เกาหลีใต้ติดโควิดเกือบ 5 หมื่น หวั่นติดเชื้อเกินวันละ 170,000 คน
เกาหลีใต้ติดโควิดเกือบ 5 หมื่นคน จากการระบาดของโควิดโอมิครอน และอาจสูงกว่าแสนคนในสิ้นเดือนนี้
เกาหลีใต้เป็นอีกประเทศที่กำลังเผชิญกับการระบาดของโอมิครอนอย่างรุนแรง โดยพบผู้ติดเชื้อรายวันเพิ่มขึ้นอย่างมาก คือ 49,567 ในวันพุธ (9 กุมภาพันธ์) โดย 99% เป็นการระบาดในชุมชน ขณะที่ยอดติดเชื้อสะสม 1,131,248 คน
---4 วัน ตัวเลขพุ่ง 2 เท่า---
นับเป็นครั้งแรกที่ยอดติดเชื้อทะลุ 40,000 คน โดยสถิติก่อนหน้านี้คือวันอาทิตย์ ที่ 38,689 คน โดยใช้เวลาเพียง 4 วัน ตัวเลขกระโดดจาก 20,000 คน เป็นกว่า 40,000 คน
กรมควบคุมและป้องกันโรคเกาหลีใต้ หรือ KDCA ระบุว่า จำนวนผู้ติดเชื้อรายใหม่เพิ่มสูงถึง 4 เท่า ในระยะเวลาเพียง 2 สัปดาห์ ขณะที่เจ้าหน้าที่คาดว่ายอดติดเชื้ออาจพุ่งสูงถึง 170,000 ภายในสิ้นเดือนนี้ ตอนนี้ยังเร็วเกินไปที่จะบอกว่า จะถึงจุดสูงสุดของการระบาดของโอมิครอนเมื่อใด
ยอดผู้เสียชีวิตรายวันเพิ่มขึ้น 21 คน สะสมทั้งสิ้น 6,943 คน คิดเป็นอัตราการเสียชีวิตที่ 0.61% ส่วนผู้ป่วยวิกฤตเพิ่ม 17 คน เป็น 285 คน ผู้ติดเชื้อที่รักษาตัวที่บ้านเพิ่มเป็น 168,020 คน เนื่องจากแทบไม่มีอาการ
---เกาหลีใต้ฉีดวัคซีนเข็มกระตุ้นแล้ว 55%---
ภายใต้มาตรการใหม่จากการระบาดรอบนี้ เจ้าหน้าที่จะคอยสำรวจอาการผู้ติดเชื้อกลุ่มเสี่ยงคือ คนวัย 60 ปีขึ้นไป คนอายุ 50 ปีที่มีโรคประจำตัว และกลุ่มเสี่ยงอื่น ๆ จะได้รับการตรวจสอบอาการรายวัน แต่ผู้ป่วยที่ไม่ใช่กลุ่มเสี่ยง จะต้องสังเกตอาการตัวเอล และติดต่อโรงพยาบาลใกล้เคียงด้วยตัวเองหากอาการแย่ลง ซึ่งมาตรการนี้จะเริ่มต้นวันพฤหัสบดีนี้เป็นต้นไป
ทั้งนี้ มีชาวเกาหลีใต้ที่ได้รับวัคซีนเข็มกระตุ้นแล้ว 28.59 ล้านคน หรือคิดเป็น 55.7% ของประชากร 57 ล้านคน ส่วนคนที่ได้รับวัคซีนครบ 2 เข็มแล้วคิดเป็น 86%
เกาหลีใต้เพิ่งอนุมัติฉุกเฉินวัคซีนที่พัฒนาในประเทศ โดยบริษัท SK Bioscience Co. เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว โดยเจ้าหน้าที่ระบุว่า ด้วยเทคโนโลยีดั้งเดิมที่นำมาใช้ผลิต น่าจะเป็นตัวกระตุ้นให้ประชาชนยอมรับวัคซีนกันได้มากขึ้น โดยจะประกาศแผนการฉีดวัคซีนตัวนี้ในสัปดาห์นี้
