นาซาเผย 2 แนวทางใหม่ในการนำตัวอย่างหินดาวอังคารกลับโลก
นาซาเผย 2 แนวทางใหม่ในการนำตัวอย่างหินดาวอังคารกลับโลก นาซาทำงานร่วมกับบริษัทเอกชน หรือให้บริษัทเอกชนเข้ามาทำหน้าที่นำตัวอย่างหินกลับโลก
องค์การนาซาเปิดเผยแผนการใหม่สำหรับการส่งตัวอย่างจากดาวอังคารกลับมายังโลก Mars Sample Return โดยมีจุดประสงค์เพื่อลดความซับซ้อน ต้นทุน และเวลาในการดำเนินงาน จากเดิมที่แผนต้นฉบับร่วมกับสำนักงานอวกาศยุโรป (ESA) ถูกวิจารณ์ว่ามีค่าใช้จ่ายสูงถึง 11,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 380,297 ล้านบาท และอาจล่าช้าจากปี 2031 ไปถึงปี 2040 ซึ่งทางด้านของบิล เนลสัน (Bill Nelson) ผู้บริหารนาซามองว่า "ไม่สามารถยอมรับได้"
แผนเดิมต้องการยานอวกาศหลายลำสำหรับการขนส่งและเชื่อมต่อกันในอวกาศ ซึ่งมีความซับซ้อนและค่าใช้จ่ายสูง กลยุทธ์ใหม่เน้นการลดขนาดยานและปรับระบบพลังงานให้ทนต่อพายุฝุ่นบนดาวอังคาร โดยนาซาตั้งเป้าหมายส่งตัวอย่างกลับมาได้เร็วที่สุดในปี 2035 และช้าที่สุดในปี 2039 ด้วยงบประมาณลดลงเหลือ 5,500-7,700 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 190,125-266,175 ล้านบาท
2 แนวทางใหม่ในการนำตัวอย่างหินดาวอังคารกลับโลก
1. นาซาทำงานร่วมกับบริษัทเอกชน โดยใช้เทคโนโลยีเครนลอยฟ้า (Sky Crane) ของนาซา ซึ่งเป็นเทคโนโลยีที่เคยใช้ได้ผลกับภารกิจยานสำรวจ Perseverance และ Curiosity ในการลงจอดบนดาวอังคาร โดยใช้สายเคเบิลปล่อยยานอวกาศลงจากเครนลอยฟ้า ซึ่งวิธีการนี้สามารถทำให้ยานอวกาศลงจอดอย่างแม่นยำ รวมไปถึงนาซาไม่จำเป็นต้องพัฒนาเทคโนโลยีใหม่ทั้งหมด ส่วนการส่งเครนลอยฟ้าและยานอวกาศไปดาวอังคาร นาซาสามารถเลือกใช้จรวดและยานขนส่งของบริษัท SpaceX และ Blue Origin
2. นาซาจัดหาบริษัทเอกชนเข้ามาทำหน้าที่นำตัวอย่างหินกลับโลก โดยเปิดโอกาสให้บริษัทเอกชนออกแบบยานขนส่งอวกาศ ระบบลงจอด และยานเก็บตัวอย่างหินจากดาวอังคารกลับมายังโลก ตัวอย่างบริษัทเอกชนที่มีความพร้อม เช่น SpaceX, Blue Origin และ Rocket Lab โดยเฉพาะบริษัท Rocket Lab ที่ประกาศแผนการนำตัวอย่างหินดาวอังคารกลับโลกของเองได้ไม่นานหลังจากนาซาออกมาแถลงข่าวภารกิจ
