เมื่อพรรคคอมมิวนิสต์จีนฉลองก้าวสู่ศตวรรษที่ 2 โดย ดร.ไพจิตร วิบูลย์ธนสาร

TNN ONLINE

TNN Exclusive

เมื่อพรรคคอมมิวนิสต์จีนฉลองก้าวสู่ศตวรรษที่ 2 โดย ดร.ไพจิตร วิบูลย์ธนสาร

เมื่อพรรคคอมมิวนิสต์จีนฉลองก้าวสู่ศตวรรษที่ 2 โดย ดร.ไพจิตร วิบูลย์ธนสาร

เมื่อพรรคคอมมิวนิสต์จีนฉลองก้าวสู่ศตวรรษที่ 2 โดย ดร.ไพจิตร วิบูลย์ธนสาร

ช่วงนี้ใครไปไหนมาไหนในจีน ก็จะเห็นสภาพบ้านเมืองที่ถูกประดับตกแต่งอย่างวิจิตรบรรจง พร้อมกิจกรรมพิเศษฉลองครบรอบ 100 ปีพรรคคอมมิวนิสต์จีนมากมายและกระจายไปทั่วประเทศ เราไปดูกันว่าพรรคคอมมิวนิสต์จีนทำอะไรกันบ้าง ...

ทุกหัวระแหงในจีนต่างถูกประดับตกแต่งด้วยสัญลักษณ์ค้อนเคียว และสัญลักษณ์พิเศษที่ออกแบบขึ้นพิเศษสำหรับโอกาสครบรอบ 100 ปีของพรรคฯ รวมทั้งกิจกรรมที่สุดพิเศษมากมายในช่วงสัปดาห์สุดท้ายของเดือนมิถุนายน และคาดว่าจะลากยาวไปจนถึงวันที่ 8 กรกฎาคม 2021

กรุงปักกิ่งถูกใช้เป็นศูนย์กลางของการจัดกิจกรรมพิเศษต่อเนื่องหลายวัน แม้ว่าเนื้องานในรายละเอียดจะถูกเก็บเป็นความลับ แต่สื่อของจีนก็เปิดเผยข้อมูลเป็นระยะว่า กิจกรรมมากมายจะจัดขึ้นบนแนวคิดหลักว่ายืนหยัดในความจริงต่อความมุ่งมั่นเดิม เก็บรักษาภารกิจไว้ในจิตใจอย่างมั่นคง

เมื่อพรรคคอมมิวนิสต์จีนฉลองก้าวสู่ศตวรรษที่ 2 โดย ดร.ไพจิตร วิบูลย์ธนสาร

สนามกีฬาแห่งกรุงปักกิ่ง หรือที่เรารู้จักกันในนามของสนามรังนก” (Bird's Nest) ก็ถูกใช้จัดการแสดงพลุชุดพิเศษระหว่างเวลา 20.00-22.00 . เมื่อวันที่ 29 มิถุนายน ที่ผ่านมา โดยพลุกรุยทางชุดแรกเป็นการแสดงสัญลักษณ์ “100” เพื่อตอกย้ำ 100 ปีของพรรคฯ ท่ามกลางเสียงโห่ร้องด้วยความดีใจและตื่นตะลึงของผู้คนหลายหมื่นคนที่ไปร่วมเป็นสักขีพยาน

งานใหญ่ที่สุดในปักกิ่งคงหนีไม่พ้น กิจกรรมสุดพิเศษบนถนนฉางอัน (Chang'an Avenue) ในวันที่ 1 กรกฎาคม ในชื่อชุดการแสดงว่าการเดินทางอันยิ่งใหญ่” (Great Journey) ที่ใช้จำนวนผู้แสดงถึง 14,000 คน ลำดับเรื่องราวนับแต่การก่อตั้งพรรคฯ สงครามการเมือง และการเดินทางไกล (Long March) ที่พรรคฯ ต้องต่อสู้กับพรรคชาตินิยมที่นำโดยเจียง ไคเช็ค ไปจนถึงการเคลื่อนขบวนกองทัพปลดแอกของพรรคฯ เมื่อครั้งเดินทางเข้าปักกิ่งเมื่อราว 70 ปีที่แล้ว ก่อนประกาศจัดตั้งสาธารณรัฐประชาชนจีน และการปฏิรูปเศรษฐกิจจนก้าวขึ้นเป็นอันดับ 2 ของโลกจนถึงปัจจุบัน

