ทำไม "Pop Cat" ถึงดังเป็นพลุแตกในไทย !!

หนึ่งในปรากฎการณ์ของสัปดาห์ก่อนที่ดังมาก ๆ นั่นก็คือการแข่งขันระดับชาติของคนในประเทศ กับการนั่งกด Pop Cat ให้เป็นอันดับ 1 ของโลก !! (และสามารถทำได้จริงในเวลาอันสั้น) บทความนี้เราจะมาดูกันว่า อะไรคือ Pop Cat ใครคือผู้สร้าง และทำไมมันถึงได้รับความนิยมในประเทศไทย ขนาดนี้

Pop Cat คืออะไร ? ใครเป็นคนสร้าง ? 

Pop Cat คือเกมบนเว็บไซต์ ที่ใช้มีมหน้าแมว "โอ๊ตมีล (Oatmeal)" เป็นธีมหลัก มาจากคลิปบน Twitter ของ @XavierBFB ที่โพสต์เมื่อเดือนตุลาคมปี 2020 เป็นคลิปภาพ Oatmeal กำลังจ้องมองแมลงแบบตั้งใจจะจับให้ได้ ด้วยความหน้ารักของตัวคลิป จึงมีคนทำการตัดภาพ Oatmeal ที่อ้าปากปิดปากอย่างเร็ว ๆ สลับไปมา ขนเกิดภาพมีมที่ชื่อว่า Pop Cat ขึ้นในที่สุด ถือเป็นคลิปไวรัลและภาพมีมที่ใครหลาย ๆ คนน่าจะเคยคุ้นหน้าคุ้นตาเป็นอย่างดี 

ส่วนสำหรับเกม Pop Cat ที่ถูกพูดถึงรัว ๆ นั้น จะเป็นเกมแนว Clicker ที่จะให้เรากดไปที่หน้า Oatmeal แบบรัว ๆ เพื่อให้มันได้อ้าปากปิดปากไปมา แต่จุดเด่นก็คือ ไอ้จำนวนที่เราคลิกลงบนภาพ Oatmeal จะถูกนำไปเก็บสถิติแบบระดับประเทศ เพื่อนำมาจัดอันดับว่าประเทศไหนกดเจ้า Pop Cat นี้มากที่สุด 

ตามข้อมูลนั้น มันถูกแชร์ผ่านทาง Twitter ที่โพสต์ไว้เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ ถูกสร้างขึ้นโดยนักพัฒนา 3 คน Joshua Rainbow, Edward Halls, และ Freddy Heppell โดยโปรเจ็คนี้เปิดตัวเมื่อช่วงเดือนธันวาคม 2020 และกลายเป็นไวรัลในช่วงเดือนเมษายน 2021 ก่อนจะกลายเป็นกระแสสุดฮอทในไทยในวันที่ 15 สิงหาคมที่ผ่านมา

• Freddy Heppell เป็น Full-stack developer และเป็นศิษย์เก่าด้านวิศวกรรมคอมพิวเตอร์ University of Sheffield ในอังกฤษ เคยฝึกงานด้านวิศวกรรมซอฟต์แวร์ที่ Capital One และ AWS Lambda ด้วย
  
  
• Joshua Rainbow ปัจจุบันเป็นวิศวกรซอฟต์แวร์ให้กับบริษัท Drone Defense ซึ่งเป็นบริษัทด้านการรักษาความปลอดภัยด้วยโดรนในอังกฤษ
  
  
• Edward Hails ศิษย์เก่าของ University of Sheffield ปัจจุบันทำงานเป็น Full-stack developer พาร์ทไทม์ให้กับ unPhone โครงการของมหาวิทยาลัย Sheffield ซึ่งพยายามนำ IOT (Internet of Thing) ผสานกับการทำเกษตรแบบอควาโปนิกส์ (Aquaponics)
  
  
• Pop Cat สำหรับพวกเขาทั้ง 3 คน เป็นเหมือนพอร์ตโชว์ผลงานการเรียกข้อมูลของพวกเขา โดยในช่วงพีค ตัวเว็บไซต์รองรับการเรียกข้อมูลมากถึง 3,500 ครั้ง/ วินาที และคนเข้าชมได้มากถึง 1.4 ล้านคน

