รวมทุกสิ่ง "ไอเทมออกใหม่" งาน Apple' California Streaming
งาน California Streaming ของ Apple เปิดตัวมาพร้อมกับ iPad, iPad Mini, Apple Watch Series 7, และ iPhone 13, Mini, Pro, Pro Max
คิดว่าใครหลาย ๆ คนน่าจะได้ยลไอเทมใหม่ ๆ ที่เปิดตัวในงาน California Streaming ของ Apple ที่จัดขึ้นเมื่อตอนเที่ยงคืนของวันที่ 14 กันยามาบ้างแล้ว บทความนี้เราจะขอรวมทุก "ไอเทมออกใหม่" ที่อยู่ในงานให้เพื่อน ๆ ได้อ่านกัน ใครพร้อมแล้ว อ่านต่อด้านล่างได้เลย
1. "iPad" เปิดตัวใหม่พร้อมชิป A13 Bionic
Apple เปิดตัวด้วย iPad รุ่นที่ 9 มาพร้อมกับชิปตัวใหม่ A13 Bionic เร็วกว่ารุ่นก่อน 20% มาพร้อมกับ iPadOS 15 ที่ประกาศเปิดตัวไปเมื่อต้นปี จัดเต็มด้วยกล้องหน้าความละเอียด 12MP ซัพพอร์ตฟีเจอร์ Center Stage ที่เปิดตัวพร้อมกับ iPad Pro เมื่อปีที่แล้ว
ความน่าสนใจอื่น ๆ ของ iPad รุ่น 9 นี้ก็คือ
- ปุ่มโฮม
- ขอบจอ
- กล้องหลังเลนส์เดียว
- พอร์ต Lightning
- จอขนาด 10.2 นิ้ว มีขนาดและความละเอียดเท่าเดิม แต่ซัพพอร์ตฟีเจอร์ True Tone ปรับอุณหภูมิสีของหน้าจอเป็นแสงตามสภาพแวดล้อมอัตโนมัติ
- ปรับปรุงหน้าจอโฮม การจัดระเบียบของแอป และเพิ่มฟีเจอร์ Multitasking เข้ามาใหม่
- ความจุ 64GB
- ซัพพอร์ต Apple Pencil รุ่นแรก และ Apple Smart Keyboard
- มีให้เลือก 1 สี คือสีเงิน หรือสีเทาสเปซเกรย์
- ราคา 329 ดอลลาร์ หรือประมาณ 10,900 บาท
- สั่งซื้อได้แล้ววันนี้ !!
2. "iPad Mini" อัพเกรดสู่ 5G และจอใหญ่ขึ้น 8.3 นิ้ว
iPad Mini เรียกได้ว่าเป็นหนึ่งในไฮไลท์ของคืนนี้เลยก็ว่าได้ เปิดตัวด้วยกรอบจอแบบใหม่ ที่มีขอบจอที่แคบกว่าบางกว่าและมีมุมที่โค้งมนกว่า ที่เจ๋งที่สุดคือมันมีขนาดจอที่ใหญ่ขึ้นเป็น 8.3 นิ้ว ใหญ่เพิ่มขึ้นจาก 7.9 นิ้วของรุ่นก่อน ช่วยให้ใช้งานได้หลากหลายและง่ายขึ้น เหมาะสำหรับการทำงานหรือสำหรับการศึกษาก็ดี กล้องหน้าหลังความละเอียด 12MP มาพร้อมกับแฟลช True Tone และการบันทึกวีดีโอได้ในความละเอียด 4K ซัพพอร์ต Center Stage นอกจากนี้ยังมี CPU ที่เร็วขึ้น 40% และ GPU ที่เร็วขึ้นอีก 80%
ความน่าสนใจอื่น ๆ ของ iPad Mini นี้ก็คือ
- หน้าจอสว่างได้สูงสุด 500 nits
- จอภาพ Liquid Retina แบบปกติ
- พอร์ต USB-C
- ใช้ Touch ID
- ระบบลำโพงใหม่ มาพร้อมกับโหมดสเตอริโอในตอนที่ใช้ในแบบแนวนอน
- ซัพพอร์ต Wi-Fi 6 และ 5G
