ปูตินออกโรง ชี้สหรัฐฯ หวังดึงรัสเซียเข้าสู่สงคราม ใช้ยูเครนเป็นเพียงเครื่องมือ
ประธานาธิบดีรัสเซีย วลาดิเมียร์ ปูติน หวังว่าการเจรจาปัญหายูเครนจะยังคงเกิดขึ้นต่อไป เพื่อหลีกเลี่ยง “สถานการณ์เชิงลบ” ซึ่งรวมทั้งสงคราม ขณะเดียวกัน ก็กล่าวหาสหรัฐฯว่า กำลังพยายามลากรัสเซียเข้าสู่สงคราม และยูเครนเป็นเครื่องมือของสหรัฐฯ
ประธานาธิบดีปูติน ผู้นำรัสเซีย กล่าวหาสหรัฐฯ กำลังพยายามลากรัสเซียเข้าสู่สงครามในยูเครน เป้าหมายของอเมริกา คือใช้การเผชิญหน้าเป็นข้ออ้างในการใช้มาตรการคว่ำบาตรเพิ่มเติมต่อรัสเซีย สหรัฐฯ เพิกเฉยต่อความกังวลของรัสเซียเกี่ยวกับกองกำลังพันธมิตรองค์การสนธิสัญญาป้องกันแอตแลนติกเหนือ หรือ NATO ในยุโรป
ปูติน ซึ่งแถลงหลังพบหารือกับนายกรัฐมนตรีฮังการี วิกเตอร์ ออร์บาน ในกรุงมอสโก กล่าวว่า สำหรับเขาแล้วมองว่า สหรัฐฯ ไม่ได้กังวลมากมายนักเกี่ยวกับความมั่นคงของยูเครน แต่ภารกิจหลักของสหรัฐฯ คือเพื่อควบคุมการพัฒนาของรัสเซีย ในความรู้สึกนี้ ยูเครนเป็นเพียงเครื่องมือหนึ่งที่จะนำไปสู่เป้าหมายนี้
ความขัดแย้งรุนแรงระหว่างรัสเซียและสหรัฐฯ ซึ่งยังคงครอบครองอาวุธนิวเคลียร์มากที่สุดของโลก ต้องย้อนกลับไปในช่วงสงครามเย็น ระหว่างปี 1947-1989 ขณะนั้น ยูเครนเป็นส่วนหนึ่งที่สำคัญของคอมมิวนิสต์สหภาพโซเวียต เป็นรองเพียงรัสเซียเท่านั้น
---สหรัฐฯ เพิกเฉยข้อกังวลรัสเซีย---
ปูติน ออกมาแสดงความเห็นเกี่ยวกับกรณีความตึงเครียดดังกล่าวครั้งแรกในรอบนานกว่าหนึ่งเดือน โดยระบุว่ารัฐบาลรัสเซียกำลังศึกษาคำตอบจากสหรัฐฯ และ NATO เรื่องการรับประกันด้านความมั่นคงอยู่ แต่คำตอบที่ได้นั้นถือว่ายังห่างไกลความถูกต้อง แต่เขายังหวังว่าท้ายที่สุดเราจะสามารถหาทางออกร่วมกันได้ แม้มันจะไม่ง่ายนัก
เขา กล่าวว่า สหรัฐฯ เพิกเฉยต่อความกังวลของรัสเซียในการสนองตอบข้อเรียกร้องของรัสเซีย ให้รับประกันความมั่นคงที่มีผลผูกพันทางกฎหมาย ซึ่งรวมทั้งห้าม NATO ขยายประเทศสมาชิกเข้ายุโรปตะวันออก คือไม่ให้รับยูเครนเข้าเป็นสมาชิก NATO และการถอนอาวุธออกจากบริเวณที่ใกล้กับพรมแดนรัสเซีย โดยให้ NATO กลับไปใช้จุดยืนด้านการทหารเหมือนในช่วงก่อนปี 1997
---มหาสงคราม NATO และรัสเซีย---
ปูตินย้ำว่า หากยูเครนได้เข้าเป็นสมาชิก NATO สมความปรารถนา อาจเป็นการลากเอาสมาชิกอื่น ๆ ของ NATO เข้าสู่สงครามกับรัสเซียด้วย
ทั้งนี้ ความตึงเครียดพุ่งสูงขึ้นกรณีที่รัสเซียประจำการทหารนับแสนนายประชิดพรมแดนยูเครน แต่รัสเซียปฏิเสธข้อกล่าวหาของชาติตะวันตกว่า มีแผนการรุกรานยูเครน เกือบ 8 ปีหลังรัสเซียผนวกเอาดินแดนไครเมีย และสนับสนุนกลุ่มกบฏในภูมิภาคตะวันออกของยูเครน
ขณะเดียวกัน รัสเซียก็กล่าวหารัฐบาลยูเครนกลับว่า ล้มเหลวในการปฏิบัติตามข้อตกลงระหว่างประเทศในการฟื้นฟูสันติภาพในภูมิภาคตะวันออกของประเทศ ซึ่งมีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 14,000 คน และกบฏที่ได้รับการสนับสนุนจากรัสเซีย ยึดครองพื้นที่ส่วนใหญ่