---สหรัฐฯ ติดเชื้อคิดเป็น 20% ของโลก---
มหาวิทยาลัยจอห์นส ฮอปกินส์ ในสหรัฐฯ รายงานจำนวนผู้ติดเชื้อโควิด-19 สะสมทั่วโลก ทะลุ 400 ล้านคนเมื่อเวลา 17.21 น. วานนี้ (8 กุมภาพันธ์) ตามเวลาในสหรัฐฯ ตรงกับ 05.21 น. เช้าวันนี้ (9) ตามเวลาในบ้านเรา ไปอยู่ที่ 400,244,031 คน ส่วนยอดผู้เสียชีวิตทั่วโลก อยู่ที่ 5,761,208 คน
สหรัฐฯ มียอดรวมผู้ติดเชื้อโควิดสะสมล่าสุด อยู่ที่ 77,025,027 คน ส่วนยอดผู้เสียชีวิตอยู่ที่ 908,262 คน เป็นอันดับ 1 ของโลกทั้งจำนวนผู้ติดเชื้อสะสมและยอดผู้เสียชีวิต โดยยอดรวมผู้ติดเชื้อโควิดทั้งหมดในสหรัฐฯ มีสัดส่วนเกือบ 20% ของยอดรวมผู้ติดเชื้อโควิดทั่วโลก ส่วนยอดผู้เสียชีวิตในสหรัฐฯ มีสัดส่วนกว่าร้อยละ 15 ของยอดผู้เสียชีวิตจากโควิดทั่วโลก
ขณะเดียวกัน อับดี มะหะหมัด ผู้บริหารจัดการสถานการณ์ไม่ปกติแห่งองค์การอนามัยโลก หรือ WHO ระบุเมื่อวานนี้ (8 กุมภาพันธ์) ว่า ยอดผู้เสียชีวิตจากโควิดทั่วโลก เพิ่มขึ้น 500,000 คน และจำนวนผู้ติดเชื้อโควิดทั่วโลก เพิ่มขึ้น 130 ล้านคน หลังจากที่ WHO ได้ประกาศให้โอมิครอน เป็นสายพันธุ์ที่ต้องกังวล มาตั้งแต่ปลายเดือนพฤศจิกายนปีที่แล้วเป็นต้นมา
---โอมิครอนแทนที่เดลตา---
โอมิครอนได้ระบาดไปทั่วโลก โดยเข้าแทนที่ “เดลตา” อย่างรวดเร็ว และกลายเป็นโควิดสายพันธุ์หลักที่ระบาดไปทั่วโลกแทนเดลตา เนื่องจากมีคุณสมบัติการแพร่ระบาดได้อย่างรวดเร็วกว่าเดลตา แม้ว่าจะดูเหมือนว่าโอมิครอนจะทำให้ผู้ป่วยมีอาการรุนแรงน้อยกว่าเดลตาก็ตาม
มะหะหมัดกล่าวต่อไปว่า ในเวลาที่โลกมีวัคซีนต้านโควิดที่มีประสิทธิภาพแล้วเช่นนี้ แต่กลับยังคงมีผู้เสียชีวิตจากโควิด ถึง 500,000 คน นับเป็นเรื่องที่น่าเศร้าอย่างยิ่ง
ด้าน มาเรีย แวน เคิร์คโฮฟ ผู้นำด้านเทคนิคโรคโควิด-19 ของ WHO เรียกร้องให้ประเทศต่าง ๆ ทั่วโลก เร่งขยายการฉีดวัคซีนต้านโควิดให้ครอบคลุมมากกว่านี้ เพื่อคุ้มครองชีวิตประชาชน และเพื่อควบคุมโอมิครอนที่ระบาดอย่างรวดเร็ว จนยอดผู้เสียชีวิตจากโควิดเพิ่มขึ้นทั่วโลก
—————
แปล-เรียบเรียง: ภัทร จินตนะกุล
ภาพ: Getty Images