สรุปข่าว
ประธานกรรมการบริษัท "เดลต้า อีเลคโทรนิคส์ (ประเทศไทย)" หรือ แจ็คกี้ ชาง ออกมาเปิดเผยถึงแนวโน้มผลประกอบการในช่วงครึ่งปีหลังว่า ด้วยความไม่แน่นอนในหลายปัจจัย ไม่ว่าจะเป็นในส่วนของสถานการณ์วัตถุดิบที่ยังคงขาดแคลนอยู่ โดยเฉพาะในส่วนของส่วนประกอบชิปเซ็ต (Component it chipset) ในกลุ่มอุตสาหกรรมรถยนต์ไฟฟ้า (EV) ทำให้ยังต้องมีความระมัดระวังการดำเนินการต่างๆอย่างต่อเนื่อง และยังไม่สามารถที่จะยืนยันได้ว่าผลประกอบการจะเติบโตได้เหมือนช่วงครึ่งปีแรกของปีนี้หรือไม่
แต่ทาง แจ็คกี้ ชาง ได้ระบุว่า ทาง DELTA จะยังคงเดินหน้าเพื่อที่จะบริหารจัดการต้นทุนให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้นต่อไป ซึ่งเป้าหมายหลักจะอยู่ที่การลดค่าใช้จ่ายทางด้านแรงงานลงเหลือร้อยละ 3-4 จากปัจจุบัน ซึ่งเป็นการลงทุนพัฒนารูปแบบ Smart Manufacturing หรือการนำเทคโนโลยีขั้นสูงมาเชื่อมโยงการทำงานอย่างรวดเร็วและแม่นยำ
และเขายังมั่นใจด้วยว่ารายได้รวมของปีนี้ จะยังคงสามารถเติบโตได้ตามเป้าหมายที่วางไว้ไม่ต่ำกว่าร้อยละ 10 จากปี เพราะในปัจจุบันกลุ่มสินค้าของบริษัทยังมีความต้องการค่อนสูงอยู่ แต่ถึงอย่างนั้นก็ยังคงต้องมีการวางแผยการจัดการวัตถุดิบให้ดี
โดยบริษัท "เดลต้า อีเลคโทรนิคส์ (ประเทศไทย)" ได้มีการรายงานกำไรสุทธิไตรมาส 2 ที่ 4,263.46 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจาก 1,655.39 ล้านบาทที่ทำได้ในงวดเดียวกันของปีที่ผ่านมา ในขณะที่กำไรครึ่งปีแรกนี้อยู่ที่ 7,043.59 ล้านบาท
จากความเห็นของนักวิเคราะห์อย่าง "โนมูระ พัฒนสิน" มีมุมมองที่เป็นบวกสำหรับ "DELTA" เนื่องจากแนวโน้มการดำเนินงานในครึ่งหลังปี 65 ยังค่อนข้างเป็นไปในทิศทางที่ดี ทั้งในด้านยอดขายและกำไรขั้นต้น (GPM) รวมทั้งกลุ่มรถยนต์ที่มียอดขายในกลุ่มนี้ดีกว่าคาด
ภาพรวมธุรกิจที่เป็นไปในทางบวก "โนมูระ พัฒนสิน" จึงปรับประมาณการกำไรสุทธิเพิ่มขึ้นในช่วง 3 ปีหลังจากนั้น
โดยในปี 2565 ที่ปรับขึ้นจากเดิมร้อยละ 13
ปี 2566 ปรับขึ้นจากเดิมร้อยละ 25
และปี 2567 ปรับขึ้นจากเดิมร้อยละ 21
ข้อมูลจาก : TNN ONLINE
ภาพจาก : TNN, DELTA THAILAND
ที่มาข้อมูล : -