ในตอนนี้ นาซายังคงอยู่ในระหว่างการพิจารณาแผนการสำหรับนำตัวอย่างหินดาวอังคารกลับโลก Mars Sample Return โดยคาดว่าการพิจารณาตัดสินใจเลือกวิธีการในเชิงเทคนิคที่ซับซ้อนจะเกิดขึ้นในสมัยของผู้อำนวยการนาซาคนใหม่ ภายใต้รัฐบาลของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ซึ่งจะเข้ารับตำแหน่งในเดือนมกราคม 2025 ส่วนภารกิจจริง ๆ คาดว่าจะเริ่มต้นขึ้นในระหว่างปี 2035-2040
ภารกิจเก็บตัวอย่างหินดาวอังคารกลับโลก
ก่อนหน้านี้ยานสำรวจ Perseverance ที่ลงจอดบนหลุมอุกกาบาตเจซีโรในปี 2021 ได้เก็บตัวอย่างหินและฝุ่นที่อาจเปิดเผยหลักฐานการมีอยู่ของสิ่งมีชีวิตในอดีต ตัวอย่างหินและฝุ่นถูกจัดเก็บเอาไว้ในแคปซูลขนาดเล็ก กระจายตามจุดต่าง ๆ ประมาณ 10 แคปซูล ตลอดเส้นทางที่ยานสำรวจ Perseverance แล่นผ่านบนพื้นผิวดาวอังคาร
ยานอวกาศที่มีคุณสมบัติเข้าร่วมภารกิจ Mars Sample Return จึงต้องมีขีดความสามารถในการเก็บแคปซูลขนาดเล็กดังกล่าว เพื่อนำส่งไปยังยานอวกาศและออกเดินทางขึ้นจากพื้นผิวดาวอังคารกลับมายังโลก โดยนักวิทยาศาสตร์คาดว่า ตัวอย่างหินดาวอังคารเหล่านี้จะถูกนำกลับมาวิเคราะห์ในห้องปฏิบัติการทันสมัยบนโลก เพื่อศึกษาประวัติศาสตร์ธรณีวิทยา วิวัฒนาการสภาพอากาศ และค้นหาโอกาสการมีสิ่งมีชีวิตบนดาวอังคาร
“โครงการ Mars Sample Return จะทำให้เหล่านักวิทยาศาสตร์เข้าใจประวัติศาสตร์ทางธรณีวิทยาของดาวเคราะห์ และวิวัฒนาการของสภาพอากาศบนดาวเคราะห์รกร้างแห่งนี้ซึ่งเคยมีชีวิตอยู่ในอดีต และช่วยให้เข้าใจระบบสุริยะในยุคแรกก่อนที่ชีวิตจะถือกำเนิดบนโลกได้ นอกจากนี้ โครงการนี้ยังช่วยเตรียมความพร้อมให้เราส่งมนุษย์กลุ่มแรกไปยังดาวอังคารได้อย่างปลอดภัยอีกด้วย” ดร. นิกกี้ ฟ็อกซ์ (Dr. Nicky Fox) ผู้ช่วยผู้บริหารฝ่ายปฏิบัติการวิทยาศาสตร์ของนาซากล่าวเพิ่มเติม
นาซากำลังอยู่ในช่วงเวลาที่สำคัญ เนื่องจากต้องเผชิญกับการแข่งขันจากจีน ซึ่งมีแผนส่งยานเทียนเหวิน-3 ไปเก็บตัวอย่างจากดาวอังคารในปี 2028 และอาจส่งตัวอย่างกลับถึงโลกในปี 2031 อย่างไรก็ตาม เนลสันย้ำว่า ภารกิจของนาซามีความครอบคลุมมากกว่า โดยตัวอย่าง 30 ชิ้น จากชั้นหินต่าง ๆ จะให้ข้อมูลที่ชัดเจนเกี่ยวกับประวัติศาสตร์ของดาวอังคาร รวมถึงคำถามสำคัญว่าเคยมีสิ่งมีชีวิตหรือไม่
ที่มาของข้อมูล CNN, NYTimes, Phys.org
ที่มาของรูปภาพ NASA, Rocket Lab
ข่าวแนะนำ