TNN พลิกโฉมกัญชาไทย จากพืชเศรษฐกิจสู่ยาเสพติดอีกครั้ง

TNN

TNN Exclusive

พลิกโฉมกัญชาไทย จากพืชเศรษฐกิจสู่ยาเสพติดอีกครั้ง

พลิกโฉมกัญชาไทย จากพืชเศรษฐกิจสู่ยาเสพติดอีกครั้ง

กัญชาไทยพลิกโฉมอีกครั้ง! ช่อดอกกลับสู่ยาเสพติด กระทบธุรกิจ-สังคม ผู้ประกอบการต้องปรับตัวครั้งใหญ่ สร้างโอกาสกัญชาทางการแพทย์เติบโตอย่างยั่งยืน



วันที่ 5 กรกฎาคม 2567 ถือเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญของวงการกัญชาในประเทศไทย เมื่อคณะกรรมการควบคุมยาเสพติดมีมติเห็นชอบร่างประกาศกระทรวงสาธารณสุขให้ช่อดอกกัญชาและกัญชงที่มีสาร THC เกิน 0.2% กลับไปเป็นยาเสพติดให้โทษประเภท 5 อีกครั้ง การตัดสินใจครั้งนี้สร้างแรงสั่นสะเทือนไปทั่วทั้งภาคธุรกิจและสังคมไทย ซึ่งก่อนหน้านี้ต่างตื่นตัวกับโอกาสทางเศรษฐกิจของกัญชาที่ถูกปลดล็อกออกจากบัญชียาเสพติดเมื่อปี 2565


ร่างประกาศกระทรวงสาธารณสุขฉบับนี้มีสาระสำคัญ 2 ประการ คือ 1) เพิ่มกัญชา กัญชงในส่วนช่อดอกและสารสกัดที่มีค่า THC มากกว่าร้อยละ 0.2 ให้เป็นยาเสพติด 2) ยกเว้นส่วนอื่น ๆ ของกัญชา กัญชง เช่น กิ่ง ก้าน ราก ใบ และเมล็ด หากร่างประกาศนี้ผ่านความเห็นชอบจากคณะกรรมการ ป.ป.ส. และประกาศในราชกิจจานุเบกษา จะมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2568 เป็นต้นไป ซึ่งหมายความว่าการครอบครองและใช้ช่อดอกกัญชาหรือผลิตภัณฑ์ที่มี THC สูงจะกลายเป็นสิ่งผิดกฎหมายอีกครั้ง


การควบคุมกัญชาอย่างเข้มงวดตามร่างประกาศใหม่จะส่งผลกระทบอย่างมากต่อธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับกัญชา ผู้ประกอบการจำเป็นต้องปรับเปลี่ยนสินค้าและบริการให้สอดคล้องกับกฎระเบียบที่เปลี่ยนแปลงไป โดยอาจต้องหันไปเน้นผลิตภัณฑ์ที่ทำจากส่วนอื่นของกัญชานอกเหนือจากช่อดอก หรือผลิตภัณฑ์ที่มีสาร THC ต่ำกว่า 0.2% ในขณะเดียวกัน ธุรกิจกัญชาหลายแห่งที่ผุดขึ้นมาจำนวนมากในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา อาจจำเป็นต้องปิดตัวลงหากไม่สามารถปรับตัวได้ทัน


อย่างไรก็ตาม การควบคุมกัญชาอย่างเข้มงวดในครั้งนี้ อาจเป็นโอกาสให้อุตสาหกรรมกัญชาทางการแพทย์เติบโตอย่างเป็นระบบมากขึ้น โดยเน้นการพัฒนาผลิตภัณฑ์คุณภาพสูงที่มีการรับรองมาตรฐานและความปลอดภัย เพื่อใช้ในทางการแพทย์และการวิจัย ซึ่งจะช่วยสร้างความน่าเชื่อถือให้กับอุตสาหกรรมนี้ในระยะยาว


นอกจากนี้ การปรับเปลี่ยนครั้งนี้ยังก่อให้เกิดเสียงวิพากษ์วิจารณ์อย่างกว้างขวางในสังคม บางมุมมองเห็นว่าเป็นการจำกัดสิทธิเสรีภาพและทางเลือกในการใช้กัญชาเพื่อประโยชน์ทางสุขภาพ ขณะที่บางเสียงสนับสนุนการควบคุมที่เข้มงวดขึ้นเพื่อป้องกันปัญหาการใช้ในทางที่ผิด การสร้างความสมดุลระหว่างการควบคุมและการใช้ประโยชน์จากกัญชาอย่างเหมาะสมจึงเป็นโจทย์สำคัญที่สังคมไทยต้องร่วมกันหาคำตอบต่อไป


การพลิกโฉมของนโยบายกัญชาครั้งนี้ นับเป็นการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญที่จะกำหนดทิศทางของอุตสาหกรรมกัญชาไทยในอนาคต แม้จะมีความท้าทายรออยู่ข้างหน้า แต่หากผู้เกี่ยวข้องทุกฝ่ายสามารถปรับตัวและร่วมมือกันอย่างสร้างสรรค์ ก็น่าจะเป็นโอกาสในการยกระดับและพัฒนาอุตสาหกรรมกัญชาของไทย  ให้เติบโตอย่างยั่งยืนและเป็นที่ยอมรับในระดับสากลต่อไป



ภาพ TNN 

ข่าวแนะนำ