สวีเดนพัฒนาแผงโซลาร์เซลล์ยืดหยุ่น ผลิตพลังงานไฟฟ้าจากแสงทุกชนิด
ชมเทคโนโลยีด้านพลังงานจากประเทศสวีเดน เป็นผลงานแผงโซลาร์เซลล์แบบยืดหยุ่น ที่มีคุณสมบัติไวต่อแสง สามารถเก็บเกี่ยวแสงรอบ ๆ ตัวมาผลิตพลังงานไฟฟ้าได้ และด้วยความที่ยืดหยุ่นได้ จึงเอาไปติดตั้งได้กับหลายอุปกรณ์
บริษัทด้านเทคโนโลยีด้านพลังงานจากสวีเดน เผยการพัฒนาแผงดูดซับพลังงานจากแสง ที่สามารถนำไปติดตั้งกับอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ต่าง ๆ ได้ โดยหนึ่งในตัวอย่างคือ “หมวกกันน็อกอัจฉริยะ” ขับเคลื่อนด้วยพลังงานแสงอาทิตย์ ที่ออกแบบมาด้วยแรงบันดาลใจ เพื่อช่วยให้คนที่ต้องขับขี่มอเตอร์ไซค์บนท้องถนนเป็นเวลานาน ๆ มีตัวช่วยชาร์จไฟฟ้าด้วยแหล่งพลังงานสะอาดมากขึ้น
ผลงานที่นำมาจัดแสดงนี้ เป็นของบริษัท เอ็กซ์ซีเจอร์ (Exeger) จากกรุงสตอกโฮล์ม ประเทศสวีเดน โดยเป็นโซลูชันด้านพลังงานที่มีชื่อว่า พาวเวอร์ฟอยด์ (Powerfoyle) มีลักษณะเป็นเซลล์แสงอาทิตย์แบบสีย้อม ที่ไวต่อแสง (Dye-Sensitized Solar Cells - DSSCs) โดยเมื่อแสงกระทบกับสีย้อม ก็จะปลดปล่อยอิเล็กตรอน เข้าสู่ไทเทเนียมไดออกไซด์ ทำให้เกิดกระแสไฟฟ้า
บริษัทเคลมว่าพาวเวอร์ฟอยด์ (Powerfoyle) สามารถเก็บเกี่ยวพลังงานไฟฟ้าได้จากแหล่งกำเนิดแสงแทบทุกชนิด ตั้งแต่แสงแดด ไปจนถึงแสงเทียน ทั้งแหล่งกำเนิดแสงจากกลางแจ้ง หรือแสงจากในร่ม และได้ทั้งแสงจากธรรมชาติ หรือแสงประดิษฐ์ เพื่อแปลงเป็นพลังงานไฟฟ้าให้กับอุปกรณ์ต่าง ๆ
โดยแผงพลังงานโซลาร์เซลล์นี้ สามารถนำไปติดตั้งเข้ากับอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ได้เกือบทุกชนิด เนื่องจากเป็นวัสดุที่มีความยืดหยุ่นและทนทาน ตัวอย่างการใช้งาน เช่น นำไปติดตั้งกับหมวกกันน็อกอัจฉริยะ เพื่อช่วยชาร์จพลังงานไฟฟ้าได้อย่างต่อเนื่อง ทำให้หมวกสามารถทำงานบนฟังก์ชันต่าง ๆ โดยไม่ต้องเสียเวลาเสียบชาร์จพลังงานบ่อย ๆ
ซึ่งในงานแสดงเทคโนโลยี CES 2025 นอกจากการจัดแสดงตัวอย่างการใช้งานกับหมวกกันน็อกแล้ว บริษัทยังได้โชว์การใช้งานกับระบบแผงวางสินค้าแบบดิจิทัล ที่สามารถใช้พลังงานที่ได้จากงพาวเวอร์ฟอยด์ มาจ่ายไฟฟ้าให้กับจอแสดงผลขนาดเล็กได้มากถึง 25 จอ ทำให้ระบบชั้นวางดิจิทัล ที่ออกแบบมาเพื่อร้านค้าปลีก เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมมากขึ้น
ส่วนอีกตัวอย่างใกล้ตัวก็คือการนำแผงพาวเวอร์ฟอยด์ (Powerfoyle) ไปติดตั้งเข้ากับหูฟัง ซึ่งปกติแล้วอาจจะต้องชาร์จพลังงานเข้าไปเฉลี่ยสัปดาห์ละครั้ง แต่ด้วยนวัตกรรมนี้ก็ทำให้ผู้ใช้งานสามารถใช้หูฟังได้อย่างต่อเนื่องมากขึ้น เนื่องจากสามารถชาร์จพลังงานระหว่างการใช้งานไปด้วยได้นั่นเอง
เรียกได้ว่านวัตกรรมที่บริษัทออกแบบมานี้ สามารถช่วยให้บรรดาผู้ผลิตอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์อื่น ๆ มีตัวช่วยที่จะเปลี่ยนจากอุปกรณ์ที่ต้องพึ่งพาแหล่งพลังงานแบบเดิม ๆ มาเป็นการใช้พลังงานสะอาด ที่ช่วยลดการใช้พลังงานจากแบตเตอรี่ และช่วยเรื่องสิ่งแวดล้อมได้อีกด้วย
สำหรับงาน CES เป็นงานแสดงสินค้าเทคโนโลยีประจำปี ซึ่งปีนี้จัดขึ้นในวันที่ 7-10 มกราคม ณ เมืองลาสเวกัส ประเทศสหรัฐอเมริกา โดยปีนี้มีผู้แสดงสินค้ากว่า 4,500 ราย
ข้อมูลจาก apvideohub, independent, exeger
ข่าวแนะนำ