TNN กองทัพจีนใช้หุ่นยนต์สุนัขติดปืนไรเฟิล ร่วมซ้อมรบในกัมพูชา

TNN

Tech

กองทัพจีนใช้หุ่นยนต์สุนัขติดปืนไรเฟิล ร่วมซ้อมรบในกัมพูชา

กองทัพจีนใช้หุ่นยนต์สุนัขติดปืนไรเฟิล ร่วมซ้อมรบในกัมพูชา

กองทัพจีนใช้หุ่นยนต์สุนัข Go2 ดัดแปลงติดปืนไรเฟิลบนแผ่นหลังด้านบนของหุ่นยนต์ และเข้าร่วมซ้อมรบในกัมพูชา

สถานีโทรทัศน์ซีซีทีวี (CCTV) ของทางการจีน เปิดเผยภาพกองทัพประชาชนจีนนำหุ่นยนต์สุนัขติดตั้งปืนไรเฟิลเข้าร่วมซ้อมรบ "Golden Dragon 2024" ที่จัดขึ้นในระหว่างวันที่ 14-27 พฤษภาคมที่ผ่านมา บริเวณเมืองสีหนุวิลล์ ประเทศกัมพูชา นับเป็นครั้งที่ 2 ที่กองทัพประชาชนจีนใช้หุ่นยนต์สุนัขร่วมซ้อมรบร่วมกับกองทัพต่างประเทศ โดยก่อนหน้านี้ในเดือนพฤศจิกายน 2023 จีนเคยนำหุ่นยนต์สุนัขร่วมซ้อมรบกับกัมพูชา ลาว มาเลเซีย ไทย และเวียดนาม ในพื้นที่ประเทศจีน 


สำหรับหุ่นยนต์สุนัขที่ติดตั้งปืนไรเฟิลดังกล่าวคาดว่าเป็นหุ่นยนต์สุนัขรุ่น Go2 ของบริษัท ยูนิทรีโรโบติกส์ (Unitree Robotics) ผู้นำด้านเทคโนโลยีหุ่นยนต์ในประเทศจีน ซึ่งทาง ยูนิทรีโรโบติกส์ (Unitree Robotics) ได้ปฏิเสธว่าไม่ได้เป็นผู้จำหน่ายหุ่นยนต์รุ่นดังกล่าวให้กับกองทัพประชาชนจีน ทำให้ยังไม่มีความชัดเจนว่ากองทัพประชาชนจีนได้จัดหาหุ่นยนต์สุนัขรุ่นดังกล่าวมาติดตั้งอาวุธได้อย่างไร


แม้ว่าจะไม่มีการเปิดเผยรายละเอียดของหุ่นยนต์สุนัขเข้าร่วมซ้อมรบในกัมพูชาออกมาอย่างเป็นทางการ แต่คาดว่าหุ่นยนต์ที่ได้รับการปรับแต่งใหม่นี้สามารถหลบหลีกสิ่งกีดขวางได้ด้วยตัวเอง รองรับการทำภารกิจลาดตระเวน การระบุตำแหน่งศัตรู และเลือกแนวทางโจมตีเป้าหมาย โดยปืนไรเฟิลด้านบนแผ่นหลังของหุ่นยนต์สามารถควบคุมโดยมนุษย์จากระยะไกล


การทดสอบหุ่นยนต์สุนัขของกองทัพประชาชนจีน สอดคล้องกับทิศทางของเทคโนโลยีอาวุธด้านการทหารที่มีการนำโดรนหรือหุ่นยนต์เข้ามาใช้งานเพิ่มมากขึ้น เช่น ในสงครามความขัดแย้งระหว่างรัสเซียและยูเครน กองทัพทั้งสองฝ่ายได้นำโดรนและหุ่นยนต์หลายรูปแบบเข้าต่อสู้ในสงคราม

 

สำหรับหุ่นยนต์สุนัขไม่ใช่เทคโนโลยีใหม่ ต้นแบบหุ่นยนต์สุนัขได้รับการพัฒนาและทำการทดสอบถูกพัฒนาโดยบริษัท บอสตัน ไดนามิกส์ (Boston Dynamics) ประเทศสหรัฐอเมริกา หุ่นยนต์รุ่นที่มีชื่อเสียง เช่น BigDog นับเป็นจุดเริ่มต้นของ "หุ่นยนต์สี่ขา" ได้รับการพัฒนาโดยเลียนแบบสัตว์สำหรับใช้งานในกองทัพ หลังจากนั้นมีอีกหลายบริษัทได้เปิดตัวหุ่นยนต์รุ่นใหม่ ๆ ทั้งในสหรัฐอเมริกา และประเทศจีน


ที่มาของฐานข้อมูล abc13.com Theguardian.com

ที่มาของรูปภาพ CCTV

ข่าวฮิตติดแท็ก

ข่าวแนะนำ