จับตาการประชุมเฟดเดือนก.ค.จะมีผลกระทบต่อทองคำหรือไม่ วิเคราะห์โดย ฮั่วเซ่งเฮง

GOLD BULLISH

• การผ่อนคลายนโยบายการเงินของธนาคารกลางต่างๆ
• ความต้องการทองคำจากจีนในปีนี้คาดเพิ่มขึ้น
• ธนาคารกลางซื้อทองคำในทุนสำรองเพิ่มขึ้น

GOLD BEARISH

• ธนาคารกลางสหรัฐเริ่มส่งสัญญาณคุมเข้มนโยบายการเงิน
• เศรษฐกิจสหรัฐฟื้นตัวอย่างชัดเจน
• การกระจายวัคซีนโควิด-19

ธนาคารกลางสหรัฐเริ่มส่งสัญญาณคุมเข้มนโยบายการเงิน

การประชุมธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ครั้งล่าสุดในช่วงกลางเดือนมิ.ย. ผลการประชุมมีมติตรึงนโยบายการเงินผ่อนคลายต่อไป แต่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ส่งสัญญาณว่าจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในปี 2566 ซึ่งเร็วกว่าที่เฟดคาดการณ์ไว้ 1 ปี และประธานเฟดแถลงว่ากรรมการเฟดได้เริ่มหารือเกี่ยวกับการปรับลดวงเงินในมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) นอกจากนี้เฟดมีมุมมองต่อเศรษฐกิจสหรัฐในทางที่ดีขึ้น ทำให้ได้ปรับเพิ่มคาดการณ์การขยายตัวของเศรษฐกิจสหรัฐในปีนี้เป็น 7% สูงกว่าคาดการณ์เดิมที่ระดับ 6.5% ทำให้มีแรงเทขายทองคำอย่างหนัก ราคาทองคำปรับลดลงราว 100 ดอลลาร์หลังการประชุม แต่ในช่วงกลางเดือนก.ค.มีการแถลงนโยบายการเงินรอบครึ่งปีของประธานเฟดต่อ สภาคองเกรส ระบุว่าเฟดจะยังไม่เร่งปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยและยังคงซื้อพันธบัตรตามมาตรการ QE ทำให้ตลาดคลายความกังวลในเรื่องการเร่งปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของเฟด ทำให้ราคาทองคำปรับขึ้นได้เหนือ 1,800 ดอลลาร์ได้

ราคาทองคำหลังการประชุมเฟด

การประชุมเฟดเดือนก.ค.จะมีผลกระทบต่อทองคำหรือไม่

สัปดาห์นี้ประเด็นสำคัญที่ต้องติดตามคือการประชุมธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ในวันที่ 27-28 ก.ค. ผมว่านักลงทุนก็คงรู้สึกว่าการประชุมเฟดรอบนี้เฟดจะมีอะไรให้ตลาด Surprise เหมือนการประชุมเฟดรอบก่อนหรือเปล่า อาจทำให้ขออยู่นอกตลาดก่อนเพื่อรอดูความชัดเจนหลังการประชุมเฟดก่อนแล้วถึงกลับไปลงทุนในทองคำ ในมุมมองของผมเห็นว่าการประชุมเฟดรอบนี้ไม่น่าจะมีประเด็นสำคัญที่จะทำให้ราคาทองคำเหวี่ยงขึ้นหรือลงแรง สำหรับแนวโน้มการคุมเข้มนโยบายการเงินของเฟดทั้งเรื่องการขึ้นอัตราดอกเบี้ยและการลดวงเงินมาตรการ QE น่าจะเหมือนเดิมที่ตลาดรับรู้ไปแล้ว โดยเฟดคาดจะขึ้นอัตราดอกเบี้ยในปี 2566 และเจ้าหน้าที่เฟดกำลังหารือในการลดวงเงินมาตรการ QE ซึ่งคาดว่ายังไม่เกิดขึ้นในเร็วๆนี้ ดังนั้นถ้าราคาทองคำปรับลงก่อนการประชุมเฟดก็น่าจะฟื้นตัวกลับไปได้หลังการประชุม

สัปดาห์นี้แนวโน้มราคาทองคำคาดเคลื่อนไหวในกรอบ 1,770-1,835 ดอลลาร์ ประเด็นที่คาดจะกระทบต่อราคาทองคำในสัปดาห์นี้ ได้แก่ การประชุมธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จีดีพีไตรมาส 2 ของสหรัฐ และอัตราเงินเฟ้อพื้นฐานของสหรัฐเดือนมิ.ย. ผลการประชุมเฟดคาดการณ์ว่าจะมีมติผ่อนคลายนโยบายการเงินต่อไป ส่วนแนวโน้มการคุมเข้มนโยบายการเงินของเฟด ทั้งเรื่องการขึ้นอัตราดอกเบี้ยและการลดวงเงินมาตรการ QE น่าจะเหมือนเดิมที่ตลาดรับรู้ไปแล้ว จีดีพีไตรมาส 2 ของสหรัฐ ตลาดคาดจะขยายตัว 8.0% ดีขึ้นจากที่ไตรมาส 1 ขยายตัว 6.4% สะท้อนให้เห็นว่าเศรษฐกิจสหรัฐขยายตัวอย่างแข็งแกร่งและจะเป็นปัจจัยลบต่อราคาทองคำ ส่วนข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐอื่นๆ ได้แก่ ยอดขายบ้านใหม่เดือนมิ.ย. ยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนเดือนมิ.ย.ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนก.ค.ดัชนี PMI เขตชิคาโกเดือนก.ค. จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ โดยทองคำมีแนวรับที่ 1,790 ดอลลาร์ และ 1,770 ดอลลาร์ ขณะที่มีแนวต้านที่ 1,825 ดอลลาร์ และ 1,835 ดอลลาร์ ส่วนราคาทองแท่งในประเทศมีแนวรับ 27,900บาท และ 27,600 บาท ขณะที่มีแนวต้านที่ 28,350 บาท และ 28,500 บาท