สรุปไทม์ไลน์ ฆาตกรรมชาวเวียดนาม 6 ศพ "โรงแรมเอราวัณ" ปมหนี้สินและยาพิษไซยาไนด์
สรุปเหตุวางยาฆาตกรรม ชาวเวียดนาม 6 ราย ด้วยไซยาไนด์ และคนร้ายไม่ใช่ใครอื่น เป็น 1 ใน 6 ผู้เสียชีวิต สาเหตุคาดว่า ก่อเหตุวางยาเพื่อหนีหนี้
เมื่อวานนี้ช่วงค่ำ เป็นข่าวใหญ่ เจ้าหน้าที่พบศพชาวเวียดนาม 6 ราย เสียชีวิตพร้อมกันในห้องพัก 502 ในโรงเเรมชื่อดังย่านราชประสงค์
นายกฯ รีบลงพื้นที่ทันที สั่งตรวจสอบด่วน เพราะกระทบภาพลักษณ์การท่องเที่ยว ก่อนที่ต่อมายืนยันว่า เรื่องนี้เป็นเหตุฆาตกรรมส่วนตัวในกลุ่ม ไม่เกี่ยวกับ การท่องเที่ยว หรือแก๊งค์อาชญากรรมในประเทศไทย
นำมาสู่การแถลงข่าวของตำรวจนครบาลวันนี้
ยืนยันชัดว่า ทั้งหมดตายจากการถูกยา ไซยาไนด์ เสียชีวิตทันทีในห้องพัก ไม่มีใครเข้าออก หรือจะเรียกว่าฆาตกรรมในห้องปิดตาย
ฆาตกร คือ 1 ใน 6 ผู้เสียชีวิต ตำรวจมุ่งเป้าไปที่ 2ใน 6 คน เนื่องจากมีญาติผู้ตายบางส่วน ให้เบาะแสแล้ว ปมความแค้น และ ฆาตกรที่แน่ชัด ยังขอไม่สรุปตรวจสอบต่อ แต่เบื้องต้นคาดอาจเกี่ยวกับหนี้ 10 ล้าน
📌 ไทม์ไลน์ เข้าพักที่โรงแรม
4 ก.ค. - หมายเลข 2 Ms. THI NGUYEN PHUONG LAN หญิงชาวเวียดนาม อายุ 47 ปี
*เข้าไทยคนแรก วันที่ 4 ก.ค. 2567 เคยเข้าออกไทย 17 ครั้งแล้ว เดินทางมาคนแรก
5 ก.ค. - หมายเลข 5 Ms. SHERINE CHONG เชื้อเวียดนาม สัญชาติอเมริกัน 56 ปี เธอเป็นคนพักอยู่ก่อนที่ห้อง 502
7 ก.ค. - หมายเลข 4 Mr. HUNG DANG VAN ชาย เชื้อชาติเวียดนาม สัญชาติอเมริกัน 55 ปี
12 ก.ค. - เข้ามาครบอีก 3 คน
หมายเลข 1 กับ 6 เป็น สามี ภรรยา กัน
หมายเลข 1 ชื่อ Ms. THI NGUYEN PHUONG หญิงอายุ 46 ปี
หมายเลข 6 ชื่อ Mr. HONG PHAM THANH 49 ปี สัญเวียดนาม สามีหมายเลข 1
แต่ตัวสามี ไม่ได้ลงทะเบียนเข้าพัก ในระบบโรงแรม จึงทำให้เห็นว่า เช็กอิน 5 คน แต่เสียชีวิต 6 คน
และหมายเลข 3 Mr. DINH TRAN PHU ชาย สัญชาติเวียดนาม อายุน้อยสุด 37 ปี เป็นช่างแต่งหน้าชื่อดัง ชายคนนี้เคยเข้าไทย 11 ครั้ง
แต่ใน booking.com พบมีการแจ้งว่า เข้าพักทั้งหมด 7 คน แล้วคนที่ 7 หายไปไหน ตอนแรกตกเป็นผู้ต้องสงสัย
ท้ายสุด ตำรวจสรุปว่า ไม่เกี่ยวข้องกับคดีนี้ เพราะคนที่ 7 ที่เข้าพัก เป็นน้องสาวของหมายเลข 2 เดินทางมาพร้อมกันในวันที่ 4 ก.ค. และเช็กเอาท์กลับดานังไปก่อน ตั้งแต่ 10 ก.ค. แล้ว
📌การฆาตกรรมห้อง 502 เกิดขึ้นได้อย่างไร?