ในช่วงของการเตรียมงานใหญ่ดังกล่าว ถนนฉางอันและสถานที่ท่องเที่ยวหลักในพื้นที่จัดงาน อาทิ พระราชวังต้องห้าม (Forbidden City) จตุรัสเทียนอันเหมิน (Tiananmen Square) และพิพิธภัณฑ์แห่งชาติ ได้ถูกปิดในบางช่วงเวลามาระยะหนึ่ง และถูกปิดชั่วคราวไม่ให้ผู้ที่ไม่เกี่ยวข้องเข้าออกในระหว่าง 23 มิถุนายน-1 กรกฎาคม

เพียงการเตรียมการก็บ่งบอกได้ถึงความยิ่งใหญ่อลังการของงานในครั้งนี้กว่ากิจกรรมครั้งใดๆ ที่ผ่านมา รูปภาพใหม่ของเหมา เจ๋อตงถูกแขวนไว้เหนือประตูด้านหน้าของพระราชวังต้องห้าม อัฒจรรย์นั่งจำนวนหลายแถวถูกวางทอดยาว พร้อมเครื่องมือหนักจำนวนมากถูกติดตั้งในบริเวณดังกล่าว

ธงชาติจีนถูกแขวนตรึงไว้ตามเสาไฟฟ้า และตามสองฟากฝั่งของถนนถูกตกแต่งไปด้วยไม้ดอกไม้ประดับยาวเหยียดสุดลูกหูลูกตา นอกจากนี้ ด้านตอนเหนือของจตุรัสเทียนอันเหมิน ก็มีแปลงดอกไม้ 10 ประเภทที่ถูกใช้เพื่อถ่ายทอดเรื่องราวการพัฒนาของพรรคฯ ตลอด 100 ปีที่ผ่านมา และให้ผู้คนได้ไปชื่นชมความงดงามและเก็บภาพเป็นที่ระลึก

เมื่อพรรคคอมมิวนิสต์จีนฉลองก้าวสู่ศตวรรษที่ 2 โดย ดร.ไพจิตร วิบูลย์ธนสาร

นอกจากนี้ พรรคฯ ยังจะจัดการประชุมสุดยอดผู้นำพรรคคอมมิวนิสต์และผู้นำพรรคการเมืองทั่วโลกแบบไฮบริด ทั้งทางออฟไลน์และออนไลน์ ในระหว่างวันที่ 5-7 กรกฎาคม กรุงปักกิ่ง ซึ่งหัวหน้าพรรคการเมืองของไทย ทั้งเก่าและใหม่ต่างก็อัดคลิปแสดงความยินดีกับพรรคคอมมิวนิสต์จีน

ขณะเดียวกัน เมืองใหญ่ในหลายมณฑล/มหานครอื่นของจีน อาทิ เซี่ยงไฮ้ เทียนจิน อู่ฮั่น และฉงชิ่ง ต่างถูกเปลี่ยนเป็นป้ายโฆษณาที่เติมเต็มด้วยสาระ คำขวัญ ความสำเร็จของพรรคฯ และอื่นๆ และร่วมจัดกิจกรรมเช่นกัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งการจัดแสดงแสงสีเสียง การแสดงทางวัฒนธรรม และละครการปฏิวัติของจีน

ยิ่งในเมืองที่เคยเป็นฐานที่มั่นของกองทัพปลดแอก อาทิ ซีป่ายโพ (Xibaipo) มณฑลเหอเป่ยหรือเส้นทางผ่านของการเดินทางไกล และอื่นๆ ก็มีกิจกรรมเฉพาะอย่างต่อเนื่อง เช่น การท่องเที่ยวแดง (Red Tourism) เพื่อให้นักเรียนนักศึกษาและประชาชนผู้สนใจได้รำลึกและเรียนรู้ประวัติศาสตร์ของพรรคคอมมิวนิสต์ที่ผ่านร้อนผ่านหนาวมาถึงหนึ่งศตวรรษ

เมื่อพรรคคอมมิวนิสต์จีนฉลองก้าวสู่ศตวรรษที่ 2 โดย ดร.ไพจิตร วิบูลย์ธนสาร

จากสถิติของแพล็ตฟอร์มหลักด้านการท่องเที่ยว พบว่า การท่องเที่ยวแดงในช่วงครึ่งแรกของปี 2021 มีจำนวนเพิ่มขึ้นกว่า 2 เท่าตัว เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน ทั้งนี้ ในปีที่ผ่านมา จีนมีจำนวนนักท่องเที่ยวแดงมากกว่า 100 ล้านคน

