ยอดลงทุนอสังหาฯ จีน 7 เดือนแรก ลดลง 6.4%
ยอดลงทุนภาคอสังหาริมทรัพย์ของจีน ในช่วง 7 เดือนแรก ลดลงร้อยละ 6.4 ในขณะที่ราคาบ้านใหม่เดือนกรกฎาคมทรงตัวเป็นเดือนที่ 2
สำนักงานสถิติจีน ได้ออกมาเปิดเผยว่า ยอดการลงทุนอสังหาริมทรัพย์ในจีนช่วง 7 เดือนแรกของปีนี้ ลดลงร้อยละ 6.4 จากช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว นับเป็นสถิติสูงสุดนับตั้งแต่เดือนมีนาคมปี 2563 และมากกว่าช่วง 6 เดือนแรกของปีที่ลดลงร้อยละ 5.4 อีกด้วย
ซึ่งเม็ดเงินลงทุนในการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ระหว่างเดือนมกราคม-กรกฎาคม มีมูลค่าราว 7.95 ล้านล้านหยวน ขณะที่การลงทุนเกี่ยวกับที่พักอาศัยอยู่ที่ 6.02 ล้านล้านหยวน ลดลงร้อยละ 5.8 เมื่อเทียบในรายปี
ขณะที่ยอดการขายอสังหาริมทรัพย์ เมื่อวัดตามพื้นที่อาคาร (floor area) ในช่วงเดือนมกราคม-กรกฎาคม อยู่ที่ 781.78 ล้านตารางเมตร ลดลงร้อยละ 23.1 จากช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว เมื่อวัดในแง่มูลค่ายอดขายอยู่ที่ 7.58 ล้านล้านหยวนหรือลดลงร้อยละ 28.8
สำหรับประเด็นการก่อสร้างโครงการใหม่ เมื่อวัดตามพื้นที่อาคาร ในช่วง 7 เดือนแรก ลดลงร้อยละ 36.1 ขณะที่การระดมทุนของบริษัทพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ลดลงร้อยละ 25.4
นอกจากนี้ ราคาบ้านใหม่ของจีนในเดือนกรกฎาคมยังไม่เปลี่ยนแปลงเป็นเดือนที่ 2 เนื่องจากความเชื่อมั่นที่เปราะบางอยู่แล้วได้รับผลกระทบจากการที่ผู้ซื้อบ้านไม่ยอมจ่ายค่างวดโครงการที่ก่อสร้างยังไม่เสร็จ แม้จะมีมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจอย่างต่อเนื่องก็ตาม
โดยราคาบ้านใหม่ในเดือนกรกฎาคมลดลงร้อยละ 0.9 เมื่อเทียบช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว มากสุดนับตั้งแต่เดือนกันยายน ปี 2558 และสูงกว่าเดือนมิถุนายนที่ลดลงร้อยละ 0.5
ทั้งนี้ทั้งนั้น ตลาดอสังหาริมทรัพย์ ซึ่งคิดเป็นสัดส่วนประมาณ 1 ใน 4 ของเศรษฐกิจจีน ซึ่งขณะนี้กำลังชะลอตัวเนื่องจากบริษัทที่มีปัญหาสภาพคล่องผิดนัดชำระหนี้เงินกู้และหุ้นกู้ ขณะที่ผู้ซื้อบ้านก็ไม่ยอมจ่ายค่างวดโครงการบ้านที่ยังสร้างไม่เสร็จ
ข้อมูลจาก : TNN ONLINE
ภาพจาก : TNN