โดนัลด์ ทรัมป์ และคำมั่นสัญญากับชุมชนชาวคริปโตหากชนะเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ 2024
โดนัลด์ ทรัมป์ และคำมั่นสัญญากับชุมชนชาวคริปโตและผู้ถือครอง Bitcoin หากชนะเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ 2024
การเลือกตั้งสหรัฐอเมริกา 2024 ในครั้งนี้ได้รับการจับตาจากชุมชนชาวคริปโตและผู้ถือครอง Bitcoin เป็นพิเศษ เนื่องจากโดนัลด์ ทรัมป์ อาจเป็นผู้สมัครเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกาคนแรก ๆ ที่ประกาศสนับสนุนคริปโตและ Bitcoin
โดยก่อนหน้านี้ในวันที่ 27 กรกฎาคม 2024 อดีตประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ได้ขึ้นเวทีปราศรัยภายในงาน Bitcoin Conference 2024 หากได้รับเลือกให้ดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีสมัยที่ 2 และความต้องการที่จะผลักดันให้สหรัฐอเมริกาเป็น ‘Bitcoin Superpower’ หรือประเทศมหาอำนาจที่สนับสนุน Bitcoin
นอกจากนี้โดนัลด์ ทรัมป์ ยังประกาศอีกว่าเขาจะผลักดันให้รัฐบาลสหรัฐถือครอง Bitcoin เป็นทุนสำรอง โดยตั้งเป้าที่จะถือครอง Bitcoin ทั้งหมดที่มีอยู่ในปัจจุบันและซื้อเพิ่มในอนาคต โดยเขาไม่วางแผนที่จะขาย Bitcoin ออกจากคลังของรัฐบาล
การประกาศดังกล่าวสร้างเสียงตบมือและแสดงความยินดีจากชุมชนชาวคริปโตและผู้ถือครอง Bitcoin เป็นอย่างมาก โดยข้อมูลล่าสุดระบุว่าในประเทศสหรัฐอเมริกามีผู้ถือครอง Bitcoin อยู่ประมาณ 46 ล้านคน ซึ่งคิดเป็นประมาณ 17% ของประชากรทั้งหมด นอกจากนี้ รัฐบาลสหรัฐฯ ยังถือครอง Bitcoin จำนวนมากที่ยึดได้จากกิจกรรมผิดกฎหมาย โดยมีการประเมินว่ารัฐบาลสหรัฐฯ Bitcoin จำนวน 200,000 BTC เป็นอย่างน้อย
การประกาศคำมั่นสัญญาของโดนัลด์ ทรัมป์ สอดคล้องกับในช่วงปลายปี 2024 ราคาของ Bitcoin ได้พุ่งสูงขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ โดยนักลงทุนมองว่าเป็นสัญญาณที่บ่งชี้ถึงความเชื่อมั่นในชัยชนะของทรัมป์ในการเลือกตั้งที่กำลังจะมาถึง นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าหากทรัมป์ชนะการเลือกตั้ง ราคาของ Bitcoin อาจพุ่งสูงถึง 100,000 ดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 3,381,900 บาท ต่อ 1 BTC ภายในวันเลือกตั้ง
สำหรับท่าทีของกมลา แฮร์ริส ผู้สมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดีจากพรรคเดโมแครต ได้แสดงความต้องการสนับสนุนเทคโนโลยีบล็อกเชนและปัญญาประดิษฐ์ (AI) โดยเน้นให้สหรัฐอเมริกาเป็นผู้นำในด้านนี้ อย่างไรก็ตาม นโยบายของกมลา แฮร์ริสไม่ได้กล่าวถึงเงินดิจิทัลและ Bitcoin โดยตรง นอกจากนี้ชุมชนชาวคริปโตส่วนใหญ่ไม่ได้ให้การยอมรับและมองพรรคเดโมแครตว่าไม่ให้การสนับสนุนชุมชนชาวคริปโตและ Bitcoin เท่าที่ควร
ดังนั้น การเลือกตั้งในวันที่ 5 พฤศจิกายนนี้ ถูกมองว่าอาจมีผลกระทบต่อเศรษฐกิจโลกอย่างมาก นอกจากการปรับเปลี่ยนนโยบายการค้าระหว่างมหาอำนาจสหรัฐอเมริกาและจีน การควบคุมเงินเฟ้อ และราคาสินทรัพย์ดิจิทัลที่อดีตประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ให้คำมั่นสัญญาเอาไว้ว่าจะสนับสนุนอย่างเต็มที่
อย่างไรก็ตาม ผู้เชี่ยวชาญด้านการเงินได้ออกมาแสดงความเห็นและเตือนว่าการลงทุนในสินทรัพย์ดิจิทัล คริปโตและ Bitcoin มีความเสี่ยงสูง และผู้ลงทุนมีโอกาสเสียเงินทุนทั้งหมดได้ ก่อนการลงทุนจะต้องศึกษาและประเมินความเสี่ยงที่ตนเองสามารถรับมือได้
ที่มาของข้อมูล
ข่าวแนะนำ