นอกจากนี้ พรรคฯ ยังจัดกิจกรรมการสร้างทีมร่วมกันในหลายเมืองเพื่อสร้างพลังแห่งความสามัคคีของคนในชาติ บางแห่งทำรูปหล่อของประธานเหมา เจ๋อตง และสินค้าเชิงสัญลักษณ์ของพรรคฯ เพื่อแจกจ่ายแก่ประชาชนเป็นที่ระลึกการเข้าร่วมกิจกรรม

ฮ่องกง ดินแดนนอกแผ่นดินใหญ่ที่กลับคืนสู่มาตุภูมิราว 24 ปี ก็ไม่ยอมน้อยหน้า อาคารสถานที่ถูกประดับตกแต่งด้วยสัญลักษณ์ 100 ปีของพรรคฯ ที่มีตัวเลข 100 เป็นแนวคิดหลักด้วยสีทองบนผืนสีแดง และยังจัดการแสดงทางวัฒนธรรมขึ้นในวันที่ 29 มิถุนายน รวมทั้งเตรียมออกแสตมป์ชุดพิเศษในวันที่ 1 กรกฎาคม ซึ่งข่าวว่ากำลังเป็นที่ต้องการของนักสะสมเป็นอย่างมาก

จากข้อมูลของ CCTV ระบุว่า บริการขนส่งสาธารณะ รถบัส 100 คัน และรถมินิบัส 50 คัน และรถราง 8 คัน ก็ถูกห่อหุ้มด้วยสติ๊กเกอร์สัญลักษณ์ 100 ปีพรรคคอมมิวนิสต์ พร้อมข้อมูลประชาสัมพันธ์งานแสงสีเสียงที่อ่าววิกตอเรียระหว่างวันที่ 1-4 กรกฎาคม

นครเซี่ยงไฮ้ ซึ่งเป็นจุดกำเนิดของพรรคคอมมิวนิสต์เมื่อวันที่ 1 กรกฎาคม 1921 โดยในครั้งนั้น ผู้เกี่ยวข้องได้จัดประชุมครั้งแรกอย่างลับๆ ในห้องขนาดเพียงไม่กี่คูหา ปัจจุบัน สถานที่แห่งนี้ถูกปรับปรุงเป็นพิพิธภัณฑ์ในบริเวณซินเทียนตี้ ใจกลางเมืองเซี่ยงไฮ้ ที่จัดให้มีพิธีปฏิญาณตนตามหลักการของพรรคฯ

งานนิทรรศการบุปผาชาติจีน หรือไชน่าฟลาวเวอร์เอ๊กซ์โป” (China Flower Expo) ครั้งที่ 10 ที่จัดขึ้นบนพื้นที่ถึง 6,250 ไร่ เกาะฉงหมิง (Chongming) ตอนเหนือของเซี่ยงไฮ้ ระหว่างวันที่ 21 พฤษภาคม-2 กรกฎาคม เพื่อเป็นหนึ่งในกิจกรรมสำคัญที่ร่วมฉลองหนึ่งศตวรรษของพรรคฯ และกลายเป็นงานดอกไม้ที่ใหญ่และทรงอิทธิพลมากที่สุดในจีน

เมื่อพรรคคอมมิวนิสต์จีนฉลองก้าวสู่ศตวรรษที่ 2 โดย ดร.ไพจิตร วิบูลย์ธนสาร

สำหรับผมแล้ว ไฮไลต์ของกิจกรรมฉลอง 100 ปีพรรคฯ ที่เซี่ยงไฮ้ก็เห็นจะได้แก่ การจัดแสงสีเสียงที่สุดอลังการเท่าที่เคยมีมา ผู้อ่านหลายท่านอาจได้ชื่นชมในความยิ่งใหญ่ดังกล่าวผ่านคลิปแสงสีเสียงในบริเวณบนสองฟากฝั่งแม่น้ำหวงผู่

การแสดงแสงสีเสียงดังกล่าวเล่าเรื่องราวความสำเร็จในการปฏิรูปเศรษฐกิจนับแต่เปิดประเทศผ่านผนังอาคารที่มีสถาปัตยกรรมตะวันตกนับร้อยปีในบริเวณไว่ทัน และอาคารสูงระฟ้าในฝั่งผู่ตง เลเซอร์หลากสีจากยอดอาคารสูงถูกสาดใส่ท้องน้ำและอาคารในเวิ้งนั้นอย่างงดงามเกินบรรยาย

