รัสเซีย-ยูเครน ตั้งโต๊ะเจรจาสงบศึก รอบแรกไร้ข้อสรุป เตรียมนัดคุยรอบ 2

วันนี้ (1 มี.ค.65) การเจรจาโดยตรงระหว่างคณะผู้แทนของรัสเซียและยูเครน เพื่อคลี่คลายความขัดแย้งระหว่างทั้งสองประเทศ ในภูมิภาคโกเมลของเบลารุส บริเวณชายแดนเบลารุสและยูเครน ใกล้กับแม่น้ำปรีเปียต เมื่อวานนี้ ได้สิ้นสุดลงโดยปราศจากข้อสรุป

นายวลาดิเมียร์ เมดินสกี หัวหน้าคณะเจรจาของรัสเซีย กล่าวว่า การเจรจารอบต่อไปจะมีขึ้นที่บริเวณชายแดนเบลารุสและโปแลนด์ ในอีกไม่กี่วัน โดยคณะตัวแทนแต่ละฝ่ายจะกลับไปเจรจากับรัฐบาลของตนเพื่อหารือจุดยืนในการเจรจา ก่อนที่จะกลับมาพบกันอีกครั้ง ซึ่งทั้ง 2 ฝ่ายพบว่า บางประเด็นสามารถเจรจาต่อไปเพื่อให้มีจุดยืนร่วมกัน

ด้านนายเลโอนิด สลัตสกี ประธานคณะกรรมาธิการวิเทศสัมพันธ์ประจำรัฐสภารัสเซีย กล่าวว่า ทั้งสองฝ่ายได้รับฟังความกังวลของแต่ละฝ่าย และได้พบบางประเด็นที่จะสามารถสานต่อการเจรจาเพื่อให้มีความคืบหน้าต่อไป 

ส่วนที่ปรึกษาของประธานาธิบดีโวโลดิเมียร์ เซเลนสกี ผู้นำยูเครน กล่าวว่า การเจรจารอบต่อไปจะมีขึ้นในไม่ช้า ซึ่งก่อนหน้านี้ สำนักประธานาธิบดียูเครน ระบุในแถลงการณ์ว่า ประเด็นสำคัญของการเจรจาครั้งนี้คือ การเรียกร้องให้รัสเซียประกาศหยุดยิงทันทีและถอนกำลังทหารออกจากยูเครน ซึ่งยังไม่แน่ชัดว่าผู้แทนรัสเซียพร้อมจะปฏิบัติตามข้อเรียกร้องดังกล่าวหรือไม่ 

ขณะที่ความเคลื่อนไหวในยูเครน มีการเปิดเผบข้อมูลจากรัฐสภายูเครนว่า ประธานาธิบดียูเครน ได้ลงนามในเอกสารเพื่อยื่นขอสมาชิกภาพในสหภาพยุโรป หรือ EU ซึ่งเป้าหมายของยูเครนคือการเข้าร่วมกับประเทศในยุโรปทั้งหมด โดยมีสถานะที่เท่าเทียมกัน พร้อมเรียกร้องให้สหภาพยุโรป ยอมรับยูเครนเข้าเป็นสมาชิกอียูในทันทีภายใต้เงื่อนไขพิเศษโดยไม่ต้องผ่านกระบวนการพิจารณาสมาชิกภาพ เชื่อจะช่วยให้ยูเครนสามารถรับความช่วยเหลือจากชาติสมาชิกอียูในการป้องกันตนเองจากการโจมตีของรัสเซียได้ดียิ่งขึ้น 

ขณะที่ ทำเนียบเคลมลิน แถลงว่า เมื่อวานนี้ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ผู้นำรัสเซีย ได้หารือทางโทรศัพท์กับประธานาธิบดีเอมมานูเอล มาครง ผู้นำฝรั่งเศส โดยผู้นำรัสเซีย เน้นย้ำว่า การแก้ไขปัญหาดังกล่าว ขึ้นอยู่กับว่า ชาติตะวันตกจะต้องเคารพอย่างไม่มีเงื่อนไขต่อผลประโยชน์อันชอบธรรมของรัสเซียในประเด็นความมั่นคง ซึ่งรวมถึงการยอมรับอธิปไตยของรัสเซียเหนือไครเมีย, การปลดอาวุธยูเครน และทำให้เป็นเขตปลอดทหาร รวมทั้งรับประกันว่ายูเครนจะมีสถานะรัฐที่เป็นกลาง 

นอกจากนี้ รัฐบาลรัสเซีย ประกาศห้ามสายการบินจาก 36 ประเทศใช้น่านฟ้าของรัสเซีย เพื่อเป็นการตอบโต้ชาติตะวันตกที่คว่ำบาตรรัสเซีย โดยมี สายการบินอังกฤษ เยอรมนี สเปน อิตาลี และแคนาดา อยู่ในกลุ่มประเทศที่ถูกห้ามด้วย

ทั้งนี้ กรมการบินพาณิชย์รัสเซียแถลงว่า คำสั่งดังกล่าวมีขึ้นเพื่อตอบโต้มาตรการของประเทศในยุโรป / หากสายการบินจะใช้น่านฟ้าของรัสเซียจะต้องได้รับอนุญาตเป็นกรณีพิเศษ.

ภาพจาก AFP