เกาหลีเหนือมุ่งหน้าสู่มหาอำนาจนิวเคลียร์หรือไม่?
เกาหลีเหนือประกาศความสำเร็จในการทดสอบขีปนาวุธข้ามทวีป หรือ ICBM ครั้งใหญ่สุด และยังเป็นการยิงทดสอบขีปนาวุธข้ามทวีป ICBM อย่างเต็มรูปแบบเป็นครั้งแรกของเกาหลีเหนือในรอบ 5 ปี ตั้งแต่ปี 2017 เป็นต้นมา ทำให้มีปฏิกิริยาจากนานาชาติแล้ว
KCNA สื่อรัฐบาลเกาหลีเหนือเปิดภาพนิ่งหลายภาพ ของการยิงทดสอบขีปนาวุธ ICBM รุ่นใหม่นี้ ที่มีชื่อว่า “ฮวาซอง-17” เป็นภาพขีปนาวุธขนาดมหึมาสีขาวดำ กำลังถูกยิงออกจากฐานยิงที่เป็นยานพาหนะ เห็นเปลวเพลิงพวยพุ่งขึ้นจากฐานยิง
คิม จองอึน ผู้นำเกาหลีเหนือ บัญชาการยิงทดสอบขีปนาวุธครั้งนี้ด้วยตนเอง และกล่าวว่า ขีปนาวุธฮวาซอง-17 ออกแบบมาเพื่อแสดงแสนยานุภาพของกองกำลังนิวเคลียร์ของเกาหลีเหนือ และกองกำลังทางยุทธศาสตร์ของเกาหลีเหนือพร้อมเต็มที่ สำหรับการเผชิญหน้าระยะยาวกับจักรวรรดินิยมสหรัฐฯ
ด้านนักวิเคราะห์ระบุว่า ฮวาซอง-17 นับเป็นขีปนาวุธแบบใช้เชื้อเพลิงเหลวขนาดใหญ่ที่สุด ที่เคยถูกยิงออกมาจากฐานยิงแบบเคลื่อนที่ไปบนถนน โดยประเทศใด ๆ ในโลกนี้
---ขีปนาวุธมอนสเตอร์ ติดหัวรบนิวเคลียร์ได้หลายลูก---
อันคิต ปันดา นักวิเคราะห์จาก Carnegie Endowment for International Peace เรียกการทดสอบครั้งนี้ว่า เป็นหมุดหมายสำคัญของคลังอาวุธนิวเคลียร์ของเกาหลีเหนือ และเป็นขีปนาวุธที่ใหญ่สุดของเกาหลีเหนือ ซึ่งสามารถติดหัวรบนิวเคลียร์ได้หลายลูก
ทั้งนี้ กองทัพญี่ปุ่นและเกาหลีใต้ได้ติดตามการทดสอบดังกล่าวและพบว่า ขีปนาวุธฮวาซอง-17 ไปได้ไกลกว่า 1,100 กิโลเมตร และไปตกในน่านน้ำของญี่ปุ่น หลังเคลื่อนที่ได้นานมากกว่าหนึ่งชั่วโมง
คิม ดอง ยับ นักวิชาการในเกาหลีใต้ระบุว่า ขีปนาวุธ ICBM ล่าสุดของเกาหลีเหนือ อาจมีพิสัยยิงได้ไกลถึง 15,000 กิโลเมตร ขึ้นอยู่ว่า บรรทุกหัวรบหนักแค่ไหน
---เกาหลีเหนือทดสอบขีปนาวุธไม่หยุด---
การยิง ICBM ยังเกิดขึ้นหลังเกาหลีเหนือระดมทดสอบขีปนาวุธหลายครั้ง ซึ่งสหรัฐฯ และเกาหลีใต้อ้างว่า เป็นส่วนหนึ่งของระบบ ICBM
ทั้งนี้ สหประชาชาติห้ามเกาหลีเหนือทดสอบขีปนาวุธทิ้งตัวและอาวุธนิวเคลียร์ และมีการใช้มาตรการคว่ำบาตรเพื่อลงโทษเกาหลีเหนือสำหรับการทดสอบครั้งก่อน ๆ
แต่ในปี 2018 นายคิม จองอึน ได้ตกลงหยุดยิงขีปนาวุธทิ้งตัวพิสัยไกลและการทดสอบนิวเคลียร์ หลังการหารือกับประธนาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แต่ในปี 2020 ผู้นำเกาหลีเหนือ ประกาศว่าไม่จำเป็นต้องทำตามคำสัญญานี้แล้ว
