เกาหลีเหนือยืนยัน ทดสอบขีปนาวุธฮวาซอง-12 พุ่งถึงนอกโลก
เกาหลีเหนือเปิดเผยว่า ขีปนาวุธที่ทดสอบไปเมื่อเช้าวันอาทิตย์ เป็นขีปนาวุธลูกที่ทรงพลังที่สุดนับตั้งแต่ปี 2017
ก่อนหน้านี้ราว 2 สัปดาห์ สื่อเกาหลีเหนือชี้ว่า เกาหลีเหนือจะยุติสิ่งที่เคยระงับการทดสอบไปเมื่อปี 2017 และกลับมาเดินหน้ากิจกรรมนั้นอีกครั้ง และนี่คือสิ่งนั้น
เมื่อสื่อทางการเกาหลีเหนือ หรือ KCNA เปิดเผยเมื่อเช้าที่ผ่านมาว่า การทดสอบขีปนาวุธเมื่อเช้าวันอาทิตย์ (30 มกราคม) จากจังหวัดจากัง ไปตกในทะเล เป็นการทดสอบขีปนาวุธพิสัยกลาง "ฮวาซอง-12" ซึ่งถือเป็นการทดสอบขีปนาวุธบรรทุกหัวรบนิวเคลียร์ขนาดใหญ่ได้เป็นครั้งแรก นับตั้งแต่ปี 2017
สำนักข่าวเกาหลีเหนือรายงานว่า การยิงทดสอบครั้งนี้มีเป้าประสงค์ในการทดสอบขีปนาวุธพิสัยกลาง และพิสัยไกล ฮวาซอง-12 ซึ่งเป็นชนิดยิงจากพื้นสู่พื้น พร้อมกับตรวจสอบความถูกต้องของระบบอาวุธชนิดนี้ ย้ำว่าการทดสอบครั้งล่าสุดนี้ มีความแม่นยำสูง และยังรับประกันถึงความปลอดภัยของประเทศเพื่นอบ้านด้วย
---ยิงขีปนาวุธ จับภาพจากนอกโลกได้---
ไม่เพียงเท่านี้ การทดสอบขีปนาวุธฮวาซอง-12 ยังสามารถจับภาพเอาไว้ได้จากนอกโลกอีกด้วย โดยภาพที่ได้รับการเผยแพร่โดยสื่อทางการเกาหลีเหนือ แสดงให้เห็นภาพพื้นที่ของเกาหลีเหนือ ผ่านเลนส์กล้อง ซึ่งเกาหลีเหนือเคยถ่ายภาพประเภทนี้เป็นครั้งแรกเมื่อปี 2017
สำหรับขีปนาวุธ "ฮวาซอง-12" หากยิงเต็มศักยภาพ จะสามารถเดินทางไปได้ไกลถึง ราว 4,500 กิโลเมตร แต่สำหรับการทดสอบเมื่อวานนี้ กระทรวงกลาโหมเกาหลีใต้ และญี่ปุ่น เปิดเผยว่า ขีปนาวุธลูกดังกล่าว เดินทางไปได้ระยะราว 800 กิโลเมตร โดยไต่ถึงระดับความสูงที่ราว 2,000 กิโลเมตร และอยู่ในอากาศราว 30 นาที
รายงานข่าวระบุว่า คิม จอง อึน ไม่ได้เข้าร่วมรับชมการทดสอบเมื่อวันอาทิตย์
---เหตุใดเกาหลีเหนือจึงทดสอบขีปนาวุธ?---
แองกิต แพนดา นักวิเคราะห์ด้านเกาหลีเหนือ เปิดเผยว่า การที่คิมไม่ได้ปรากฎตัวในการทดสอบครั้งล่าสุด และภาษาที่ใช้ในสื่อในการเปิดเผยเรื่องการยิงขีปนาวุธ สามารถวิเคราะห์ได้ว่า การยิงทดสอบครั้งนี้ มีความตั้งใจที่จะทดสอบความแม่นยำของระบบ มากกว่าที่จะโชว์ถึงเทคโนโลยีใหม่ ๆ