ตำรวจระบุจุดสตาร์ทการฆาตกรรม เริ่มขึ้นภายในห้องปิด 502 หลังเวลา 13.57 นาที ณ วันที่ 15 ก.ค. โดยผู้พักนี้อยู่ก่อน คือ Miss เซลิน คนเดียว
ช่วงเที่ยง ทุกคนเช็กเอาท์ สั่งอาหาร และขอให้มาส่งช่วง 14.00 น ที่ห้อง 502 จากกล้องยืนยันชัดว่า พนักงาน 2 คน เข้าไปส่งอาหาร กาน้ำร้อน 2 กา และ ถ้วยชา 6 ใบ ในช่วงเวลา 13.51 - 13.57 น.
โดยพนักงานถามว่า ให้ชงชาให้เลยไหม Miss เซลินตอบว่า ไม่เป็นไร ใช้เวลาเพียง 6 นาทีและออกมา
ก่อนที่คนอื่น ๆ จะตามมาสมทบ ตั้งแต่ 14.03 - 14.17 น. และจากนั้น ก็ไม่มีใครกลับออกมาจากห้องอีกเลย จนกระทั่งแม่บ้านไปเรียก และ รปภ. ปีนจากหน้าต่างหลังห้อง เข้าไปพบศพทั้งหมดนั่นเอง
กองพิสูจน์หลักฐาน พบถ้วยชาและเลือดของผู้ตายมีสารไซยาไนด์ผสมอยู่
ตำรวจสัณนิฐานเบื้องต้นว่า 1 ใน 6 อาจเป็นผู้วางยา กำลังเก็บลายนิ้วมือเพื่อดูว่าใครเป็นคนผสมสาร ?
เป็นการฆาตกรรมในห้องปิดตาย ไร้คนเข้าออก
ไม่มีร่องรอยการต่อสู้ ทุรนทุราย
เพราะได้รับสารอันตรายที่ออกฤทธิ์เฉียบพลัน
เสียชีวิตมาไม่ต่ำกว่า 24 ชม.
ปมเหตุที่เจอแล้ว 1 คือ การหลอกให้ลงทุน
รายละเอียด ตำรวจยังไม่สรุป แต่แถลงว่าฟังคำให้การณ์จาก ญาติ
ของ 2 สามีภรรยาผู้เสียชีวิต เล่าว่า
เบอร์ 5 กับ เบอร์ 2 มูล โดย เบอร์ 2 เป็นนายหน้าชักชวนลงทุน
และฝ่ายสองสามีภรรยา หมายเลข 1 กับ 6 เคยลงทุนไป 10 ล้านบาทไทย
โดย 2 คนนี้ ค่อนข้างมีฐานะ เป็นนักธุรกิจรับเหมาสร้างถนน อยู่ที่เวียดนาม
มอบเงินให้หมายเลข 5 ไปนานแล้ว เพื่อไปสร้าง รพ.ในประเทศญี่ปุ่น
แต่เรื่องก็เงียบหาย และนัดมาเคลียร์กันที่ไทย ตอนแรกจะไปญี่ปุ่น แต่ติดเรื่องวีซ่า เลยมาที่นี่
ก่อนมาเกิดเหตุน่าสลดขึ้น
ตอนนี้ตำรวจยังต้องตรวจสอบ และ รวบรวมพยานหลักฐานต่างๆเพิ่มเติม
สำคัญคือ ผลตรวจ DNA ลายนิ้วมือแฝง เพื่อดูว่าใคร เป็นผู้ผสมสารไซยาไนด์
เพราะทุกการฆาตกรรม ล้วนมีมูลเหตุจูงใจ
กระเป๋า 8 ใบไม่พบสิ่งผิดกฎหมาย แต่พบเอกสารที่เกี่ยวทางคดีของ เบอร์ 5
ที่มีการฟ้องร้องปี 2012 เรื่องที่ดิน แต่ยังไม่พบส่วนเกี่ยวข้องทางคดีเรื่องนี้
ยันว่าเป็นเรื่องส่วนตัว ไม่เกี่ยวกับประเทศไทย
สรุปคดีฆาตกรรม 6 ศพ พบไซยาไนด์อยู่ในกาน้ำชา
และฆาตกร อาจไม่ใช่ใคร แต่เป็น 1 ใน 6 ผู้เสียชีวิตกลุ่มนี้แหละ
คาด สาเหตุอาจจากการ หลอกลงทุน 10 ล้าน เพื่อสร้าง รพ.ในญี่ปุ่น
ข่าวแนะนำ