โดยร้อยเรียงความสำเร็จของพรรคฯ ในการรักษาเสถียรภาพความมั่นคง และพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศตลอดหลายสิบปีที่ผ่านมา ยืนยันถึงความสำคัญยิ่งของการดำรงอยู่ของพรรคฯ ต่อการมีจีนใหม่ อันนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงชนิดพลิกฟ้า พลิกแผ่นดินทำให้ชาวจีนมีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นอย่างแท้จริงและยั่งยืน


นับแต่เปิดประเทศสู่โลกภายนอกครั้งใหม่ พรรคฯ ไม่เคยย่อท้อต่อปัญหาอุปสรรค และไม่ลืมปณิธานที่เคยตั้งไว้ จีนสามารถสร้างประวัติศาสตร์ใหม่โดยเปลี่ยนจากยุคสมัยของการไม่พอมี ไม่พอกินสู่การพอมี พอกินที่แฝงไว้ซึ่งมีความยิ่งใหญ่และทั่วถึง

เศรษฐกิจจีนเติบโตอย่างที่ไม่เคยมีประเทศใดในโลกทำได้มาก่อน แม้กระทั่งในปี 2020 ที่ประสบวิกฤติโควิด-19 จีนก็เป็นเศรษฐกิจใหญ่เพียงแห่งเดียวในโลกที่เติบโตเป็นบวก ส่งผลให้ช่องว่างทางเศรษฐกิจระหว่างสหรัฐฯ และจีนลดเหลือเพียงราว 5 ล้านล้านเหรียญสหรัฐฯ ซึ่งน้อยที่สุดในประวัติศาสตร์โลกยุคใหม่

พรรคฯ ได้พิสูจน์ความสามารถเป็นที่ประจักษ์ว่าเป็นสุดยอดแมวที่ใช้จับหนูดั่งแนวทางที่เติ้ง เสี่ยวผิง เคยกล่าวไว้ว่าแมวสีอะไรไม่สำคัญ ขอเพียงให้จับหนูได้เป็นพอเมื่อราว 40 ปีก่อนหน้านั้น

เมื่อพรรคคอมมิวนิสต์จีนฉลองก้าวสู่ศตวรรษที่ 2 โดย ดร.ไพจิตร วิบูลย์ธนสาร

จีนทำทุกวิถีทางในการยกระดับขีดความสามารถด้านการผลิต โดยให้ความสำคัญกับด้านนวัตกรรมโดยอาศัยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีมากขึ้น

ที่เห็นได้ชัดก็คือ นโยบาย “Made in China 2025” ที่เริ่มขึ้นเมื่อปี 2015 จีนกำหนด 10 อุตสาหกรรมเป้าหมายแห่งโลกอนาคตเพื่อหวังใช้เป็นกลไกหลักในการพัฒนาประเทศในยุคหน้า อาทิ ไบโอเทค วัสดุใหม่ พลังงานทดแทน รถยนต์พลังงานรูปแบบใหม่ หุ่นยนต์ อินเตอร์เน็ตพลัส ปัญญาประดิษฐ์ พาณิชย์นาวี อวกาศ และอื่นๆ

จีนซื้อและพัฒนาเทคโนโลยีรถไฟแม่เหล็กไฟฟ้า (Maglev) จนสามารถเปิดตัวรถไฟแม่เหล็กไฟฟ้าของจีนเองที่ทำความเร็วถึง 620 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ขณะเดียวกัน จีนก็ใช้เวลาไม่นานในการพัฒนาขึ้นเป็นหนึ่งในผู้นำอุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้าและไร้คนขับในปัจจุบัน

ขณะที่ช่องทางจัดจำหน่ายสมัยใหม่ ตู้จำหน่ายสินค้าอัตโนมัติ และลอจิสติกส์ของจีนก็พัฒนาอย่างรวดเร็ว แตกไลน์ และขยับสู่ด้านออนไลน์ จนกระจายตัวในวงกว้างและสลับซับซ้อนยิ่งในปัจจุบัน รวมทั้ง

