Apple Vs Facebook สงคราม Ad tracking ยังคงเดือด!
มีประเด็นเดือดกันมานาน แต่ฟีเจอร์ใหม่ที่กำลังจะเปิดตัวใน iPhone และ iPad จะยิ่งสุมไฟให้สองบริษัทใหญ่เพิ่มขึ้นอีกกว่าเดิมอีกหรือไม่?
ดูท่าว่าความขัดแย้งระหว่าง Apple และ Facebook จะยังคงดำเนินต่อไปเรื่อย ๆ โดยเฉพาะเมื่อ Apple กำลังเตรียมเปิดตัวฟีเจอร์ใหม่เร็ว ๆ นี้ ซึ่งจะทำให้ผู้ใช้งาน iPhone และ iPad สามารถปฏิเสธการติดเก็บข้อมูลจากแอปพลิเคชันได้ ซึ่งจะส่งผลกระทบอย่างมากต่อ Facebook ที่อาจจะไม่สามารถทำกำไรได้จากการโฆษณาได้เหมือนเดิม
ปกติแล้ว Facebook และบริษัทที่ทำโฆษณาทางโทรศัพท์ต่าง ๆ มักจะใช้สิ่งที่เรียกว่า IDFA (identifier for advertisers) เพื่อกำหนดกลุ่มเป้าหมายโฆษณาและประเมินผลลัพธ์ที่ได้ แต่เมื่อ Apple ได้ปล่อยอัปเดต iOS 14.5 ออกมาในสัปดาห์นี้ ก็จะมีฟีเจอร์ที่ชื่อว่า “App Tracking Transparency” ติดตั้งมาด้วยเป็นค่าเริ่มต้น ซึ่งฟีเจอร์นี้จะทำให้บรรดานักพัฒนาแอปต้องขออนุญาตจากผู้ใช้งานอย่างชัดเจนเพื่อใช้ IDFA นี้นั่นเอง ซึ่งจากผลสำรวจและจากข้อมูลของทาง Facebook คาดว่าผู้ใช้กว่า 80% จะต้องตอบปฏิเสธอย่างแน่นอน
BBC ได้รายงานถึงเหตุผลที่ Apple ออกมาทำแบบนี้ก็เป็นเพราะว่า Apple ไม่ได้สนใจที่จะเก็บข้อมูลลูกค้าอยู่แล้ว เพราะลำพังเพียงแค่ยอดขายอุปกรณ์และการซื้อในแอปก็ได้ยอดมากกว่าการโฆษณาเสียอีก และที่สำคัญ Apple ยังทำการตลาดโดยเล่นเรื่องของ “ความเป็นส่วนตัว” มาโดยตลอด แม้กระทั่งระบบเบราว์เซอร์อย่าง Safari เอง ก็ยังเพิ่มความเป็นส่วนตัวให้ผู้ใช้โดยการบล็อกคุกกี้เป็นค่าเริ่มต้นแล้ว และเมื่อปีที่แล้ว Apple ยังบังคับให้ผู้ให้บริการแอพใน iOS ชี้แจงในหน้า App Store ว่าพวกเขารวบรวมข้อมูลอะไรของผู้ใช้งานบ้าง
แน่นอนว่าการทำเช่นนี้กระทบแน่ ๆ กับบรรดาบริษัทที่อาศัยการติดตามและเก็บข้อมูลผู้ใช้เพื่อทำการโฆษณา โดย Facebook เตือนว่าผู้ที่จะได้รับผลกระทบมากที่สุดก็คือบรรดาผู้ประกอบการธุรกิจขนาดเล็ก และโต้แย้งว่าการแชร์ข้อมูลกับบรรดาผู้ให้บริการโฆษณานั้นเป็นกุญแจสำคัญในการมอบ "ประสบการณ์ที่ดีขึ้น" ให้กับผู้ใช้งาน นอกจากนี้ยังบอกด้วยว่า Apple กำลัง “หน้าไหว้หลังหลอก” เพราะการทำแบบนี้จะบังคับให้ธุรกิจต่าง ๆ หันไปใช้การสมัครสมาชิกและการชำระเงินในแอปอื่น ๆ เพื่อหารายได้ ซึ่ง Apple ก็จะได้ส่วนแบ่งอยู่ดี
ซึ่ง Facebook ยังได้ทำการประชาสัมพันธ์ตอบโต้อีกด้วย โดย มีการออกโฆษณาในหนังสือพิมพ์ระดับชาติที่มีธุรกิจขนาดเล็กเข้ามาร่วมพูดถึงการที่ธุรกิจของพวกเขารอดมาได้ก็เพราะมาจากการโฆษณาที่ตรงกลุ่มเป้าหมายนั่นเอง อย่างไรก็ตาม ล่าสุดดูเหมือนว่า Facebook จะยอมรับการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้น และสัญญาว่าจะสร้าง "ประสบการณ์ใหม่สำหรับผู้ลงโฆษณา และมีข้อกำหนดที่วัดผลได้" และยังยอมรับว่าวิธีที่ผู้ลงโฆษณาดิจิทัลรวบรวมและใช้ข้อมูลในปัจจุบัน จำเป็นที่จะต้องได้รับการ "พัฒนา" ไปสู่วิธีการอื่นที่พึ่งพา “ข้อมูล” ให้น้อยลง
พวกเราเองในฐานะผู้บริโภคก็อาจจะนับว่าเป็นเรื่องดีที่บริษัทใหญ่ ๆ หันมาสนใจสิทธิและความเป็นส่วนตัวของผู้ใช้งานกันมากขึ้น และความขัดแย้งที่เกิดขึ้นนี้ก็เรียกได้ว่าทำให้เกิดการตื่นตัวของบรรดาบริษัทโฆษณาและธุรกิจต่าง ๆ ท่ีอาจจะต้องหาวิธีใหม่ ๆ ในการทำการโฆษณาให้หลากหลาย อย่างไรก็ตามก็คงต้องติดตามกันต่อว่าความสัมพันธ์ระหว่าง Facebook และ Apple จะเป็นอย่างไรต่อไป
ขอบคุณข้อมูลจาก
ข่าวแนะนำ
-
จีนเร่งพัฒนาจรวดขนส่งไปดวงจันทร์
- 20/6/67