สรุปข่าว
บมจ. เอสจี แคปปิตอล เข้าจดทะเบียนและเริ่มซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ฯ ในกลุ่มอุตสาหกรรมธุรกิจการเงิน หมวดธุรกิจเงินทุนและหลักทรัพย์ โดยใช้ชื่อย่อในการซื้อขายหลักทรัพย์ว่า “SGC”ในวันที่ 13 ธันวาคม 2565
SGC ดำเนินธุรกิจให้บริการสินเชื่อที่มิใช่สถาบันการเงิน (Non-Bank) ภายใต้กลุ่ม SINGER ในนาม “เอสจี แคปปิตอล" โดยแบ่งเป็น 1) สินเชื่อเช่าซื้อ เครื่องใช้ไฟฟ้า ของใช้ในครัวเรือน และเครื่องจักร 2) สินเชื่อรถยนต์ ภายใต้แบรนด์ “รถทำเงิน” ผ่านพนักงานขาย สาขาและแฟรนไชส์ของบริษัทในกลุ่ม เช่น SINGER และ Jaymart mobile กว่า 4,154 สาขา โดย ณ วันที่ 30 กันยายน 2565 บริษัทมีพอร์ตลูกหนี้สินเชื่อทุกประเภท มูลค่ารวมกว่า 15,000 ล้านบาท
SGC มีทุนชำระแล้ว 3,270 ล้านบาท มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 1 บาท ประกอบด้วยหุ้นสามัญเดิม 2,450 ล้านหุ้น และ หุ้นสามัญเพิ่มทุนที่เสนอขายต่อประชาชนเป็นครั้งแรก (IPO) 820 ล้านหุ้น โดยมีราคาหุ้นละ 3.90 บาท คิดเป็นมูลค่าระดมทุน 3,198 ล้านบาท โดยมีมูลค่าหลักทรัพย์ ณ ราคา IPO 12,753 ล้านบาท
นางสาวบุษบา กุลศิริธรรม กรรมการผู้จัดการ บมจ. เอสจี แคปปิตอล (SGC) เปิดเผยว่าจะนำเงินที่ได้จากการระดมทุนมาใช้รองรับการขยายธุรกิจการให้บริการสินเชื่อ รองรับลูกค้ารายใหม่ และรองรับการขยายตัวของของพอร์ตสินเชื่อที่มีอัตราการเติบโตอย่างต่อเนื่อง รวมถึงชำระคืนเงินกู้ยืมบางส่วนจาก SINGER
SGC มีผู้ถือหุ้น 3 ลำดับแรกหลัง IPO ได้แก่ 1) บริษัท ซิงเกอร์ประเทศไทย จำกัด (มหาชน) (SINGER) ถือหุ้น 74.92% 2) บริษัท เจ มาร์ท จำกัด (มหาชน) (JMART) ถือหุ้น 4.46% และ 3) บริษัท แรบบิท โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) (RABBIT) ถือหุ้น 4.17% การกำหนดราคาเสนอขายหุ้น IPO อ้างอิงตามมูลค่าเชิงเปรียบเทียบกับมูลค่าของหลักทรัพย์ในตลาดหลักทรัพย์ฯ ที่สามารถอ้างอิงได้
ทั้งนี้ ราคาที่เสนอขายคิดเป็นอัตราส่วนราคาต่อกำไรสุทธิต่อหุ้น (Price to Earnings Ratio :P/E) เท่ากับ 21.84 เท่า เมื่อเทียบกับกำไรสุทธิของบริษัทที่ 0.18 บาท/หุ้น ซึ่งคำนวณจากกำไรสุทธิส่วนที่เป็นของผู้ถือหุ้นของบริษัทใหญ่ในช่วง 4 ไตรมาสย้อนหลัง ทั้งนี้ บริษัทมีนโยบายการจ่ายเงินปันผลในอัตราไม่ต่ำกว่าร้อยละ 50 ของกำไรสุทธิจากงบการเงินเฉพาะกิจการของบริษัท ภายหลังการหักภาษีเงินได้นิติบุคคลและการจัดสรรทุนสำรองตามกฎหมาย
ที่มาข้อมูล : -