นอกจากนี้ เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา สี จิ้นผิง ก็ยังตอกย้ำความก้าวล้ำด้านเทคโนโลยีอวกาศ ด้วยการพูดคุยกับนักบินอวกาศจีนจำนวน 3 คนที่อยู่ระหว่างการปฏิบัติภารกิจบนสถานีอวกาศของจีน

จีนยังให้ความสำคัญกับการพัฒนาภาคบริการและการเกษตรในระดับที่สูงขึ้น ตลอดจนการสานต่อนโยบายพัฒนาพื้นที่ตอนกลางและตะวันตกของจีน เราจึงเห็นพื้นที่ตอนในของจีนเจริญขึ้นอย่างรวดเร็ว

ในด้านอุปสงค์ จีนยังปรับโครงสร้างโดยหันมาพึ่งพาภาคการบริโภคภายในประเทศ และเดินหน้าสู่กลยุทธ์เศรษฐกิจวงจรคู่ (Dual Circulation Economy) จีนจึงไม่เพียงแต่กำลังยกสถานะสู่การเป็นศูนย์กลางการผลิตที่ทันสมัยของโลกแต่ยังกำลังก้าวขึ้นเป็นตลาดของโลกอีกด้วย

เมื่อพรรคคอมมิวนิสต์จีนฉลองก้าวสู่ศตวรรษที่ 2 โดย ดร.ไพจิตร วิบูลย์ธนสาร


นอกจากนี้ พรรคฯ ยังให้ความสำคัญกับการยกระดับให้เงินหยวนเป็นเงินสกุลสากล หนึ่งในก้าวย่างสำคัญก็ได้แก่ การผลักดันให้เงินหยวนเป็นสกุลเงินในตะกร้าเงินของกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) ในปี 2016 และการเริ่มทดลองใช้เงินหยวนดิจิตัลในปี 2020 ซึ่งจีนเตรียมเปิดโอกาสให้ต่างชาติได้มีประสบการณ์ในการใช้เงินหยวนดิจิตัลในช่วงที่ปักกิ่งจะเป็นเจ้าภาพโอลิมปิกฤดูหนาวในเดือนกุมภาพันธ์ 2022

ในมิติด้านการเมืองการปกครอง เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา สำนักงานสารสนเทศคณะรัฐมนตรีจีน (State Council Information Office) ยังได้ตีพิมพ์และแจกจ่ายสมุดปกขาวเรื่อง "ระบบพรรคการเมืองของจีน: ความร่วมมือและการปรึกษาหารือ” (China's Political Party System: Cooperation and Consultation) ที่อธิบายถึงลักษณะพิเศษและจุดเด่นของระบบพรรคการเมืองของจีนที่เป็นลูกผสมระหว่างทฤษฎีการเมืองของมาร์กซิส และการประยุกต์ใช้ตามสภาพความเป็นจริงในจีน

โดยที่นับแต่ก่อตั้งสาธารณรัฐประชาชนจีนขึ้นมา พรรคคอมมิวนิสต์จีนก็เป็นเพียงพรรคการเมืองหลักเพียงพรรคเดียว สมุดปกขาวดังกล่าวจึงแสดงถึงความมั่นใจและความสามารถในการปกครองของพรรคฯ ตลอดเวลาที่ผ่านมา

แต่จีนมิได้ต้องการจะส่งออกระบบการเมืองในรูปแบบของจีนให้ประเทศอื่น เพราะจีนตระหนักดีว่า ความสำเร็จในการพัฒนาประเทศที่มาถึงจุดนี้ได้เกิดขึ้นจากการประยุกต์ใช้แนวคิดมาร์กซิสที่สอดรับกับสภาวะแวดล้อมของจีน ดังนั้น แต่ละประเทศจึงต้องการระบบการปกครองที่มีลักษณะเฉพาะของตนเอง

ในเส้นทางเดินทางไกลสู่อนาคตที่ดูราบรื่นสวยหรู ก็ใช่ว่าทุกสิ่งจะโรยด้วยกลีบกุหลาบไปเสียทั้งหมด จีนต้องเผชิญกับความท้าทายและแรงเสียดทานที่เพิ่มขึ้นในอนาคต

