ฮ่องกงอ่วม! สภาพคล่องธนาคาร ลดแตะระดับต่ำสุดในรอบกว่า 2 ปี
สภาพคล่องในระบบธนาคารฮ่องกง ลดลงแตะระดับต่ำสุดในรอบกว่า 2 ปี หลังความพยายามอย่างหนักเพื่อปกป้องค่าเงิน
สำนักข่าวรอยเตอร์ส รายงานว่า สภาพคล่องในระบบธนาคารที่อยู่ภายใต้การกำกับดูแลของธนาคารกลางฮ่องกง ขณะนี้อยู่ที่ 1.03 แสนล้านดอลลาร์ฮ่องกง หรือราวๆ 1.31 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งถือเป็นระดับต่ำสุดในรอบเกือบ 3 ปี นับตั้งแต่เดือนมิถุนายน ปี 2563
สภาพคล่องดังกล่าวได้ลดลงเหลือ 1 ใน 4 ของปีที่แล้ว เนื่องจากธนาคารกลางฮ่องกงดูดซับเงินดอลลาร์ฮ่องกงออกจากตลาด เพื่อป้องกันไม่ให้ค่าเงินหลุดกรอบที่ตรึงไว้ที่ 7.75-7.85 ดอลลาร์ฮ่องกงต่อ 1 ดอลลาร์สหรัฐ หลังดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้นอย่างต่อเนื่อง
ด้านนักวิเคราะห์และนักลงทุนต่างจับตาว่า สภาพคล่องในระบบธนาคารจะแตะ 1 แสนล้านดอลลาร์ฮ่องกงหรือไม่ ซึ่งถือเป็นระดับที่กดดันตลาด และผลกระทบจะสะท้อนผ่านอัตราดอกเบี้ยที่เพิ่มขึ้น ซึ่งจะกระทบภาคอสังหาริมทรัพย์ก่อน
โดยอัตราดอกเบี้ยระหว่างธนาคารของฮ่องกง (HIBOR) ระยะ 1 เดือน อยู่ที่ร้อยละ 2.73 เพิ่มขึ้นร้อยละ 2.4 นับตั้งแต่เดือนมีนาคมที่ผ่านมา
“เรย์มอน ยอง” หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์ตลาดจีนของธนาคาร ANZ ระบุว่า บัญชีเงินสดระหว่างธนาคารลดลง ซึ่งอาจทำให้เกิดการแกว่งตัวของอัตราดอกเบี้ย โดยผู้ที่กู้สินเชื่อจำนองในช่วงทศวรรษที่ผ่านมา การจ่ายดอกเบี้ยอาจเป็นสัดส่วนเพียงเล็กน้อยของรายได้ แต่ขณะนี้เปลี่ยนไปแล้ว การจ่ายดอกเบี้ยเพิ่มขึ้นอาจสร้างปัญหาให้กับคนที่เคยจ่ายดอกเบี้ยต่ำ
ทั้งนี้ นโยบายการเงินของฮ่องกงจะสอดคล้องกับสหรัฐฯ เนื่องจากฮ่องกงตรึงค่าเงินไว้กับดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งการเข้าแทรกแซงค่าเงินดอลลาร์ฮ่องกง จะต้องคำนึงถึงทุนสำรองในรูปสกุลดอลลาร์สหรัฐด้วย
ธนาคารกลางฮ่องกงได้เข้าซื้อสกุลเงินท้องถิ่นมูลค่ารวม 3 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐจากตลาด ผ่านการแทรกแซง 38 รอบ นับตั้งแต่ธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) เริ่มปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเดือนมีนาคม และขณะนี้ฮ่องกงมีทุนสำรองระหว่างประเทศราว 4.19 แสนล้านดอลลาร์ ทำให้ธนาคารกลางฮ่องกงลดแรงกดดันจากการตรึงค่าเงินได้
ที่มาข้อมูล : TNN ONLINE
ที่มาภาพ : TNN