เงินเฟ้อพ.ย. ลดลง 0.44% ติดต่อกันเป็นเดือนที่ 2 ต่ำสุดในรอบ 33 เดือน
กระทรวงพาณิชย์ เผยเงินเฟ้อเดือนพ.ย. ลดลง 0.44% ติดต่อกันเป็นเดือนที่ 2 ต่ำสุดในรอบ 33 เดือน สาเหตุสำคัญจากปัจจัยมาตรการภาครัฐด้านพลังงาน
กระทรวงพาณิชย์ เผยเงินเฟ้อเดือนพ.ย. ลดลง 0.44% ติดต่อกันเป็นเดือนที่ 2 ต่ำสุดในรอบ 33 เดือน สาเหตุสำคัญจากปัจจัยมาตรการภาครัฐด้านพลังงาน
นายพูนพงษ์ นัยนาภากรณ์ ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า เปิดเผยว่า ดัชนีราคาผู้บริโภคของไทย หรือ อัตราเงินเฟ้อทั่วไปเดือนพฤศจิกายน 2566 อยู่ที่ 107.45 ลดลงร้อยละ 0.44 (YoY) ติดต่อกันเป็นเดือนที่ 2 และต่ำสุดในรอบ 33 เดือน
สาเหตุสำคัญยังคงเป็นมาตรการภาครัฐด้านพลังงาน ที่ทำให้สินค้าในกลุ่มพลังงานปรับลดลง โดยเฉพาะราคาน้ำมันในกลุ่มดีเซล และแก๊สโซฮอล์ 91 ราคาสินค้าและบริการอื่น ๆ ยังคงเคลื่อนไหวในทิศทางปกติ ส่วนเงินเฟ้อพื้นฐาน เมื่อหักอาหารสดและพลังงานออก สูงขึ้นร้อยละ 0.58 (YoY)
อัตราเงินเฟ้อของไทยเมื่อเทียบกับต่างประเทศ ข้อมูลล่าสุดเดือนตุลาคม 2566 พบว่า อัตราเงินเฟ้อของไทยลดลงร้อยละ 0.31 ซึ่งอยู่ในกลุ่มประเทศที่มีอัตราเงินเฟ้อต่ำ โดยอยู่ระดับต่ำอันดับ 8 จาก 135 เขตเศรษฐกิจที่ประกาศตัวเลข และยังคงต่ำที่สุดในอาเซียนจาก 7 ประเทศที่ประกาศตัวเลข (สปป.ลาว ฟิลิปปินส์ สิงคโปร์ เวียดนาม อินโดนีเซีย มาเลเซีย) โดยอัตราเงินเฟ้อของไทยเคลื่อนไหวในทิศทางที่สอดคล้องกับในหลายประเทศทั่วโลกที่มีแนวโน้มชะลอตัวลง
สำหรับอัตราเงินเฟ้อทั่วไปเฉลี่ย 11 เดือน (ม.ค. – พ.ย.) ปี 2566 เทียบกับช่วงเดียวกันของปี 2565 สูงขึ้นร้อยละ 1.41 ซึ่งอยู่ในกรอบล่างของกรอบเป้าหมายเงินเฟ้อปี 2566 (ร้อยละ 1.0 – 3.0)
ขณะที่ดัชนีอัตราเงินเฟ้อพื้นฐาน (Core CPI) เดือนพฤศจิกายน 2566 อยู่ที่ 104.52 เพิ่มขึ้นร้อยละ 0.58 จากเดือนเดียวกันของปีก่อน ส่งผลให้เงินเฟ้อพื้นฐาน 11 เดือนแรกของปีนี้ เฉลี่ยอยู่ที่ร้อยละ 1.33
สำหรับแนวโน้มอัตราเงินเฟ้อทั่วไปเดือนธันวาคม 2566 กระทรวงพาณิชย์คาดว่ามีแนวโน้มลดลงต่อเนื่องจากช่วงเดือนที่ผ่านมา ตามราคาสินค้าในกลุ่มอาหารและกลุ่มพลังงาน รวมถึงสินค้าอุปโภคที่จำเป็นต่อการครองชีพอีกหลายรายการ และต้นทุนการผลิตที่ปรับลดลง จากมาตรการลดค่าครองชีพให้กับประชาชน ประกอบกับฐานราคาในช่วงเดียวกันของปี 2565 อยู่ระดับสูงมีส่วนทำให้อัตราเงินเฟ้อมีแนวโน้มลดลง
ทั้งนี้ กระทรวงพาณิชย์ คาดการณ์อัตราเงินเฟ้อทั่วไปปี 2566 อยู่ระหว่างร้อยละ 1.0 – 1.7 (ค่ากลางร้อยละ 1.35) ซึ่งเป็นอัตราที่สอดคล้องกับสถานการณ์เศรษฐกิจในปัจจุบัน
ภาพจาก Getty Images