ยกตัวอย่างเช่น ขณะที่พรรคฯ ผลักดันนโยบายความริเริ่มหนึ่งแถบ หนึ่งเส้นทาง” (Belt and Road Initiative) หรือเส้นทางสายไหม และเส้นทางสายไหมทางทะเล” (One Belt, One Road) ในชื่อเดิมนับแต่ปี 2013 และถูกบรรจุเข้าไว้ในธรรมนูญของพรรคฯ ในปี 2017 ซึ่งนั่นหมายความว่า นโยบายนี้จะดำรงอยู่เป็นนโยบายหลักของพรรคฯ อีกนาน

เมื่อพรรคคอมมิวนิสต์จีนฉลองก้าวสู่ศตวรรษที่ 2 โดย ดร.ไพจิตร วิบูลย์ธนสาร

ซึ่งหากนโยบายนี้ดำรงอยู่จนถึงปี 2050 หรืออีกราว 30 ปีในอนาคต ก็มีความเป็นไปได้สูงที่จีนจะกลายเป็นเจ้าหนี้ที่ปล่อยสินเชื่อในโครงการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานรายใหญ่สุดของโลก แต่นั่นเป็นสิ่งที่บางประเทศอาจไม่อยากให้เกิดขึ้น

สหรัฐฯ เร่งปรับหมาก และนำเสนอโครงการ Build Back Better World (B3W) ต่อที่ประชุม G7 ในเดือนมิถุนายน ที่ผ่านมา โดยตั้งเป้าจะจัดสรรสินเชื่อถึง 40 ล้านล้านเหรียญสหรัฐฯ ภายในปี 2035

ในด้านเศรษฐสังคม พรรคฯ ได้บรรลุเป้าหมายในการขจัดปัญหาความยากจนให้หมดสิ้นจากแผ่นดินจีน โดยไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง และขยับสถานะเข้าสู่การเป็นสังคมที่เจริญในระดับกลางซึ่งนับเป็นหลักหมุดหมายสำคัญที่พรรคคอมมิวนิสต์จีนใช้ในการฉลองครบรอบ 100 ปีของพรรคฯ

พรรคฯ แสดงจุดยืนชัดเจนว่าจะไม่หยุดเพียงแค่นั้น จีนได้เริ่มก้าวย่างบนเส้นทางของแผนยุทธศาสตร์ใหม่ที่ยิ่งใหญ่กว่าเดิมในระยะยาว พรรคฯ ต้องการผลักดันให้จีนก้าวสู่ยุคของการกินดี อยู่สบายและจะเริ่มพัฒนาประเทศโดยให้ความสำคัญกับเรื่องสิ่งแวดล้อมและประโยชน์ทางสังคม

พรรคฯ ตั้งเป้าหมายว่า ในปี 2035 จีนจะมีขนาดเศรษฐกิจราว 30 ล้านล้านเหรียญสหรัฐฯ ก้าวขึ้นเป็นผู้นำด้านนวัตกรรมในด้านปัญญาประดิษฐ์ และอื่นๆ มีเมืองอัจฉริยะมากที่สุดในโลก และเป็นต้นแบบของระบอบสังคมนิยมยุคใหม่

เมื่อเทียบกับประวัติศาสตร์ชาติจีนที่ยาวนานกว่า 5,000 ปี การเดินทางไกลของพรรคฯ ที่เพิ่งผ่าน 100 ปีแรกยังถือว่าเป็นเพียงก้าวเล็กๆ แต่ก็เต็มไปด้วยความสำเร็จในการพลิกฟ้า พลิกแผ่นดินอย่างแท้จริง จีนได้ตอกย้ำสถานะของการเป็นผู้นำด้านวัฒนธรรม เศรษฐกิจ และการเมืองในภูมิภาคเอเชีย

วันนี้พรรคฯ ได้ก้าวเข้าสู่ศตวรรษที่ 2 พร้อมกับการเดินทางไกลอีกครั้ง เส้นทางที่ทอดยาวอยู่เบื้องหน้ามาพร้อมกับภาระหน้าที่สำคัญยิ่ง พรรคฯ มิได้เพียงต้องทุ่มเทเพื่อยกระดับให้จีนเดินหน้าไปสู่ยุคแห่งความเรืองรองอย่างมั่นคงเท่านั้น แต่ยังต้องแบกรับภาระหน้าที่ในฐานะผู้นำเศรษฐกิจโลกยุคใหม่ ที่จะนำพาโลกสู่หน้าใหม่ของการพัฒนา ความร่วมมือ ความเป็นอยู่ที่ดีถ้วนหน้า และสันติสุข ...

ข่าวแนะนำ

ข่าวที่เกี่ยวข้อง