- ซัพพอร์ต Apple Pencil เจ็นสอง สามารถติดเข้ากับแม่เหล็กที่ด้านข้างของตัวเครื่องได้
- สร้างขึ้นโดยใช้อะลูมิเนียมรีไซเคิล 100%
- ราคา 499 ดอลลาร์ หรือประมาณ 16,500 บาท
- วางจำหน่ายสัปดาห์หน้า
3. "Apple Watch Series 7" เปลี่ยนโฉมใหม่ ไฉไลกว่าเดิม
Apple Watch Series 7 เปิดตัวมาพร้อมขอบจอที่แคบและบางลง เหลือเพียง 1.7 มม. เห็นข้อความได้มากกว่ารุ่นก่อน 50% ทนน้ำทนฝุ่นระดับ IP6X ฝุ่นทรายไม่ได้กินแน่นอน ซัพพอร์ตอุบัติเหตุระหว่างการออกกำลังกาย มาพร้อมกับฟีเจอร์การติดต่อฉุกเฉิน
ความน่าสนใจอื่น ๆ ของ Apple Watch Series 7 นี้ก็คือ
- ใช้ Watch OS 8
- โหมด always-on screen จอสว่างขึ้น 70%
- คีย์บอร์ดซัพพอร์ตการปัด
- เพิ่มหน้าปัดแบบใหม่ ที่เหมาะกับจอที่กว้างขึ้น
- รุ่นเล็กมีขนาด 41 มม. รุ่นใหญ่ 45 มม.
- ชาร์จแบตเตอรี่เร็วขึ้น 33% ชาร์จ 8 นาที จะใช้งานได้นานถึง 8 ชั่วโมง
- มีทั้งหมด 5 สี ได้แก่ สีดำ สีทอง สีฟ้า สีแดง และสีเขียวเข้ม
- ราคา 399 ดอลลาร์ หรือประมาณ 13,200 บาท
- กำหนดวางจำหน่ายปลายฤดูใบไม้ร่วงนี้
- watchOS 8 อัปเดต 20 กันยายน
4. "iPhone 13, Mini, Pro, Pro Max" เพิ่ม อัปเกรดสิ่งเดิม ๆ ให้ดียิ่งขึ้น
เรียกได้ว่าเป็นตัวหลักในงานนี้เลยก็ได้ สำหรับการเปิดตัว iPhone 13 ตามที่เคยได้มีประกาศในเบื้องต้น iPhone 13 เปิดมาพร้อมาจอ OLED สว่างกว่ารุ่นก่อน รอยบาก Face ID เล็กลง 20% จากรุ่นก่อน ใช้ชิป A15 Bionic เร็วกว่าและประหยัดพลังงานมากกว่าชิป A14 Bionic ของปีที่แล้ว CPU 6-core เร็วกว่าคู่แข่ง 50% กราฟฟิกเร็วกว่าคู่แข่ง 30%
สิ่งที่เจ๋งที่สุดใน iPhone 13 คือกล้องที่มาพร้อมกับเทคโนโลยี trickled-down camera ของ iPhone 12 Pro Max ปีที่แล้ว รุ่นปกติเป็นกล้องที่สมบูรณ์ในปี 2020 มีกล้องเซ็นเซอร์ที่ใหญ่กว่า กล้องไวด์ที่ใหญ่กว่าปีที่แล้ว 47% สามารถจับแสงได้มากขึ้นในสภาพแวดล้อมที่มืดกว่า โดยมี noise ลดน้อยลง กล้องเซ็นเซอร์มุมกว้างมีความละเอียด 12MP รูรับแสง f / 1.6 ในขณะที่กล้อง ultrawide มีความละเอียด 12MP รูรับแสง f / 2.4 ซัพพอร์ต field of view กว้าง 120 องศา
iPhone 13 Pro และ Pro Max มาพร้อมจอแสดงผล Super Retina XDR รองรับรีเฟรชเรท 120Hz สูงที่สุด ProMotion สว่างถึง 1,000 nits ซัพพอร์ตกล้อง 3 เลนส์ กล้องเทเลโฟโต้สามารถซูมได้สูงสุด 3 เท่า ซูมออปติคอลได้ 6 เท่า มาพร้อม night mode และ macro mode ที่สามารถถ่ายภาพได้ในระยะใกล้ 2 ซม.
