Facebook ล่ม หุ้นร่วง เหตุการณ์นี้สะท้อนอะไรบ้าง?

ความวัวไม่ทันหาย ความควายเข้ามาแทรกจริง ๆ สำหรับ Facebook หลังเจอศึกหนักทางการเมือง คืนวานนี้ก็เจอมรสุม Facebook ล่ม หุ้นร่วง ทำให้ Mark Zuckerberg หล่นจากอันดับ Top 5 คนรวยที่สุดในโลก เสียความมั่งคั่งไปกว่า 6,000 ล้านดอลลาร์ โดยเหตุการณ์ทั้งหมดส่งผลกระทบยังไงบ้าง เราขอสรุปให้อ่านกันดังนี้

Facebook, Instagram, และ Whats App ล่มทั่วโลกนานเกือบ 7 ชั่วโมง 

จากเหตุการณ์โซเชียลมีเดียภายใต้การบริหารของ Mark Zuckerberg ได้แก่ Facebook, Instagram, และ Whats App  ระบบล่มทั่วโลกนานเกือบ 7 ชั่วโมง ซึ่งนานผิดปกติ ได้ส่งผลให้เกิดผลกระทบเป็นวงกว้างทั้งต่อตัวบริษัทเองและต่อผู้ใช้จำนวนมากทั่วโลก โดยตามรายงานของ Bloomberg ระบุว่า แค่ระบบล่มไม่กี่ชั่วโมงก็ทำให้ความมั่งคั่งของ Mark Zuckerberg ลดลงไปมากกว่า 6,000 ล้านดอลลาร์ และทำให้ชื่อของเขาหลุดจาก TOP 5 จากการจัดอันดับบุคคลที่ร่ำรวยที่สุดในโลกของ Forbes อย่างรวดเร็ว!

ขณะเดียวกัน ตามรายงานของ ลงทุนแมน หุ้นของ Facebook เองก็มีแรงเทขายอย่างต่อเนื่อง โดยหุ้นร่วงถึง 5.6% คิดเป็นมูลค่ากว่า 1.6 ล้านล้านบาท (1 ล้าน 6 แสนล้านบาท) ภายในเวลาเพียงไม่กี่ชั่วโมง ซึ่งถ้าในอนาคต เกิดเหตุการณ์ลักษณะเดียวกัน แต่กินเวลามากขึ้นเป็น 24 ชั่วโมง หรือ 1 วัน อาจจะทำให้บริษัทสูญเสียรายได้เฉลี่ยต่อวัน ถึง 4,800 กว่าล้านบาท ตาม ลงทุนแมน รายงานไว้ในปี 2019

หรือปัญหาการล่มไม่ได้เกิดจากระบบ ?

ทั้งนี้ มูลค่าความเสียหายดังกล่าว ไม่ได้มาจากการที่ระบบล่มเพียงไม่กี่ชั่วโมงเท่านั้นนะคะ แต่ยังมีสาเหตุมาจากการที่บริษัทต้องเจอแรงกดดันจากการพิจารณาคดีของรัฐสภา ที่มีอดีตผู้จัดการผลิตภัณฑ์ หรือ Product Manager ชื่อว่า Frances Haugen ผู้ที่นำเบาะแสและข้อมูลภายในบริษัท Facebook ไปให้กับทางสื่อดัง The Wall Street Journal

ซึ่งประเด็นนี้กลายเป็นข่าวดังไปเมื่อช่วงปลายเดือนกันยายนที่ผ่านมา โดย The Wall Street Journal ได้เผยแพร่เนื้อหาว่า Facebook ห่วงผลกำไรมากกว่า ความปลอดภัยของผู้ใช้งาน และขาดการจัดการที่ดีต่อปัญหาต่าง ๆ รวมถึงผลกระทบต่อสุขภาพจิต นอกจากนี้ ในช่วงเวลาใกล้ ๆ กันก็โดนประธานาธิบดีแห่งสหรัฐฯ โจ ไบเดน ออกมาติงว่า Facebook ควบคุมคอนเทนต์บนแพลตฟอร์มไม่ดีพอ ทำให้มีข่าวลวงเกี่ยวกับโควิด-19 ที่บิดเบือนออกสู่สาธารณะ 

ลำดับไทม์ไลน์การล่มของ Facebook 

สาเหตุระบบล่มครั้งนี้ สื่อเทคไทยอย่างแบไต๋รายงานว่า อาจจะเกิดขึ้นจาก Border Gateway Protocol (BGP) ทำงานผิดพลาด จนเครือข่ายหาทางเข้า DNS ที่แปลงชื่อโดเมนเป็น IP ไม่เจอ จึงเหมือนป้ายบอกทางเข้าอาณาจักร Facebook หายไปจากโลก

• เหตุการณ์ Facebook ล่มเกิดขึ้นเมื่อคืนวันที่ 4 ตุลาคมตามเวลาประเทศไทย
  
  
• ระบบได้ถูกฟรีซไปตั้งแต่ช่วงเวลาประมาณ 22.30 น. ซึ่งจากข้อมูลของ DownDetector มีผู้ใช้หลายพันคนทั่วโลก รายงานการหยุดทำงานบนทั้งสามแพลตฟอร์ม (Facebook, Instagram, WhatsApp)
  
  
• จากเหตุการณ์ดังกล่าว ทำให้มีแฮชแทก #เฟสล่ม และ #ไอจีล่ม ขึ้นเทรนด์บน Twitter จำนวนมาก 

อย่างไรก็ตาม ปัญหาแบบนี้ ไม่ได้เกิดขึ้นครั้งแรก เพราะก่อนหน้านี้เคยเกิดขึ้นมาแล้วในปี 2019 (14 ชั่วโมง) และปี 2008 (1 วัน) การที่ Facebook ระบบล่มอาจจะดูเป็นเรื่องที่น่าตื่นเต้นและมีผลกระทบต่อการลงทุนในหุ้น หรือทำให้ความมั่งคั่งของ Mark Zuckerberg ลดลง 

แต่มันจะกลายเป็นฝันร้ายของคนที่พึ่งพาแพลตฟอร์มนี้เพียงแพลตฟอร์มเดียวในการประกอบธุรกิจทันที... ถ้าวันหนึ่ง มีเหตุสุดวิสัย ทำให้เราไม่มีแพลตฟอร์มนี้ใช้โดยถาวร ซึ่งเราก็เชื่อมั่นและหวังว่าฝันร้ายคงไม่เกิดขึ้นอีก

สำหรับเหตุกาณ์นี้จะใช้สำนวนที่ว่า ความวัวไม่ทันหาย ความควายเข้ามาแทรก ก็ไม่ผิด เพราะช่วงเวลานี้เป็นเวลาที่ Facebook เจอศึกหนักรอบด้าน พร้อมแรงกดดันทางการเมืองอย่างต่อเนื่อง แต่จะว่าไปไม่ว่าจะเจอเรื่องอื้อฉาวแค่ไหน หุ้นของ Facebook ก็ยังเป็นหนึ่งในหุ้นที่หอมหวนน่าลงทุนว่าไหม ?