ก่อนหน้านี้ในปี 2017 เกาหลีเหนือได้ทดสอบขีปนาวุธ ICBM ที่ชื่อฮวาซอง-12 มาแล้ว ซึ่งสามารถขึ้นไปได้สูงที่ระดับ 4,500 กิโลเมตร ซึ่งผู้เชี่ยวชาญคาดว่า หากมีการยิงด้วยวิถีโคจรมาตรฐาน ขีปนาวุธดังกล่าวจะสามารถเดินทางไปได้ไกลถึง 13,000 กิโลเมตร ซึ่งหมายความว่า สามารถเข้าไปได้ในทุกพื้นที่ของสหรัฐฯ
---การตอบโต้ของเกาหลีใต้และนานาชาติ---
การทดสอบ ICBM นี้ ถือเป็นจัดที่ทำให้สถานการณ์บนคาบสมุทรเกาหลีเลวร้ายลง และมีการประณามจากทั้งสหประชาชาติ เกาหลีใต้ ญี่ปุ่น และสหรัฐฯ
ประธานาธิบดีมุน แจอิน ของเกาหลีใต้ ระบุว่า นายคิม จอง อึน ผู้นำสูงสุดของเกาหลีเหนือ ได้ละเมิดข้อตกลงการหยุดพักการยิงขีปนาวุธข้ามทวีป และประณามการทดสอบยิงขีปนาวุธครั้งล่าสุดของเกาหลีเหนืออย่างรุนแรง
ส่วนนายยุน ซ็อคยอล ว่าที่ประธานาธิบดีเกาหลีใต้คนใหม่ เตือนเกาหลีเหนือในวันนี้ว่า จะไม่ได้อะไรจากการยั่วยุ และเกาหลีใต้จะปกป้องเสรีภาพและสันติภาพด้วยการวางท่าทีด้านความมั่นคงที่แข็งแกร่งขึ้น
ขณะเดียวกัน กองทัพเกาหลีใต้ แถลงในวันพฤหัสบดี (24 มีนาคม) ว่า กองทัพได้ทำการซ้อมรบด้วยการยิงขีปนาวุธที่มีหัวรบหลายลูก และขีปนาวุธด้านยุทธศาสตร์จริงทันที 5 ครั้ง หลังจากเกาหลีเหนือทดลองยิงขีปนาวุธข้ามทวีป
สำนักงานเสนาธิการกองทัพเกาหลีใต้ ระบุว่า การซ้อมรบของเกาหลีใต้ครั้งนี้ เป็นการยืนยันว่า กองทัพมีขีดความสามารถในการโจมตีเป้าหมายอย่างแม่นยำ หากต้องการโจมตีสถานที่ตั้งฐานยิงขีปนาวุธและระบบป้องกันของเกาหลีเหนือ
ด้าน เน็ด ไพรซ์ โฆษกกระทรวงต่างประเทศสหรัฐฯ ระบุว่า รัสเซียประกาศคว่ำบาตรบุคคล บริษัท 5 รายที่อยู่ในรัสเซียและเกาหลีเหนือ ฐานเกี่ยวข้องกับโครงการขีปนาวุธเกาหลีเหนือ ขณะที่โฆษกทำเนียบขาวระบุว่า สหรัฐฯ จะใข้มาตรการทั้งหมดที่จำเป็นในการรับประกันความมั่นคงของสหรัฐฯ และชาติพันธมิตร
---ทำไมเกาหลีเหนือทดสอบ ICBM---
บรรดานักวิเคราะห์มองว่า การทดสอบขีปนาวุธของเกาหลีเหนือหลายครั้งที่ผ่านมานั้น สะท้อนว่านายคิม จองอึน ต้องการแสดงให้โลกเห็นว่าเกาหลีเหนือยังเป็นผู้เล่นในเกมอำนาจและอิทธิพลของโลก
เกาหลีเหนือไม่ต้องการถูกละเลย และอาจกำลังฉวยโอกาสในช่วงที่โลกกำลังวุ่นกับสงครามในยูเครน ในการพัฒนาสถานะชาตินิวเคลียร์ของเกาหลีเหนือให้สำเร็จ ซึ่งเกาหลีเหนือไม่ได้มีเป้าหมายที่จะโจมตีใครแบบรัสเซียกำลังโจมตียูเครน แต่น่าจะเป็นการสร้างแสนยานุภาพในการป้องกันตนเอง เพื่อเปลี่ยนระเบียบอำนาจในเอเชียหลังสงครามโลกมากกว่า
นอกจากนี้ การทดสอบต่าง ๆ ยังมีขึ้นหลังเกาหลีใต้ได้ประธานาธิบดีคนใหม่ ยุน ซ็อคยอล ที่มีนโยบายแข็งกร้าวต่อเกาหลีเหนือด้วย
—————
ติดตามสถานการณ์ยูเครน-รัสเซียอย่างใกล้ชิด
https://bit.ly/TNNRussiaInvasion
—————
แปล-เรียบเรียง: สุภาพร เอ็ลเดรจ
ภาพ: Reuters