H2 Racing Truck รถบรรทุกพลังงานไฮโดรเจนคันแรกของโลกลงแข่งขันแรลลี่ดาการ์ 2022

รถบรรทุกพลังงานไฮโดรเจน H2 Racing Truck วิ่งได้ระยะทางประมาณ 250 กิโลเมตรต่อการเติมเชื้อเพลิงไฮโดรเจน 1 ครั้ง

เทคโนโลยีรถยนต์พลังงานไฮโดรเจนหนึ่งพลังงานทางเลือกเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมที่กำลังถูกพัฒนาอยู่ในหลายประเทศ ล่าสุดบริษัท Gaussin ผู้ผลิตรถยนต์รายใหญ่ในประเทศฝรั่งเศสพัฒนารถบรรทุก H2 Racing Truck รถบรรทุกพลังงานไฮโดรเจนคันแรกของโลกที่เข้าร่วมแข่งขันในรายการแรลลี่ดาการ์ 2022 เพื่อพิสูจน์ขุมพลังของเครื่องยนต์พลังงานไฮโดรเจนในการวิ่งผ่าทะเลทรายร่วมกับรถยนต์พลังงานรูปแบบอื่น ๆ

ทีมงานพัฒนารถบรรทุกพลังงานไฮโดรเจน H2 Racing Truck มีความมั่นใจในประสิทธิภาพของเทคโนโลยีและสมรรถนะของตัวรถบรรทุกพลังงานไฮโดรเจนที่บริษัทพัฒนาขึ้น การใช้พลังงานไฮโดรเจนสามารถแก้ไขปัญหาของรถยนต์พลังงานไฟฟ้าที่ต้องใช้เวลาการชาร์จพลังงานไฟฟ้านานในการแข่งขันแรลลี่ที่ต้องแข่งกับเวลาดังเช่นที่ทีม Acciona เคยประสบในการส่งรถบรรทุกพลังงานไฟฟ้าเข้าร่วมแข่งขันในรายการแรลลี่ดาการ์ 2017

รถบรรทุกพลังงานไฮโดรเจน H2 Racing Truck ระบบขับเคลื่อนใช้มอเตอร์ไฟฟ้าขนาด 300 กิโลวัตต์หรือประมาณ 402 แรงม้า จำนวน 2 ชุด รถสามารถวิ่งทำความเร็วสูงสุดได้ประมาณ 140 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ติดตั้งเซลล์เชื้อเพลิงไฮโดรเจนสามารถผลิตกระแสไฟฟ้า 380 กิโลวัตต์ จัดเก็บพลังงานไฟฟ้าในแบตเตอรี่ขนาด 82 กิโลวัตต์ชั่วโมง สามารถวิ่งได้ระยะทางประมาณ 250 กิโลเมตรต่อการเติมเชื้อเพลิงไฮโดรเจน 1 ครั้ง เพียงพอที่จะรองรับการแข่งขันรายการแรลลี่ดาการ์ 2022 ที่แบ่งระยะทางออกเป็นช่วง ๆ ผ่านเมืองต่าง ๆ ในประเทศซาอุดีอาระเบีย

การแข่งขันในรายการแรลลี่ดาการ์หรือปารีส-ดาการ์เกิดขึ้นครั้งแรกในช่วงปี 1978 และมีการจัดการแข่งขันเป็นประจำทุกปี โดยใช้เส้นทางจากประเทศฝรั่งเศสวิ่งตัดผ่านทวีปยุโรป ทุ่งหญ้าและทะเลทรายไปยังกรุงดาการ์ ประเทศเซเนกัลทวีปแอฟริกา ต่อมามีการเปลี่ยนแปลงเส้นทางไปยังประเทศอื่น ๆ ด้วยเหตุผลด้านความปลอดภัยของทีมนักแข่ง รถยนต์ที่ใช้แข่งขันส่วนใหญ่ใช้รถยนต์พลังงานน้ำมันเป็นหลักต่อมาองค์กรกีฬาอามอรี (Amaury Sport Organisation - ASO) ทีมงานผู้จัดเริ่มให้ความสำคัญกับรถยนต์พลังงานทางเลือกอื่น ๆ และมีแผนการเพิ่มสัดส่วนรถที่เข้าร่วมแข่งขันเป็นรถยนต์พลังงานทางเลือกมากขึ้นภายในปี 2030 ตามทิศทางการเปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยียานยนต์ของโลกที่มีการใช้งานรถยนต์พลังงานน้ำมันลดน้อยลง