TNN เจาะนัยยะรัสเซียสั่งเตรียมพร้อมอาวุธนิวเคลียร์ตอบโต้ชาติตะวันตก

TNN

วิกฤตรัสเซีย-ยูเครน

เจาะนัยยะรัสเซียสั่งเตรียมพร้อมอาวุธนิวเคลียร์ตอบโต้ชาติตะวันตก

เจาะนัยยะรัสเซียสั่งเตรียมพร้อมอาวุธนิวเคลียร์ตอบโต้ชาติตะวันตก

ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ผู้นำรัสเซีย มีคำสั่งยกระดับให้หน่วยทหารที่ดูแลเรื่องการยิงอาวุธนิวเคลียร์อยู่ในการเตรียมพร้อมขั้นสูงสุด อ้างชาติตะวันตกกำลังมีการเคลื่อนไหวที่ไม่เป็นมิตรต่อรัสเซีย หลังสหรัฐฯ กับชาติยุโรปประสานเสียงว่าจะส่งอาวุธให้กับกองทัพยูเครนจำนวนมาก เพื่อใช้สู้กับรัสเซีย

ประธานาธิบดีปูตินได้ประชุมร่วมกับรัฐมนตรีกลาโหมและเสนาธิการทหาร โดยสั่งการให้เตรียมพร้อมเป็นพิเศษสำหรับกองกำลังป้องปรามทางยุทธศาสตร์ ซึ่งหมายถึงการเตรียมพร้อมอาวุธหลากหลายชนิด ทั้งนิวเคลียร์และอาวุธแบบดั้งเดิม สำหรับใช้การป้องกันและการโจมตี


Deterrence forces คือกองกำลังป้องปรามนิวเคลียร์ ซึ่งปูตินระบุว่า เขาได้สั่งการให้กองกำลังดังกล่าวอยู่ในโหมดพิเศษของการต่อสู้


สำนักข่าว RT รายงานว่า ในความหมายทางการทหารของรัสเซีย หมายถึง การยับยั้งการรุกรานรัสเซียและพันธมิตรของรัสเซีย ตลอดจนการปราบผู้รุกราน ซึ่งรวมถึงการทำสงครามด้วยอาวุธนิวเคลียร์


ด้านมาร์ค ฟิโนด์ ผู้เชี่ยวชาญด้านอาวุธนิวเคลียร์ที่ Geneva Centre for Security Policy กล่าวว่า อาวุธนิวเคลียร์ส่วนหนึ่งของรัสเซียนั้น อยู่ในสถานะพร้อมใช้ตลอดเวลาอยู่แล้ว สามารถยิงได้ภายใน 10 นาที หัวรบนิวเคลียร์ติดอยู่ที่ขีปนาวุธ หรือระเบิดก็อยู่ที่เครื่องบินรบและเรือดำน้ำอยู่แล้ว


ในบทความของ Bulletin of the Atomic Scientists ผู้เชี่ยวชาญด้านนิวเคลียร์ระบุว่า รัสเซียมีหัวรบประจำการอยู่แล้วเกือบ 1,600 ลูก จึงเกิดคำถามในหมู่ผู้เชี่ยวชาญว่า เนื่องด้วยกองกำลังยุทธศาสตร์นี้ของรัสเซีย พร้อมอยู่เสมอก่อนแล้ว ฉะนั้น คำสั่งของปูตินนั้น หมายถึงการ การให้ติดตั้งหัวรบที่เรือดำน้ำหรือเครื่องบินทิ้งระเบิดเพิ่มขึ้นจากเดิมหรือไม่


---นัยยะของการสั่งยกระดับความพร้อม---


นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่มองว่า การเอ่ยถึงตัวเลือกเกี่ยวกับอาวุธนิวเคลียร์ อาจแสดงถึงความเคลื่อนไหวอันสิ้นหวังของรัสเซีย หลังการสู้รบทางทหารเพลี่ยงพล้ำ เพราะกองทัพยูเครนต่อต้านได้มากกว่าที่คาดการณ์ไว้


แทนที่จะสามารถชนะได้อย่างรวดเร็วและควบคุมดินแดนต่าง ๆ ไว้ได้ ทั้ง ๆ ที่ผ่านมาสี่วันแล้ว แต่กองทัพรัสเซียขณะนี้ กำลังเผชิญการตอบโต้แบบกองโจร และเป็นไปได้ที่จะเกิดความสูญเสียในฝั่งทหารรัสเซียมาก


---ปูตินกลืนน้ำลายตัวเอง?---


ในปี 2020 ปูตินได้อนุมัติหลักการว่า มีเพียงสี่เหตุผลเท่านั้นที่รัสเซียจะใช้อาวุธนิวเคลียร์ คือ


