TNN ทองคำหลังเฟดเริ่มส่งสัญญาณคุมเข้มนโยบายการเงิน วิเคราะห์โดย ฮั่วเซ่งเฮง

TNN

TNN Exclusive

ทองคำหลังเฟดเริ่มส่งสัญญาณคุมเข้มนโยบายการเงิน วิเคราะห์โดย ฮั่วเซ่งเฮง

ทองคำหลังเฟดเริ่มส่งสัญญาณคุมเข้มนโยบายการเงิน  วิเคราะห์โดย ฮั่วเซ่งเฮง

ทองคำหลังเฟดเริ่มส่งสัญญาณคุมเข้มนโยบายการเงิน วิเคราะห์โดยธนรัชต์ พสวงศ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มฮั่วเซ่งเฮง

GOLD BULLISH

  • การผ่อนคลายนโยบายการเงินของธนาคารกลางต่างๆ
  •  ความต้องการทองคำจากจีนในปีนี้คาดเพิ่มขึ้น


GOLD BEARISH

  •  ธนาคารกลางสหรัฐเริ่มส่งสัญญาณคุมเข้มนโยบายการเงิน
  • แนวโน้มเศรษฐกิจสหรัฐฟื้นตัว 
  • การกระจายวัคซีนโควิด-19


เฟดส่งสัญญาณว่าจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในปี 2566 เร็วกว่าเดิม 

สัปดาห์ก่อนการประชุมธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ถูกตลาดจับตามองถึงแนวโน้มนโยบายการเงินของเฟดในอนาคต ซึ่งผลการประชุม  เฟดมีมติตรึงนโยบายการเงินผ่อนคลายต่อไป ทั้งอัตราดอกเบี้ยต่ำและมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE)  แต่ประเด็นที่กระทบต่อตลาดการเงินทั่วโลกคือธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ส่งสัญญาณว่าจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในปี 2566 ซึ่งเร็วกว่าที่เฟดคาดการณ์ไว้ 1 ปี จากเดิมที่เฟดคาดยังไม่ขึ้นอัตราดอกเบี้ยจนถึงปี 2566 สิ่งที่ตามมาคือเงินดอลลาร์แข็งค่าขึ้นอย่างรวดเร็วมากที่สุดในรอบ 2 เดือน และแน่นอนคือกระทบทางลบต่อราคาทองคำ สำหรับประเด็นในเรื่องการปรับลดวงเงินในมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) ทางประธานเฟดแถลงว่ากรรมการเฟดจะเริ่มหารือเกี่ยวกับประเด็นนี้ในการประชุมครั้งหน้า 

ประมาณการเศรษฐกิจสหรัฐ


    2564 
2565
2566
การขยายตัวของจีดีพี %
    7.0  
  3.3    
 2.4
เดือนมี.ค.2564   
   6.5 
3.3 
 2.2
อัตราการว่างงาน %
    4.5  
  3.8    
  3.5
เดือนมี.ค.2564  
   4.5 
3.9
  3.5
อัตราเงินเฟ้อพื้นฐาน % 
     3.0    
2.1 
  2.1
เดือนมี.ค.2564   
  2.1 
 2.0 
 2.1
อัตราดอกเบี้ยเฟด %   
  0.1 
    0.1    
0.6
เดือนมี.ค.2564  
    0.1   
   0.1   
    0.1   
ที่มา : ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด)


ราคาทองต่อจากนี้ไปหลังการประชุมเฟด

ในช่วงที่ผ่านมาการผ่อนคลายนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ถือเป็นปัจจัยหลักที่หนุนต่อราคาทองคำ และตั้งแต่เดือนเม.ย.เงินดอลลาร์ที่อ่อนค่าลงอย่างต่อเนื่องจะช่วยหนุนต่อราคาทองคำ แต่เงินดอลลาร์จะกลับทิศทางเป็นแข็งค่าขึ้นต่อจากนี้ไป หลังจากที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะเริ่มทยอยลดการผ่อนคลายนโยบายการเงินและจะเริ่มคุมเข้มนโยบายการเงินต่อไปในอนาคต ไม่ว่าจะเป็นอัตราดอกเบี้ยขาขึ้นและการทยอยถอนมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE)  ทำให้ทิศทางราคาทองคำในระยะถัดไปคงดูไม่สดใสมากนัก นอกจากนี้ในสัปดาห์ก่อนแนวโน้มราคาทองคำทางด้านเทคนิคได้กลับมาเคลื่อนไหวในทิศทางขาลง หลังจากหลุด 1,840 ดอลลาร์ซึ่งเป็นเส้นค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ 200 วัน ยกเว้นราคาทองคำสามารถปรับขึ้นทะลุและยืนเหนือ 1,840 ดอลลาร์ให้ได้  จะเปลี่ยนทิศทางกลับมาเป็นขาขึ้นได้อีกครั้ง

สัปดาห์นี้แนวโน้มราคาทองคำคาดเริ่มฟื้นตัว แต่คาดอาจจะมีแรงเทขายออกมาเป็นระยะๆ ในช่วงที่ราคาทองคำฟื้นตัว โดยมองว่าทองคำมีแนวรับสำคัญที่ 1,750 ดอลลาร์  ประเด็นสำคัญที่ต้องติดตามในสัปดาห์นี้ ได้แก่ จีดีพีของสหรัฐไตรมาส 1 ดัชนีราคา PCE พื้นฐานของสหรัฐเดือนพ.ค. การประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงินธปท. ประเด็นเรื่องอัตราเงินเฟ้อยังได้รับความสนใจของตลาด ซึ่งดัชนีราคา PCE พื้นฐานของสหรัฐเดือนพ.ค. ตลาดคาดจะเพิ่มขึ้น 2.9% เมื่อเทียบรายปี หลังจากที่เดือนเม.ย.เพิ่มขึ้น 3.1% เมื่อเทียบรายปี ทั้งนี้อาจจะกระทบทางลบต่อราคาทองคำถ้าตัวเลขสูงกว่าตลาดคาด จีดีพีของสหรัฐไตรมาส 1 เป็นประมาณการครั้งสุดท้ายอาจจะไม่ได้แตกต่างจากประมาณการครั้งก่อน สำหรับข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐที่จะประกาศสัปดาห์นี้ ได้แก่ ยอดขายบ้านมือสองและยอดขายบ้านใหม่เดือนพ.ค. ดัชนี PMI ภาคการผลิตและดัชนี PMI ภาคบริการเดือนมิ.ย. จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ ยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนเดือนพ.ค. ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนมิ.ย. โดยทองคำมีแนวรับที่ 1,760 ดอลลาร์ และ 1,750 ดอลลาร์ ขณะที่มีแนวต้านที่ 1,800 ดอลลาร์ และ 1,825 ดอลลาร์  ส่วนราคาทองแท่งในประเทศมีแนวรับ 26,200 บาท และ  26,100 บาท ขณะที่มีแนวต้านที่ 26,750 บาท และ  27,000 บาท 




ข่าวแนะนำ