คนไทย Pop Cat  อันดับ 1 ของโลก 

จากข้อมูล ใน Pop Cat มีประเทศเข้าร่วมทั้งหมด 218 ประเทศ ในช่วงก่อนที่คนไทยจะเริ่มเล่น ไต้หวันถือเป็นอันดับ 1 ของโลกที่มีการกด Pop Cat มากที่สุด โดยตามข้อมูลระบุว่าไต้หวันเริ่มเล่นมาก่อนประเทศเราประมาณ 1 เดือน ส่วนประเทศไทยใช้เวลาเพียง 1 วันในการทำลายสถิติดังกล่าวจนกลายเป็นอันดัย 1 ของโลก

อย่างไรก็ตามตอนนี้ตัวเลขก็ยังมีขึ้น ๆ ลง ๆ อยู่ แต่ผมเชื่อว่ากระแสในการเล่น Pop Cat ในประเทศของเรานั้นได้จบลงไปแล้ว... 

ทำไมคนไทยถึงจริงจังกับ Pop Cat นัก ? 

ถ้าเราวิเคราะห์จากตัว Pop Cat เราจะเห็นได้ถึงอะไรหลาย ๆ อย่างที่ทำให้คนไทยจริงจังกับ Pop Cat 

1. Pop Cat ใช้มีมที่เห็นบ่อยมาทำ สร้างความสนใจให้คนเห็นได้ทันที และมีมดังกล่าวยังเป็นมีมน่ารัก ทำให้เวลาเล่นเราจึงไม่รู้สึกรำคาญตัวภาพ และสามารถเล่นได้เรื่อย ๆ 

2. Pop Cat เป็นเกมที่ใครก็เล่นได้ ด้วยรูปแบบการเล่นแค่ "คลิก" เท่านั้น

3. แม้จะดูไม่เหมือน แต่ Pop Cat เป็นเกมรูปแบบ Co-op ที่เกิดขึ้นผ่านการรวมสถิติ ตัวเราหรือผู้เล่นคนอื่น ๆ จะถือเป็นทีมเดียวกัน ตามสังกัดประเทศที่อยู่ นั่นหมายความว่า ถ้าเพื่อนเราเล่น คนรู้จักเราเล่น เราก็อยากจะเล่นตาม อยากจะมีส่วนร่วมด้วย ซึ่ง Pop Cat เปิดโอกาสให้มีส่วนร่วมได้ง่าย ไม่ยุ่งยาก

4. ประเทศ เป็นเรื่องใหญ่ของคนไทย พอใช้ชื่อประเทศ นั่นหมายถึงคนที่อยู่ในประเทศนั้น ๆ ทุกคน การที่เห็นประเทศของตัวเองอยู่ลำดับต่ำ แม้จะในแง่ของเกมเอง ก็อาจทำให้รู้สึกไม่พอใจได้

5. สื่อหลาย ๆ สำนัก ทั้งสื่อหลัก สื่อโซเชียล รวมไปถึงคนดังต่าง ๆ มีการแนะนำ และเชียร์ ก่อให้เกิดแรงแข่งขันของคนในประเทศอย่างเป็นวงกว้างพร้อม ๆ กัน เรียกได้ว่านอกจากพลังโซเชียลที่แชร์ ๆ กันแล้ว ครั้งนี้สื่อถือเป็นตัวผลักให้เราอยากเล่นจนชนะประเทศอื่น ๆ มากขึ้น

6. วิกฤตโควิด-19 ทำให้คนในประเทศมีเวลาในการทำสิ่งต่าง ๆ มากขึ้น นั่นจึงเป็นอีก 1 เหตุผลว่า ทำไมประเทศไทยมีการสร้างสถิติได้อย่างรวดเร็ว เรียกได้ว่าเป็นหนึ่งอีเวนท์ที่เอาไว้เล่นว่าง ๆ ในช่วงล็อคดาวน์ ที่คนในประเทศเลือกที่จะอยู่บ้านมากกว่าออกไปเดินข้างนอก

7. การต้องการให้เป็นที่สนใจ แม้นี่จะดูเป็นเรื่องเล่นขำ ๆ แต่พอเป็นอะไรที่เกี่ยวกับประเทศ ทุกสื่อของต่างประเทศเองก็ดี ของไทยเราเองก็ดี ก็ล้วนแล้วแต่ให้ความสนใจ นั่นหมายความว่า ยิ่งประเทศเราได้อันดับสูง ๆ ประเทศอื่นๆ ก็จะสนใจเรามากขึ้น ซึ่งส่งผลต่อการมองไปลึก ๆ ว่าประเทศเราในปัจจุบันนั้นเป็นอย่างไร