมาชูธงชาติทั่วประเทศเพื่อแสดงพลังสามัคคีและไม่กลัวรัสเซีย.
ล่าสุด ผู้นำยูเครนระบุว่า ไม่เกรงกลัวการบุก หรือการประเมิณสถานการณ์ใดๆและจะสร้างยูเครนที่สงบสุขและมีความสุขด้วยกัน
---นักวิเคราะห์สถานการร์---
โจนาธาน บีล ผู้สื่อข่าวด้านกลาโหมของ BBC มองว่า แม้ว่าประธานาธิบดีปูตินจะไม่ยังไม่สั่งบุกยูเครน แต่ก็ยังมีสัญญาณว่าวิกฤตครั้งนี้จะคงอยู่ต่อไป และการสร้างกองทัพของรัสเซียรอบ ๆ พรมแดนยูเครนแสดงให้เห็นว่า รัสซียพร้อมจะท้าทายความมั่นคงของยุโรปด้วยกำลัง
และจะกลายเป็น New Normal หรือความปกติใหม่ นั่นหมายถึงนาโตก็จะเพิ่มกำลังทหารของตนด้วยเช่นกัน และเลขาธิการนาโตกำลังวางแผนจัดตั้งกองกำลังใหม่บนปีกตะวันออก ในโรมาเนียและภูมิภาคทะเลดำ
อย่างไรก็ตาม ยังไม่มีการตัดสินใจขั้นสุดท้าย และนาโตยืนยันว่าจะส่งกำลังเสริมเพื่อทำหน้าที่เป็นเครื่องยับยั้งเท่านั้น
นาโตยังคงเรียกร้องให้รัสเซียเข้าร่วมการเจรจาเพื่อลดความตึงเครียด แต่ถ้าการเจรจาต่อรองไม่ได้ผล นักวิเคราะห์เกรงว่า จะจบลงด้วยการใช้กำลังทั้งสองฝ่าย
สื่อต่างชาติมองว่า แม้การที่รัสเซียอ้างว่าได้เริ่มถอนทหารและอาวุธออกจากชายแดนติดยูเครนแล้ว ยังไม่สามารถพิสูจน์ได้ว่าจริงหรือไม่ แต่การที่รัสเซียออกมาระบุว่าถอนทหาร ก็ได้ช่วยลดอุณหภูมิร้อนแรงทางการเมืองลงมา หลังจากวิกฤติยูเครนสร้างความตึงเครียดให้แก่ทั้งโลกมานานหลายเดือน
—————
แปล-เรียบเรียง: สุภาพร เอ็ลเดรจ
ภาพ: Getty Image