Facebook เตรียมรีแบรนด์บริษัทเข้าสู่โลกเสมือนจริงเมทาเวิร์ส Metaverse

Facebook ผู้ให้บริการโซเชียลเน็ตเวิร์ครายใหญ่ของโลกกำลังมีแผนการรีแบรนด์บริษัทใหม่เพื่อให้ผู้ใช้งานสามารถเชื่อมต่อเข้าสู่โลกเสมือนจริงเมทาเวิร์ส Metaverse สร้างประสบการณ์ใช้งานรูปแบบใหม่ที่เป็นมากกว่าโซเชียลเน็ตเวิร์ครูปแบบเดิมผ่านอุปกรณ์แว่นตา VR 

โดยมีรายงานข่าวว่ามาร์ก ซักเคอร์เบิร์กผู้ก่อตั้ง Facebook เตรียมประชุมหารือเกี่ยวกับการรีแบรนด์และผลิตภัณฑ์ใหม่ของบริษัทกับทีมผู้บริหารในวันที่ 28 ตุลาคมนี้

ก่อนหน้านี้บริษัท Facebook เคยประกาศรับสมัครพนักงานใหม่เพิ่มกว่า 10,000 ตำแหน่งในกลุ่มประเทศยุโรปในช่วง 5 ปีนับจากนี้เพื่อพัฒนาโลกเสมือนจริงเมทาเวิร์ส Metaverse และเตรียมใช้งบประมาณกว่า 1,670 ล้านบาทเพื่อสร้างโครงการโลกเสมือนจริงเมทาเวิร์ส Metaverse ของบริษัทให้เป็นความจริงและอาจมีส่วนช่วยเสริมบริการเดิมของบน Instagram, WhatsApp, Oculus ให้มีผู้ใช้งานเพิ่มมากขึ้น

โลกเสมือนจริงเมทาเวิร์ส Metaverse กำลังกลายเป็นเทคโนโลยีที่กำลังได้รับความสนใจและบริษัทหลายแห่งจากทั่วโลก รวมไปถึงบริษัทเอกชนในประเทศไทยบางแห่งก็มีแผนการเปิดตัวโลกเสมือนจริงเมทาเวิร์ส Metaverse เทคโนโลยีโลกเสมือนจริงการจำลองสภาพแวดล้อมต่าง ๆ ให้เกิดขึ้นโดยคอมพิวเตอร์แสดงผลในรูปแบบ 3 มิติ

ผู้ใช้งานที่ต้องการเชื่อมต่อเข้าสู่โลกเสมือนจริงเมทาเวิร์จจะต้องสวมใส่อุปกรณ์แว่นตา VR หรือ Virtual Reality คล้ายคลึงกับที่แว่นตาที่มีให้เห็นในภาพยนต์วิทยาศาสตร์ไซไฟ เนื่องจากทุกอย่างถูกสร้างขึ้นด้วยคอมพิวเตอร์โลกเสมือนจริงเมทาเวิร์สจึงไร้ขีดจำกัดและผู้ใช้งานสามารถสร้างสรรค์สิ่งต่าง ๆ หลายรูปแบบ เช่น เล่นเกมส์ งานเลี้ยงพบปะสังสรรค์ ประชุมทำงานร่วมกัน สร้างงานศิลปะหรือการทำธุรกิจซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัล

ความพยายามของ Facebook ในการเดินหน้าเข้าสู่โลกเสมือนจริงเมทาเวิร์ส Metaverse ในครั้งนี้มีความสอดคล้องกับการแสการซื้อขายแลกเปลี่ยนสินทรัพย์ดิจิทัล NFTs หรือ Non Fungible Token ที่กำลังได้รับความนิยมไปทั่วโลกพร้อม ๆ กับการมาถึงของยุคที่มีการใช้งานเงินดิจิทัล Cryptocurrency  ซื้อขายแลกเปลี่ยนสินทรัพย์ดิจิทัล อย่างไรก็ตามแผนการรีแบรนด์บริษัทและรายละเอียดเพิ่มเติมยังไม่ถูกเปิดเผยอย่างเป็นทางการจากทาง Facebook รวมไปถึงโฆษกของบริษัทก็ปฏิเสธที่จะแสดงความเห็นในประเด็นดังกล่าว

 

ข้อมูลจาก  economictimes.indiatimes.com, theverge.com
ภาพจาก Mark Zuckerberg