พรรคก้าวไกลยื่นคำแถลงปิดคดียุบพรรค ย้ำ 9 ข้อต่อสู้ และเจตนารมณ์สร้างสมดุลประชาธิปไตย

วันที่ 2 สิงหาคม 2567 ที่พรรคก้าวไกล นายชัยธวัช ตุลาธน หัวหน้าพรรค และนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ประธานที่ปรึกษาหัวหน้าพรรค ได้ร่วมแถลงข่าวชี้แจงเนื้อหาและสรุปข้อต่อสู้ในเอกสารคำแถลงปิดคดี ที่พรรคก้าวไกลส่งให้ศาลรัฐธรรมนูญ ก่อนที่ศาลฯ จะอ่านคำวินิจฉัยคดียุบพรรคก้าวไกลในวันที่ 7 สิงหาคมนี้ โดยมีประเด็นสำคัญดังนี้

เจตนารมณ์ของพรรคก้าวไกล

นายพิธา ได้แถลงถึงเจตนารมณ์ของพรรคก้าวไกลว่า พรรคมุ่งมั่นในการสร้างสมดุลระหว่างระบอบประชาธิปไตยและสถาบันพระมหากษัตริย์ โดยเน้นย้ำว่าการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขนั้น ควรมีลักษณะที่ยืดหยุ่นและสามารถปรับตัวให้เข้ากับสภาพแวดล้อมทางสังคมที่เปลี่ยนแปลงไปตามยุคสมัย

ประเด็นเรื่องมาตรา 112

พรรคก้าวไกลเสนอให้มีการปรับปรุงแก้ไขมาตรา 112 ด้วยเจตนาที่จะฟื้นฟูสายสัมพันธ์อันดีระหว่างประชาชนกับสถาบันพระมหากษัตริย์ในยุคสมัยที่เปลี่ยนแปลงไป โดยมุ่งสร้างสมดุลใหม่ระหว่างการคุ้มครองพระเกียรติยศของประมุข กับการคุ้มครองสิทธิเสรีภาพขั้นพื้นฐานของประชาชน

9 ข้อต่อสู้ทางกฎหมาย

นายชัยธวัช ได้แถลงข้อต่อสู้ทางกฎหมายทั้ง 9 ข้อของพรรคก้าวไกล โดยมีประเด็นสำคัญดังนี้

1. การพิจารณายุบพรรคไม่อยู่ในเขตอำนาจของศาลรัฐธรรมนูญ

2. การยื่นคำร้องคดีนี้ไม่ชอบด้วยกฎหมาย

3. คำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญที่ 3/2567 ไม่มีผลผูกพันในการพิจารณาวินิจฉัยคดีนี้

4. การกระทำอื่นๆ ตามคำร้อง มิได้เป็นการกระทำของพรรคก้าวไกล

5. การกระทำตามที่ กกต. กล่าวหา มิได้เป็นการล้มล้างการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข

6. ศาลรัฐธรรมนูญไม่ควรยุบพรรคก้าวไกล

7. ศาลไม่มีอำนาจกำหนดระยะเวลาการเพิกถอนสิทธิสมัครรับเลือกตั้งของกรรมการบริหารพรรค

8. การกำหนดระยะเวลาเพิกถอนสิทธิสมัครรับเลือกตั้งต้องพอสมควรแก่เหตุ

9. การเพิกถอนสิทธิสมัครรับเลือกตั้งต้องเพิกถอนเฉพาะของกรรมการบริหารพรรคที่เกี่ยวข้องกับการกระทำผิด

การยื่นคำแถลงปิดคดีของพรรคก้าวไกลครั้งนี้ แสดงให้เห็นถึงความพยายามในการปกป้องสิทธิของพรรคและสมาชิกพรรค โดยยืนยันเจตนารมณ์ในการสร้างสมดุลระหว่างระบอบประชาธิปไตยและสถาบันพระมหากษัตริย์ พร้อมทั้งนำเสนอข้อต่อสู้ทางกฎหมายที่ครอบคลุมหลายประเด็น 

ทั้งนี้ ผลการพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญในวันที่ 7 สิงหาคมนี้ จะเป็นจุดสำคัญที่จะกำหนดอนาคตของพรรคก้าวไกลและส่งผลกระทบต่อภูมิทัศน์ทางการเมืองไทยอย่างมีนัยสำคัญ