"วิลลี่" ปกป้องลูกอย่างเต็มที่จึงไม่ขอเปิดหน้าลูกชายลงโซเชียล
"วิลลี่" เข้าใจในสิทธิเด็กอย่างดี จึงไม่ขอลงรูปลูกชาย หากโตเมื่อไหร่อยากให้ลูกชายตัดสินใจเอง
"วิลลี่ แมคอินทอช" นักแสดงมากฝีมือที่อยู่ในวงการบันเทิงมาอย่างยาวนาน ได้ออกมาพูดประเด็นเรื่องการเปิดเผยหน้าลูกหรือการโพสต์ภาพเด็กลงในโซเชียล ในงานบวงสรวงละคร ฟ้า-ทาน-ตะวัน
วิลลี่ได้ให้คำตอบกับนักข่าวไว้ว่าตนเองก็ไม่ได้เปิดเผยหน้าลูกชายมานานแล้ว เพราะตระหนักได้ว่าเรื่องสิทธิเป็นเรื่องสำคัญ ตนเองไม่รู้ว่าหากเด็กโตขึ้นมาจะรู้สึกอย่างไรในสิ่งที่พ่อแม่ได้ทำลงไป เพราะภาพทั้งหลายคงไม่สามารถลบออกจากโซเชียลไปได้หมด
ตอนนี้ทำได้แค่ต้องคอยระวังในสิ่งที่ตนเองทำ เพราะในโลกนี้ไม่ได้มีแต่คนดีเสมอไป ไม่รู้ว่าจะมีใครนำเอารูปภาพของลูกชายไปตัดต่ออะไรบ้าง หน้าที่ของพ่อแม่ต้องคอยระวังอย่างรัดกุม หากพลาดขึ้นไม่ไม่สามารถแก้ไขอะไรได้
ในตอนนี้ตนเองเห็นว่ายังไม่ต้องรีบลงภาพ หากเขาโตขึ้นเมื่อไหร่คงตัดสินใจในทางที่เลือกได้เอง หากลูกชายอยากเข้าเข้าวงการคุณพ่อก็ช่วยได้
ส่วนคอมเมนต์แย่ ๆ วิลลี่มองว่าคนเป็นพ่อแม่เองจะยอมเปิดประตูนั้นให้คนอื่นสามารถเข้ามาพิมพ์อะไรแย่ ๆ ได้ให้กับลูกตัวเองได้หรือเปล่า วิลลี่ยังบอกอีกว่ายุคสมัยนี้มันเปลี่ยนไปแล้ว อะไรที่ยอมรับได้หรือยอมรับไม่ได้มันเปลี่ยนไป
เราเป็นผู้ใหญ่ต้องเข้าไปอยู่ในโลกของเด็กด้วย ไปทำความเข้าใจเขาว่าในยุคสมัยนี้เด็กเอาความสำคัญไปไว้ตรงจุดไหน ไม่งั้นเขาคงไม่เปิดใจคุยกับเรา ปัจจุบันความสนใจนั้นคงอยู่ที่ยอดวิวและความโด่งดัง แต่นั่นคือดาบสองคม
และเมื่อนักข่าวถามว่าหากเจอพ่อวิลลี่กับลูกชายข้างนอกสามารถขอถ่ายรูปได้ไหม วิลลี่ตอบว่าหากเป็นเมื่อก่อนก็ถ่ายได้แต่ช่วงนี้ไปไม่ได้ออกไปไหนเลย ตัวเองแค่ออกไปทำงานแล้วก็กลับบ้าน ส่วนลูกชายก็ไปเรียนและกลับบ้านเช่นกัน
ส่วนคำถามที่ว่าลูกชายเป็นลูกของคนดังวิลลี่เองได้สร้างภูมิคุ้มกันให้ลูกชายอย่างไรบ้าง คุณพ่อจึงบอกว่าตนเองไม่ได้ห้ามคนในครอบครัวไม่ให้ลงรูปลูกชายขนาดนั้น ตนเองก็อาจจะบ้างที่โพสต์บางรูปลงโซเชียลแต่พยายามจะไม่ดันลูกชาย
และจะให้เขาห้ามภรรยาว่าไม่ให้ลงโพสต์ภาพลูกชายเลยก็ไม่ได้ เพราะภรรยาเขาใหญ่สุดในบ้าน วิลลี่ตอบแบบขำ ๆ นักข่าวจึงถามต่อว่าแล้วตอนนี้ลูกชายมีแววเดินในเส้นทางไหนบ้าง เจ้าตัวก็ตอบว่าตอนนี้คงจะเป็นด้านศิลปะแต่อนาคตก็ไม่แน่เพราะคนเรามีการเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอด
ส่วนเรื่องวางแผนส่งลูกชายไปเรียนต่างประเทศวิลลี่ให้คำตอบว่าหากภรรยาพร้อม ลูกชายพร้อมเขาก็สนับสนุนเต็มที่ แต่คงเป็นช่วงหลังลูกชายอายุ 16 ปีขึ้นไปค่อยว่ากันอีกที