สรุปข่าว
WEH ดำเนินธุรกิจโรงไฟฟ้าพลังงานลมกำลังผลิต 717 เมกะวัตต์ (MW) รวม 8 โครงการ ครองสัดส่วนมากกว่า 42% ของโควต้าการผลิตไฟฟ้าพลังงานลมในไทย และได้ผลิตไฟฟ้าพลังงานลมเข้าระบบแล้วถึง 1,800 กิกะวัตต์ชั่วโมง (GWh) ต่อปี ถือเป็นบริษัทแรกที่เป็นผู้นำด้านอุตสาหกรรมพลังงานลมที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย มีทุนจดทะเบียนถึง 1,088 ล้านบาท
โดยโครงการทั้งหมดอยู่ภายใต้การบริหารจัดการของบริษัทย่อยแต่ละแห่งในจังหวัดนครราชสีมาและจังหวัดชัยภูมิ กระแสไฟฟ้าที่กลุ่มบริษัทผลิตได้ทั้งหมดถูกจำหน่ายให้กับการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย หรือ กฟผ. ภายใต้สัญญาซื้อขายไฟฟ้าระยะยาว (PPA) ซึ่งทุกโครงการได้ดำเนินการจ่ายไฟฟ้าเข้าระบบเชิงพาณิชย์ (COD) ให้กับ กฟผ. เป็นที่เรียบร้อย
ธุรกิจของ WEH มีแนวโน้มเติบโตต่อเนื่องสะท้อนจากผลการดำเนินงานที่โตขึ้นทุกปี โดยในปี 2563 มีรายได้รวม 9,972 ล้านบาท ส่วนปี 2564 มีรายได้รวม 10,985 ล้านบาท มีความสามารถการทำกำไรอยู่ในระดับ 40-50% ทุกปี และสามารถจ่ายปันผลตอบแทนผู้ถือหุ้นในปี 2564 ทุกไตรมาสรวม 30.50 บาทต่อหุ้น ในขณะที่ ผลประกอบการครึ่งแรกปี 2565 บริษัทมีรายได้รวม 5,100 ล้านบาท และตั้งเป้ารายได้ปี 2565 เติบโต 5-7% หรือ 12,000 ล้านบาท จากปัจจัยบวกที่ช่วยสนับสนุนธุรกิจ รวมถึงการบริหารความเสี่ยงในการดำเนินงาน ครอบคลุมในทุกมิติ ดังนี้
1. ไตรมาส 4 เป็นช่วงที่ลมดี ถือเป็นไฮซีซั่นของทุกปี
2. ได้รับอานิสงส์จากค่า FT ส่งผลให้รายได้ค่าไฟต่อหน่วยเพิ่มขึ้นเกือบ 10%
3. WEH ทำการล็อกอัตราแลกเปลี่ยนระยะยาว มูลค่าราว 5,000 ล้านบาท
4. อัตราดอกเบี้ยไม่แปรผันตามตลาดโลก เนื่องจากทำสัญญาล่วงหน้าร้อยละ 90 ของดอกเบี้ยตลอดอายุโครงการ
5. สัญญาซื้อขายไฟระยะยาว มั่นคง มีการประกันภัย
6. ควบคุมค่าใช้จ่าย การันตีเป็นรายได้
นอกจากนี้ แผนธุรกิจของ WEH ในช่วง 3-5 ปี ข้างหน้า ยังตั้งเป้าหมายเพิ่มยอดกำลังการผลิตรวม COD จากพลังงานลม ให้แตะระดับ 1,500 เมกะวัตต์ ภายในระยะ 5 ปีข้างหน้า รวมถึงมองหาโอกาสการลงทุนที่ดีทั้งในประเทศและต่างประเทศ โดยมีแผนการลงทุนโปรเจคใหม่ๆ ทั้งการเตรียมความพร้อมยื่นประมูลโครงการพลังงานลม 9 โครงการ กำลังการผลิต 810 เมกะวัตต์ และโครงการพลังงานแสงอาทิตย์ 2 โครงการ กำลังการผลิต 60 เมกะวัตต์ มูลค่าโครงการประมาณ 50,000 ล้านบาท คาดว่าจะเปิดให้ยื่นประมูลได้ในช่วงปลายปี 2565
นอกจากนี้ ยังเริ่มขยายธุรกิจนอกเหนือจากพลังงานลมไปลงทุนในธุรกิจอื่นๆ ได้แก่ ด้านสุขภาพและความงาม รวมถึงศึกษาธุรกิจอื่นๆ เพิ่มเติมทั้งในและต่างประเทศ ที่มีศักยภาพการเติบโตสูง อาทิ ประเทศเวียดนาม กลุ่มประเทศในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และยุโรปตะวันออก สามารถกระจายความเสี่ยงและเพิ่มโอกาสในการสร้างรายได้ให้กับบริษัทอย่างยั่งยืนในอนาคต
WEH กับการเติบโต ด้วยแผนการเข้าสู่ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย โดยที่ผ่านมาได้ดำเนินธุรกิจภายใต้แผนงานและการวางโครงสร้างองค์กรเพื่อรองรับการเข้าจดทะเบียนเกือบ 100% ซึ่งแผนในอนาคตหากบริษัทได้โครงการใหม่ๆ และสามารถ COD ได้ใน 2-3 ปีข้างหน้า อาจจะเป็นจังหวะเวลาที่เหมาะสมในการพิจารณาช่วงเวลาเข้าสู่ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยต่อไป
ดังนั้น ในปัจจุบันจึงมีแผนระดมเงินเพื่อการดำเนินธุรกิจอย่างต่อเนื่องด้วยการระดมทุนผ่านการเสนอขายหุ้นกู้ โดยล่าสุดได้เตรียมออกหุ้นกู้ระยะยาวชนิดระบุชื่อผู้ถือ ประเภทไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีประกัน และมีผู้แทนผู้ถือหุ้นกู้ อายุ 2 ปี อัตราดอกเบี้ย ร้อยละ 6.75 ต่อปี เสนอขายไม่เกิน 2,000 ล้านบาท ให้แก่ ผู้ลงทุนสถาบัน และ/หรือ ผู้ลงทุนรายใหญ่ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อ ลงทุนศึกษาความพร้อมการขยายแผนธุรกิจพลังงานและลงทุนในธุรกิจอื่นๆ และเป็นเงินทุนหมุนเวียน
สำหรับความสามารถในการชำระหนี้ของ WEH เดิมมีมูลค่าหนี้เริ่มต้นกว่า 40,000 ล้านบาท ปัจจุบันเหลือหนี้โครงการอยู่ที่ประมาณ 25,000 ล้าน ซึ่งในปี 2564 หลังบริษัทชำระหนี้โครงการยังสามารถจ่ายปันผลตอบแทนผู้ถือหุ้นทุกไตรมาสราว 3,300 ล้านบาท
ที่มาข้อมูล : -