เจด แมคคาเลบ (Jed McCaleb) จากคนดังวงการคริปโตสู่ธุรกิจอวกาศ

เจด แมคคาเลบ (Jed McCaleb) เป็นที่รู้จักและมีชื่อเสียงจากการเป็นบุคคลกลุ่มแรก ๆ ที่ร่วมบุกเบิกเทคโนโลยีบล็อกเชน (Blockchain) และมีส่วนร่วมในโลกของสกุลเงินดิจิทัล อย่างไรก็ตาม ในตอนนี้เขาได้เพิ่มความสนใจไปยังเทคโนโลยีอวกาศด้วยการต่อตั้งบริษัท แวสต์ สเปซ (Vast Space) โดยมุ่งเน้นการพัฒนาที่อยู่อาศัยในวงโคจรต่ำของโลก และสถานีอวกาศที่มีเทคโนโลยีแรงโน้มถ่วงเทียม (Artificial Gravity) เพื่อทำให้การอยู่อาศัยระยะยาวของมนุษย์ในอวกาศเป็นไปได้มากขึ้น

บุคคลกลุ่มแรก ๆ ที่บุกเบิกบล็อกเชน (Blockchain)

ในปี 2010 เจด แมคคาเลบ ได้สร้างเว็บไซต์เมาท์ ก็อกซ์ (Mt. Gox) ซึ่งเป็นหนึ่งในแพลตฟอร์มแลกเปลี่ยนบิตคอยน์และสกุลเงินดิจิทัลแรก ๆ เมาท์ ก็อกซ์ได้เติบโตขึ้นจนกลายเป็นหนึ่งในแพลตฟอร์มแลกเปลี่ยน Bitcoin ที่ใหญ่ที่สุดในโลก โดยมีส่วนแบ่งการตลาดสูงถึง 80% ในปี 2013 

จุดที่รุ่งเรืองที่สุดของเมาท์ ก็อกซ์ก็จบลงอย่างรวดเร็ว โดยในปี 2014 เว็บไซต์เมาท์ ก็อกซ์ (Mt. Gox) ถูกแฮกทำให้มี Bitcoin จำนวนมากถูกขโมยออกไป ส่งผลให้บริษัทต้องยื่นขอล้มละลายและปิดตัวลง แต่การที่เจด แมคคาเลบได้มีส่วนร่วมในช่วงแรกของการก่อตั้งเมาท์ ก็อกซ์ (Mt. Gox) ทำให้เขาเป็นบุคคลสำคัญในวงการบล็อกเชนและสกุลเงินดิจิทัล

ในปี 2012 เจด แมคคาเลบ (Jed McCaleb) และคริส ลาร์เซน (Chris Larsen) ได้ร่วมก่อตั้ง ริพเพิล แล็บส์ (Ripple Labs) ซึ่งเป็นบริษัทที่อยู่เบื้องหลังเหรียญเอ็กซ์อาพี (XRP) สกุลเงินดิจิทัลที่ออกแบบมาเพื่อการชำระเงินข้ามพรมแดนแบบเรียลไทม์ ต่อมาในปี 2013 เขาแยกทางกับริพเพิล แล็บส์ (Ripple Labs) และก่อตั้ง Stellar Development Foundation หรือเอ็กซ์แอลเอ็ม (XLM) ในปี 2014 โดยมุ่งเน้นการเชื่อมต่อทางการเงินและลดต้นทุนการทำธุรกรรม

ก้าวสู่การสำรวจอวกาศ

ในปี 2021 แมคคาเลบก่อตั้งบริษัท แวสต์ สเปซ (Vast Space) โดยใช้ความมั่งคั่งจากธุรกิจสกุลเงินดิจิทัลเพื่อสนับสนุนบริษัทด้านอวกาศนี้ โครงการแรกของบริษัท คือ สถานีอวกาศเฮเวน-วัน (Haven-1) ซึ่งเป็นสถานีอวกาศโมดูลเดียวที่สามารถรองรับลูกเรือได้ถึงสี่คนสำหรับภารกิจบนอวกาศ 30 วัน โดยมีกำหนดส่งขึ้นสู่อวกาศด้วยจรวดสเปซเอ็กซ์ฟอลคอน-9 (SpaceX Falcon 9) ในช่วงเดือนสิงหาคม 2025 รองรับภารกิจที่มีลูกเรือบนยานอวกาศสเปซเอ็กซ์ดรากอน (SpaceX Dragon) ของบริษัท สเปซเอ็กซ์ (SpaceX)

หากทุกอย่างเป็นไปตามแผนการที่วางไว้ บริษัท แวสต์ สเปซ (Vast Space) มีแผนพัฒนาสถานีอวกาศเฮเวน-ทู (Haven-2) ซึ่งเป็นสถานีอวกาศขนาดใหญ่ที่มีหลายโมดูล และมีสิ่งอำนวยความสะดวกที่ขยายขึ้นสำหรับการวิจัยทางวิทยาศาสตร์และความร่วมมือระหว่างประเทศ

การลงทุนในเทคโนโลยีอวกาศ

ในปี 2023 บริษัท แวสต์ สเปซ (Vast Space) ได้เข้าซื้อกิจการของบริษัท ลอนเชอร์ (Launcher) ซึ่งเป็นสตาร์ตอัปด้านการขับเคลื่อนและการโอนย้ายในวงโคจรของโลก เพื่อเสริมความสามารถในการแข่งขันด้านเทคโนโลยีอุตสาหกรรมอวกาศเชิงพาณิชย์ที่เติบโตอย่างรวดเร็ว 

นอกจากนี้ มีรายงานว่าบริษัท แวสต์ สเปซ (Vast Space) ได้ทำข้อตกลงกับองค์การนาซาของสหรัฐอเมริกา และองค์การอวกาศยุโรป เพื่อสำรวจความร่วมมือในการพัฒนาสถานีอวกาศรุ่นต่อไป บริษัทมีแผนที่จะแข่งขันในเฟสที่สองของโปรแกรม Commercial Low Earth Orbit Destinations ของนาซาด้วยสถานีอวกาศเฮเวน-ทู (Haven-2)

การลงทุนของ เจด แมคคาเลบ (Jed McCaleb) มักถูกมองว่ามีความทะเยอทะยาน ไม่ว่าจะเป็นโครงการบล็อคเชน ไปจนถึงความพยายามในการพัฒนาที่อยู่อาศัยแรงโน้มถ่วงเทียมบนอวกาศให้กับมนุษย์ สำหรับเงินทุนและความมั่งคั่งส่วนตัวของเขาซึ่งมาจากการลงทุนในสกุลเงินดิจิทัล เช่น Mt. Gox, Ripple และ Stellar ทำให้เขาสามารถระดมทุนให้กับโครงการของ บริษัท แวสต์ สเปซ (Vast Space) และอาจขยายขอบเขตของการสำรวจอวกาศได้อย่างรวดเร็วในอนาคต

ที่มาของข้อมูล SpaceExplored