---ความหวังที่การเจรจาทางการทูต---
เมื่อวันอังคาร (1 กุมภาพันธ์) ที่ผ่านมา แอนโทนี บลิงเคน รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ และเซอร์เกย์ ลาฟรอฟ รัฐมนตรีต่างประเทศรัสเซีย มีการหารือกันทางโทรศัพท์ เพื่อหาทางลดความตึงเครียด
บลิงเคน เรียกร้องให้รัสเซียลดความตึงเครียดในทันทีและถอนทหารที่ประชิดตามแนวชายแดนติดยูเครน ขณะที่นายลาฟรอฟเผยว่า รัฐบาลสหรัฐฯ เห็นพ้องที่จะหารือเรื่องข้อเรียกร้องของรัสเซียต่อไป จึงต้องรอดูว่าจะเป็นอย่างไร
สำนักข่าว Bloomberg รายงานว่า สหรัฐฯ บอกกับรัสเซียว่า ยินดีที่จะให้รัสเซียตรวจสอบ ว่าไม่มีการนำขีปนาวุธโทมาฮอว์ค ไปประจำการที่ฐานทัพของ NATO ในโรมาเนียและโปแลนด์ ภายใต้เงื่อนไขว่า รัสเซียต้องแบ่งปันข้อมูลเกี่ยวกับขีปนาวุธที่ประจำการในบางฐานทัพของรัสเซียเช่นกัน
ในช่วงไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา รัฐบาลสหรัฐฯ ข้อเสนออย่างเปิดเผยว่าพร้อมที่จะหารือเรื่องมาตรการควบคุมอาวุธกับรัสเซีย
ด้านผู้สื่อข่าวของ Al Jazeera เผยว่า ข้อเสนอดังกล่าวเหมือนเป็นการแสดงท่าทีจากสหรัฐฯในการขยายแนวทางทางการทูตเพื่อแก้ปัญหาและลดความตึงเครียดในยูเครน
---ผู้นำอังกฤษเยือนยูเครนให้กำลังใจ---
นายกรัฐมนตรีบอริส จอห์นสัน ผู้นำสหราชอาณาจักร เดินทางเยือนกรุงเคียฟ เมืองหลวงยูเครน และหารือกับประธานาธิบดีโวโลดีเมียร์ เซเลนสกีเพื่อแสดงการสนับสนุนยูเครน
เขากล่าวว่า เป็นเรื่องสำคัญที่รัสเซียต้องถอยและเลือกเส้นทางทางการทูต และเขาเชื่อว่ายังมีความเป็นไปได้
นายจอห์นสันกล่าวหาปูตินว่า “ใช้ปืนจ่อหัวยูเครน” อย่างมีประสิทธิภาพ และเขาเรียกร้องให้ทำเนียบเครมลินถอยห่างจาก “ความหายนะทางทหาร”
จอห์นสัน กล่าวกับผู้สื่อข่าวหลังหารือกับ ของยูเครนว่า กองทัพยูเครนจะต่อสู้ในกรณีที่มีการรุกราน เขาหวังอย่างมากว่า ปูตินจะถอยห่างจากความขัดแย้งและเข้าสู่การเจรจาอย่างสร้างสรรค์
จอห์นสัน เตือนว่า สหราชอาณาจักรจะตอบโต้การรุกรานของรัสเซียด้วย “ชุดมาตรการคว่ำบาตรและอื่น ๆ ทันที หากทหารรัสเซียข้ามพรมแดนเข้าดินแดนยูเครนแม้แต่ปลายนิ้ว”
สหราชอาณาจักรประกาศให้ความช่วยเหลือทางการเงิน 88 ล้านปอนด์แก่ยูเครน เพื่อส่งเสริมการปกครองที่มั่นคง และความเป็นอิสระด้านพลังงานจากรัสเซีย
ส่วนประธานาธิบดียูเครน กล่าวว่า มันจะไม่ใช่สงครามระหว่างยูเครนและรัสเซีย แต่นี่จะเป็นสงครามในยุโรป ซึ่งจะเป็นสงครามเต็มรูปแบบ และเขาเชื่อว่ามาตรการคว่ำบาตรเพื่อยับยั้งรัสเซียนั้นจะสามารถป้องกันไม่ให้สถานการณ์แย่ลงได้ โดยเฉพาะหากตัวปูตินเองถูกคว่ำบาตรด้วย
—————
แปล-เรียบเรียง: สุภาพร เอ็ลเดรจ
ภาพ: Kirill KUDRYAVTSEV / AFP