นักวิจัยค้นพบ "สมองอายุ 310 ล้านปี" เก่าแก่และสมบูรณ์ที่สุด

นักวิจัยค้นพบหนึ่งในฟอสซิลสมองที่เก่าแก่และสมบูรณ์มากที่สุดของแมงดาทะเล Euproops danae ที่มีอายุมานานกว่า 310 ล้านปี ในรูปของฟอสซิลประเภท Burgess Shale (ฟอสซิลที่พบในพื้นที่ที่อุดมไปด้วยซากดึกดำบรรพ์หรือฟอสซิล ซึ่งถูกฝังอยู่ในโคลน จนกลายเป็นแร่เหล็กคาร์บอเนตที่เรียกว่า Siderite) 

ฟอสซิลแมงดาทะเล Euproops danae มีลักษณะเป็นหินแร่ Siderite (แร่ที่ประกอบด้วยธาตุเหล็กคาร์บอเนต เป็นแร่เหล็กที่เป็นเหล็ก 48% ไม่มีกำมะถัน ฟอสฟอรัส สังกะสีแมกนีเซียม และแมงกานีส) ซึ่งภายในตัวหินแร่ นักวิจัยยังพบแร่ธาตุตัวที่สองอย่าง Kaolinite (ดินขาว) อีกด้วย ซึ่งจากการวิเคราะห์ดูแล้ว ในส่วนที่เป็น Kaolinite นี้นั้นคือส่วนสมองของแมงดาทะเล ซึ่งทางนักวิจัยชี้ว่า Kaolinite ก่อตัวขึ้นในภายหลัง หลังจากที่ตัวสมองสลายหายไปนานแล้ว 

การวิวัฒนาการของสมองในรอบหลายร้อยล้านปี

เมื่อนักวิจัยนำสมองจากฟอสซิลแมงดาทะเล ไปเทียบกับสมองในสัตว์ในเครือญาติเดียวกันพบว่า "โครงสร้างพื้นฐานของตัวสมองได้มีการเปลี่ยนแปลงไปเพียงเล็กน้อยเท่านั้น" อย่างไรก็ตามการค้นพบดังกล่าวแสดงให้เห็นถึงความหลากหลายทางสัณฐานวิทยาและระบบนิเวศน์ที่เกิดขึ้นในกลุ่มตลอด 310 ล้านปี ช่วยให้นักวิทยาศาสตร์เข้าใจชีววิทยาของสัตว์โบราณได้ดีขึ้น ตลอดจนกระบวนการวิวัฒนาการในระยะเวลาอันยาวนาน

การกลายเป็นฟอสซิลของ "สมอง"

ความน่าทึ่งอีกอย่างของการพบฟอสซิล Euproops danae นั้นคือเรื่องของกระบวนการการกลายเป็นฟอสซิลของสมอง ซึ่งโดยปกติแล้วสิ่งที่จะกลายเป็นฟอสซิลได้นั้นมักจะเป็นกระดูก สิ่งที่เป็นพวกเนื้อเยื่ออ่อนต่าง ๆ จะไม่สามารถกลายมาเป็นฟอสซิลได้ อย่างมากที่สุดก็กลายเป็นอำพันเท่านั้น 

แต่อำพันที่เก่าแก่ที่สุดก็มีอายุเพียงแค่ 230 ล้านปีก่อน ซึ่งอยู่ในยุค Triassic เท่านั้น แต่ฟอสซิลประเภท Burgess Shale จะมีอายุมากกว่า ยาวนานถึง 520 ล้านปีก่อน ในยุค Cambrian ตอนต้น สามารถทำให้เนื้อเยื่ออ่อนเป็นฟอสซิลได้เหมือนกับอำพัน แต่จะอยู่ในรูปของฟิล์มคาร์บอน ที่ส่วนใหญ่นักวิจัยมักจะพบเพียงร่องรอยของลำไส้ของสัตว์โบราญ หรือร่องรอยส่วนต่าง ๆ ของระบบประสาทเท่านั้น ดังนั้นฟอสซิลแบบ Euproops danae จึงเป็นรูปแบบแรกที่ถูกค้นพบ และทำให้รู้ว่าเนื้อเยื่ออ่อน สามารถกลายเป็นฟอสซิลด้วยวิธีอื่นได้ด้วย

แหล่งที่มา theconversation.com