ความน่าสนใจอื่น ๆ ของ iPhone 13, Mini, Pro, Pro Max นี้ก็คือ
- ขนาดจอ
- รุ่นปกติขนาด 6.1 นิ้ว
- Mini ขนาด 5.4
- Pro ขนาด 6.1 นิ้ว
- Pro Max ขนาด 6.7 นิ้ว
- แบตเตอรี่
- รุ่นปกติเพิ่มขึ้น 2.5 ชั่วโมง
- Mini 1.5 ชั่วโมง
- Pro เพิ่มขึ้น 1.5 ชั่วโมง
- Pro Max 2.5 ชั่วโมง
- พื้นที่จุ
- รุ่นปกติและ Mini มีพื้นที่จุ 128GB, 256GB และ 512GB
- Pro และ Pro Max มีพื้นที่จุ 128GB, 256GB, 512GB, และ 1TB (ครั้งแรกและมากที่สุดเท่าที่เคยมีมา)
- มีทั้งหมด 4 สี กราไฟท์, ทอง, เงิน และสีฟ้าอ่อน
- กล้อง
- ฟีเจอร์ photographic profiles ปรับแต่งภาพให้ดูดีขึ้น
- ฟีเจอร์ cinematic mode แสดงการโฟกัส หรือการเปลี่ยนโฟกัสแบบอัตโนมัติได้แบบเรียลไทม์ สามารถขยับโฟกัสอย่างชาญฉลาดเมื่อมีคนเข้าไปในเฟรมหรือละสายตาจากกล้อง สามารถเปลี่ยนโฟกัสด้วยตนเองหรือล็อกโฟกัสบนวัตถุเฉพาะได้
- iPhone 13 Pro จะสามารถถ่ายวิดีโอได้ความละเอียดสูงสุด 4K / 30fps ใน ProRes ซึ่งจะซัพพอร์ตใน iOS 15
- ราคา
- รุ่นปกติ 829 ดอลลาร์
- Mini 729 ดอลลาร์
- Pro 999 ดอลลาร์
- Pro Max 1,099 ดอลลาร์
- วางจำหน่าย
- รุ่นปกติ, Mini, Pro, และ Pro Max วางจำหน่าย 24 กันยายนนี้
- รุ่นปกติ, Mini, Pro, และ Pro Max วางจำหน่าย 24 กันยายนนี้
- iOS 15 อัปเกรด 20 กันยายน
อัปเดตในงานอื่น ๆ ที่น่าสนใจ
- Apple Fitness Plus ซัพพอร์ตการออกกำลังกายแบบกลุ่ม Group Workouts (สูงสุด 32 คน) เปิดตัวใน 15 ประเทศใหม่ รวมถึงบราซิล ฝรั่งเศส เม็กซิโก และรัสเซีย ซัพพอร์ตการบรรยาย 6 ภาษา เพิ่มการออกกำลังกายแบบใหม่ การทำสมาธิแบบมีไกด์ พิลาทิส และการเตรียมตัวสำหรับกีฬาในฤดูหนาว เช่น สกีและสโนว์บอร์ด สามารถมอเห็นค่าสเตตัสการออกกำลังกายของตัวเราและเพื่อนได้ สามารถเชื่อมต่อกับผู้คนต่าง ๆ อย่าง iMessage หรือ FaceTime บนหน้าจอได้
ข่าวแนะนำ
-
จีนเร่งพัฒนาจรวดขนส่งไปดวงจันทร์
- 20/6/67