- เมื่อมีการยิงขีปนาวุธนำวิถีโจมตีรัสเซีย หรือผนแผ่นดินของชาติพันธมิตรรัสเซีย


- เมื่อศัตรูใช้อาวุธนิวเคลียร์


- เมื่อมีการโจมตีสถานที่เก็บอาวุธนิวเคลียร์รัสเซีย


- เมื่อมีการโจมตีที่เป็นภัยต่อการมีอยู่ของรัสเซีย


อย่างไรก็ตาม จากสถานการณในขณะนี้ ยังไม่เข้าข่ายว่ารัสเซียจะสามารถใช้อาวุธนิวเคลียร์ได้


นอกจากนี้ รัสเซียยังเข้าร่วมลงนามเอกสารกับอีกสี่ชาติสมาชิกถาวรคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติเมื่อเดือนมกราคมที่ผ่านมา ยืนยันว่า จะไม่มีสงครามนิวเคลียร์


---เบลารุสแย้ม อยากให้รัสเซียส่งอาวุธนิวเคลียร์คืน--


สำนักข่าว RT รายงานว่า ประธานาธิบดีอเล็กซานเดอร์ ลูคาเชนโกของเบลารุส ระบุว่า หากชาติตะวันตกย้ายคลังอาวุธมาใกล้ชายแดนเบลารุสมากขึ้น รัฐบาลเบลารุสก็จะขอให้รัสเซียส่งอาวุธนิวเคลียร์กลับคนมาให้เบลารุส


ลูคาเชนโก กล่าวว่า เขาได้บอกกับประธานาธิบดีเอ็มมานูเอล มาครงของฝรั่งเศสว่า หากอเมริกา หรือฝรั่งเศส ใช้อาวุธนิวเคลียร หรือส่งอาวุธนิวเคลียร์ไปให้โปแลนด์ ลิทัวเนีย หรือที่ชายแดนของเบลารุส เขาจะร้องของประธานาธิบดีปูติน ให้ส่งอาวุธนิวเคลียร์ที่เบลารุสยกให้ในอดีตกลับคนมาให้


ทั้งนี้ ช่วงปี 1994-1996 เบลารุส ยูเครน และคาซัคสถาน ตกลงยอมมอบอาวุธนิวเคลียร์ให้กับรัสเซีย เพื่อแลกกับการรับรองความมั่นคงจากรัสเซีย


ขณะเดียวกัน เบลารุสจัดการลงประชามติเมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา อนุมัติแผนให้เบลารุสรับรองรัฐธรรมนูญใหม่ เพื่อเปลี่ยนสถานะจากประเทศที่ปลอดนิวเคลียร์ เป็นประเทศที่มีนิวเคลียร์ได้


นั่นหมายความว่า ประเทศเบลารุส จะสามารถครอบครองนิวเคลียร์ได้เป็นครั้งแรก นับแต่ประกาศเอกราชในปี 1990


---ชาติตะวันตกพร้อมยกระดับ ส่งอาวุธให้ยูเครน---


โฆษกทำเนียบขาวสหรัฐฯ บอกว่า รัสเซียไม่จำเป็นต้องเตรียมความพร้อมด้านนิวเคลียร์ เพราะที่ผ่านมา รัสเซียยังไม่ได้เผชิญภัยคุกคามจากประเทศสมาชิกองค์การสนธิสัญญาป้องกันแอตแลนติกเหนือ หรือนาโตแม้แต่น้อย


ขณะที่ เยนส์ สโทลเทนเบิร์ก เลขาธิการนาโต บอกว่าท่าทีล่าสุดของรัสเซียเรื่องนิวเคลียร์ถือว่าอันตรายอย่างยิ่ง


อูร์ซูลา ฟอน เดอ เลเยน ประธานคณะกรรมาธิการยุโรป ประกาศว่า สหภาพยุโรป จะสนับสนุนทางการเงินในการจัดซื้อและส่งอาวุธไปให้ยูเครนเป็นครั้งแรก ซึ่งที่ผ่านมา อียูมีเรื่องต้องห้ามคือการจัดหาอาวุธสำหรับสงคราม


แหล่งข่าวในอียูบอกกับสำนักข่าว Reuterse ว่า อียูมีแผนใช้งบประมาณราว 507 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ในการจัดหาอาวุธให้ยูเครน และจัดหาอุปกรณ์ทางการแพทย์อีก 56 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ


ด้านสวีเดนประกาศว่า จะฝ่าฝืนนโยบายของตนเองเรื่องการไม่จัดหาอาวุธในประเทศที่มีความขัดแย้งเช่นกัน โดยจะส่งอุปกรณทางการทหารให้ยูเครน เช่น อุปกรณ์ยิงต่อต้านรถถัง 5000 ชุด หมวกนิรภัย ชุดเกราะ และอาหารสำหรับภาคสนามกว่า 135,000 ชุด เป็นต้น

—————

ติดตามสถานการณ์ยูเครน-รัสเซียอย่างใกล้ชิด

https://bit.ly/TNNRussiaInvasion

—————

แปล-เรียบเรียง: ธันย์ชนก จงยศยิ่ง

ภาพ: Getty Image

ข่าวแนะนำ