ระบบขับเคลื่อนอัตโนมัติของ Tesla ช่วยชีวิตหนุ่มนอร์เวย์ "เมาสลบ" ได้สำเร็จ
หนุ่มนอร์เวย์เมาสลบ ในขณะที่เขากำลังขับรถ Tesla อยู่ โชคดีระบบ Autopilot ของเขาสามารถทำงานได้ทันท่วงที
เรื่องนี้เกิดขึ้นที่นอร์เวย์ ในวันที่ 30 กรกฎาคมที่ผ่านมา เมื่อเจ้าของรถ Tesla Model S วัย 24 ปี เมาสลบขณะที่ขับรถอยู่บนท้องถนน ระบบ Autopilot (ขับเคลื่อนอัตโนมัติ) ของ Tesla สามารถทำงานได้ทันท่วงที และพาตัวรถให้ขับอยู่ในเลนต่อไปได้ โดยไม่รบกวนการจราจรใด ๆ
โดยเมื่อระบบ Autopilot ตรวจพบว่าคนขับไม่มีการตอบสนอง ตัวรถจะค่อย ๆ ทำการจอดเข้าข้างทางอย่างปลอดภัย หนุ่มชาวนอร์เวย์คนนี้ถูกช่วยเหลือโดยเจ้าหน้าที่กู้ภัยในเวลาต่อมา โชคดีที่เขาใช้รถ Tesla ไม่งั้นอาจเกิดอุบัติเหตุร้ายแรงขึ้นแล้ว ท้ายที่สุดหนุ่มดังกล่าวก็โดนโทษแบนใบขับขี่ แม้เขาจะอ้างว่าตัวเองนอนหลับและไม่ได้ขับขี่อยู่ก็ตาม แต่ก็มีคนจับภาพเขาได้ ว่าเขากำลังขับรถอยู่ แต่ศีรษะของเขาห้อยลงมานานกว่าหนึ่งนาที (แสดงว่าสลบหรือหลับไปแล้ว)
Tesla owner in Norway suffers unconsciousness while driving, Tesla autopilot detects it, slows, comes to a stop so EMS can help @elonmusk @Tesla ❤️🩹🚑
pic.twitter.com/kl1CEeiHDi
— Austin Tesla Club (@AustinTeslaClub) July 31, 2021
ang="en">
ระบบ Tesla Autopilot ไม่ได้ออกแบบมาสำหรับ "คนเมาแล้วขับ"
มีหลายกรณีที่คนขับเมาแล้วพยายามใช้ประโยชน์จากระบบช่วยเหลือคนขับเพื่อหลีกเลี่ยงข้อกล่าวหาเมาแล้วขับ ซึ่งพวกเขามักจะอ้างว่าระบบกำลังขับแทนพวกเขาอยู่ แน่นอนว่าทาง Tesla ออกมายืนยันว่าสิ่งนี้ไม่ถูกต้อง เนื่องจากระบบ Autopilot ของ Tesla ไม่ใช่ระบบขับเคลื่อนด้วยตนเอง แต่เป็น "ระบบช่วยเหลือผู้ขับขี่" หมายความว่าผู้ขับขี่ต้องรับผิดชอบต่อรถเสมอและต้องตื่นอยู่ตลอดเวลาเพื่อควบคุมรถเมื่อจำเป็น สิ่งนี้จะเตือนให้ผู้ขับขี่ทราบเมื่อพวกเขาเปิดใช้งานระบบ Autopilot
โดยตอนที่ผู้ขับขี่หลับ ระบบจะพยายามส่งการแจ้งเตือนให้ผู้ขับขี่เสมอ เพื่อเตือนให้เขาจับพวงมาลัย หากไม่มีการตอบสนองจากผู้ขับขี่เกิดขึ้น Autopilot จะเข้าควบคุมรถเอง และจะค่อย ๆ หยุดรถให้ในเวลาต่อมา
แหล่งที่มา interestingengineering.com
ข่าวแนะนำ
-
จีนเร่งพัฒนาจรวดขนส่งไปดวงจันทร์
- 20/6/67