อย่างไรก็ตาม นี่เป็นครั้งแรกที่มีการยิง "ฮวาซอง-12" ซึ่งสามารถบรรทุกหัวรบนิวเคลียร์ขนาดใหญ่ ภายหลังจากที่เคยเจรจาร่วมกับอดีตประธานาธิบดีสหรัฐฯ โดนัลด์ ทรัมป์ ซึ่งทำให้เกาหลีเหนือระงับการทดสอบลงไปนานถึงเกือบ 5 ปี
ครั้งสุดท้ายที่เกาหลีเหนือยิง "ฮวาซอง-12" คือปี 2017 โดยยิงมากถึง 6 ครั้ง โดยมี 2 ครั้งที่ยิงข้ามผ่านเกาะฮอกไกโดของญี่ปุ่น ทำให้ต้องมีการประกาศเตือนประชาชนในพื้นที่
แท้จริงแล้ว มีหลากเหตุผลที่เกาหลีเหนือเลือกจะดำเนินกิจกรรมด้านขีปนาวุธมากมายตั้งแต่ต้นปี
1. เป็นสิ่งที่ผู้นำคิม ลั่นวาจาเอาไว้ในวันปีใหม่ ในการเดินหน้าศักยภาพด้านกองทัพต่อไป
2. สะท้อนความปรารถนาของคิม ที่จะกดดันให้สหรัฐฯ กลับสู่การเจรจานิวเคลียร์ที่ยังยืดเยื้อ
3. ต้องการแสดงให้เห็นถึงความแข็งแกร่ง ทั้งในระดับภูมิาคและระดับโลก
4. ต้องการทดสอบระบบวิศวกรรม และระบบบัญชาการทางทหารใหม่
อีกทั้ง ช่วงเวลาของการทดสอบยังถือว่ามีความสำคัญ เพราะสัปดาห์หน้าจีนจะเป็นเจ้าภาพโอลิมปิกฤดูหนาว และเดือนมีนาคม เกาหลีใต้จะมีการเลือกตั้งประธานาธิบดี
ศาสตราจารย์แดเนียล พิงค์สตัน ศาสตราจารย์ด้านความสัมพันธ์ระหว่างประเทศจากมหาวิทยาลัยทรอย ระบุว่า "สิ่งนี้สอดคล้องกับพฤติกรรมในอดีตที่เกาหลีเหนือเคยทำ คือ การพยายามข่มขู่เกาหลีใต้ และกดดันว่าที่ประธานาธิบดีคนใหม่"
---ผู้นำเกาหลีใต้ชี้ ขัดต่อมาตรการของสหประชาชาติ---
ด้านประธานาธิบดี มุน แจ อิน ระบุว่า การทดสอบขีปนาวุธพิสัยกลางของเกาหลีเหนือเมื่อเช้าวันอาทิตย์นั้น ขัดต่อมาตรการของสหประชาชาติ และเป็นความท้าทายของการสานสันติภาพบนคาบสมุทรเกาหลี
พร้อมกันนี้ มุน ได้หารือร่วมกับคณะมนตรีความมั่นคงแห่งชาติ เรียกร้องให้เปียงยางหยุดสร้างแรงกัดดัน และหันหน้าสู่โต๊ะเจรจา โดยเร็ว
มุน ชี้ว่า การที่เกาหลีเหนือทดสอบขีปนาวุธพิสัยกลางครั้งนี้ เป็นก้าวย่างของการยุติคำมั่นสัญญาที่จะระงับการทดสอบขีปนาวุธข้ามทวีมในช่วงหลายปีที่ผ่านมาอีกด้วย
—————
แปล-เรียบเรียง: ทศพล ชัยสัมฤทธิ์ผล
ภาพ: SWNS / The Telegraph