TNN เปิดยุทธศาสตร์งบ 69 'แพทองธาร' ทุ่ม 3.7 ล้านล้าน ลุยประชานิยม

TNN

TNN Exclusive

เปิดยุทธศาสตร์งบ 69 'แพทองธาร' ทุ่ม 3.7 ล้านล้าน ลุยประชานิยม

เปิดยุทธศาสตร์งบ 69 'แพทองธาร' ทุ่ม 3.7 ล้านล้าน ลุยประชานิยม

รัฐบาล "แพทองธาร" ประกาศงบประมาณปี 2569 วงเงิน 3.78 ล้านล้านบาท มุ่งฟื้นฟูเศรษฐกิจไทย พร้อมรับมือความท้าทาย โดยเน้นการลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน ยกระดับคุณภาพชีวิต และส่งเสริม Soft Power

[กางงบปี 2569 "แพทองธาร" ทุ่มงบ 3.78 ล้านล้าน เดินหน้าฟื้นเศรษฐกิจ]


งบประมาณปี 2569 นับเป็นก้าวสำคัญของรัฐบาลภายใต้การนำของ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีคนที่ 31 ที่แสดงให้เห็นความมุ่งมั่นในการฟื้นฟูเศรษฐกิจ ด้วยการตั้งกรอบวงเงินงบประมาณ 3.78 ล้านล้านบาท พร้อมรับการขาดดุล 8.6 แสนล้านบาท เพื่อขับเคลื่อนนโยบายสำคัญที่จะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจในหลายมิติ


การตั้งงบประมาณในครั้งนี้ รัฐบาลมีเป้าหมายชัดเจนในการผลักดันการเติบโตทางเศรษฐกิจให้ได้ไม่ต่ำกว่า 3% โดยมีปัจจัยบวกจากการท่องเที่ยวที่คาดว่าจะทะลุ 40 ล้านคนในปี 2568 ขณะที่ภาคการส่งออกเริ่มส่งสัญญาณฟื้นตัว นายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกฯ และ รมว.คลัง ย้ำถึงเป้าหมายสำคัญ 2 ประการคือ "การทำให้เศรษฐกิจเติบโต" และ "การสร้างโครงสร้างทางการเงินที่เข้มแข็ง"


ยุทธศาสตร์การใช้งบประมาณครั้งนี้ครอบคลุมการพัฒนาประเทศใน 6 ด้านสำคัญ โดยเฉพาะการยกระดับคุณภาพชีวิตประชาชนผ่านนโยบายต่างๆ เช่น การยกระดับระบบ "30 บาทรักษาทุกที่" การแก้ปัญหาค่าครองชีพผ่านนโยบายค่าโดยสารรถไฟฟ้า 20 บาทตลอดสาย และโครงการดิจิทัลวอลเล็ตที่จะช่วยกระจายความช่วยเหลือได้ตรงกลุ่มเป้าหมาย


ขณะเดียวกัน รัฐบาลก็ไม่ละเลยการสร้างความยั่งยืนทางการคลัง โดยมีแผนเพิ่มประสิทธิภาพการจัดเก็บรายได้ผ่านการนำเศรษฐกิจนอกระบบและเศรษฐกิจใต้ดินเข้าสู่ระบบภาษี พร้อมปฏิรูประบบภาษีไปสู่แบบ Negative Income Tax ที่จะช่วยลดความเหลื่อมล้ำและเพิ่มฐานภาษีในระยะยาว


อย่างไรก็ตาม การขาดดุลงบประมาณที่ 4.3% ของ GDP ซึ่งสูงกว่าระดับที่เหมาะสมที่ 3% ก็เป็นประเด็นที่หลายฝ่ายแสดงความห่วงใย รวมถึง น.ส.ศิริกัญญา ตันสกุล ส.ส.พรรคประชาชน ที่เรียกร้องให้รัฐบาลชี้แจงความจำเป็นในการขาดดุลสูง ขณะที่นายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ อดีตรองนายกฯ เตือนให้เตรียมพร้อมรับมือความเสี่ยงจากปัจจัยภายนอก ทั้งสงครามการค้าและนโยบายของสหรัฐฯ


แต่รัฐบาลยืนยันว่าการลงทุนครั้งนี้มีความจำเป็น เพราะนอกจากจะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจระยะสั้นแล้ว ยังรวมถึงการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานสำคัญอย่างโครงการ Landbridge ที่จะช่วยเสริมศักยภาพการแข่งขันของประเทศในระยะยาว พร้อมกับการวางรากฐานเศรษฐกิจใหม่ผ่านการส่งเสริมอุตสาหกรรม Soft Power และการท่องเที่ยวรูปแบบใหม่


ท้ายที่สุด แม้จะมีความท้าทายในการรักษาวินัยทางการคลัง แต่วิสัยทัศน์และความชัดเจนในการวางยุทธศาสตร์งบประมาณของรัฐบาลก็สะท้อนความพยายามในการสร้างสมดุลระหว่างการกระตุ้นเศรษฐกิจกับการรักษาเสถียรภาพทางการคลัง ซึ่งความสำเร็จจะขึ้นอยู่กับประสิทธิภาพในการบริหารจัดการและความสามารถในการรับมือกับความผันผวนของเศรษฐกิจโลกที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต


ภาพ Freepik / รัฐบาลไทย

ข่าวแนะนำ

ข่าวที่เกี่ยวข้อง