BMW สอนขับ EV ให้สนุกและปลอดภัย กับ BMW Driving Experience 2024 มีรถ EV - BMW i5 M60 xDrive ให้ขับด้วย
BMW ประเทศไทย จัดกิจกรรม BMW Driving Experience 2024 เพื่อยกระดับทักษะการขับขี่ที่ปลอดภัยภายใต้สถานการณ์คับขัน พร้อมยกรถ BMW i5 M60 xDrive รถ EV ของ BMW มาใช้สอนจริงด้วย
รถ EV หรือรถพลังงานไฟฟ้าแม้ว่าจะไม่ได้เป็นนวัตกรรมใหม่ในไทย แต่ปฏิเสธไม่ได้ว่าความต้องการใช้งานรถ EV ก็ยังพุ่งสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ซึ่งสิ่งที่ตามมา นอกเหนือจากการพัฒนาระบบนิเวศของรถ EV แล้ว ก็ยังรวมไปถึงการพัฒนาทักษะการขับรถ EV ให้สามารถขับได้อย่างปลอดภัยแม้อยู่ในสถานการณ์คับขัน ด้วยเหตุนี้ บีเอ็มดับเบิลยู (BMW) หนึ่งในผู้ผลิตรถยนต์พลังงานไฟฟ้าชื่อดังจากเยอรมนี จึงจัดโครงการ BMW Driving Experience 2024 เพื่อเสริมทักษะการขับขี่ของผู้ใช้รถยนต์และรถ EV ขึ้นมา
ที่มาโครงการ BMW Driving Experience
โครงการ BMW Driving Experience เป็นการฝึกอบรมการขับขี่รถยนต์อย่างถูกต้องและปลอดภัย เพื่อให้ผู้ขับสามารถประเมินสถานการณ์และรับมือได้อย่างเหมาะสม โดยโปรแกรมดังกล่าวเริ่มขึ้นครั้งแรก เมื่อวันที่ 22 เมษายน 1977 ในประเทศเยอรมนี โดยมีเป้าหมายเป็นการถ่ายทอดองค์ความรู้ที่ใช้สำหรับการฝึกอบรมนักแข่ง มาให้แก่ผู้ใช้ยานพาหนะทั่วไป เพื่อยกระดับศักยภาพระหว่างคนกับรถยนต์ ให้ได้ทักษะการขับขี่ที่สมบูรณ์แบบ
สำหรับในประเทศไทย ทางบีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป ประเทศไทย ได้จัดฝึกอบรม BMW Driving Experience ครั้งแรกในเดือนกันยายน 2004 โดยปี 2024 นี้นับเป็นปีที่ 20 ของกิจกรรมดังกล่าว ซึ่งรองรับผู้เข้าร่วมกิจกรรมได้ถึง 30 คน ภายใต้ความร่วมมือของผู้สนับสนุน 3 ราย ได้แก่ อีโวลท์ เทคโนโลยี จำกัด, มิชลิน ประเทศไทย และบีเอ็มดับเบิลยู ไฟแนนเชียล เซอร์วิส ประเทศไทย โดยเน้นให้ผู้เข้าร่วมได้เสริมความสามารถในการขับขี่ ผ่านการเรียนรู้ทักษะการขับขี่ที่ท้าทาย และสนุกสนาน เน้นย้ำการขับขี่อย่างปลอดภัย ช่วยปรับปรุงทักษะการขับขี่ทั่วไปและการตอบสนองในกรณีฉุกเฉิน เช่น การหักหลบสิ่งกีดขวางระยะประชิด รวมไปถึงการรับมือในช่วงที่รถมีการหลุดโค้ง ที่ดำเนินการโดยทีมผู้ฝึกสอนที่ผ่านการรับรองตามมาตรฐานของบีเอ็มดับเบิลยู
รูปแบบการฝึก BMW Driving Experience
โดยแผนการฝึกของ BMW Driving Experience แบ่งออกเป็น 3 ระดับ ได้แก่
- 1. ระดับพื้นฐาน (Basic) เหมาะกับผู้ที่มีทักษะการขับขี่ทุกระดับ เน้นการเสริมทักษะที่จำเป็นในการรับมือกับสถานการณ์ฉุกเฉินและขับขี่ได้อย่างปลอดภัยยิ่งขึ้น
- 2. ระดับขั้นสูง (Advanced) ที่มีความเข้มข้นและท้าทายยิ่งขึ้นด้วยการฝึกฝนเทคนิคการขับขี่ขั้นสูง เพื่อใช้แก้สถานการณ์คับขันบนท้องถนนในรูปแบบต่าง ๆ รวมถึงเทคนิคการขับขี่แบบพิเศษ และ
- 3. ระดับการฝึกกับบีเอ็มดับเบิลยู เอ็ม (BMW M Driving Experience) โปรแกรมฝึกฝนทักษะการขับขี่เพื่อดึงความสามารถของทั้งผู้ขับขี่และรถยนต์ออกมาใช้ในสนามแข่งได้อย่างเต็มที่ด้วยการใช้รถตระกูล M ของ BMW
โดยผู้เข้าร่วมการฝึกในระดับพื้นฐาน (Basic) จะได้ฝึกฝนทักษะด้วยรถยนต์เครื่องยนต์สันดาป BMW M340i xDrive รถยนต์ระบบขับเคลื่อนปลั๊กอินไฮบริด (PHEV) BMW 330e M Sport และรถยนต์พลังงานไฟฟ้า (BEV) BMW i5 M60 xDrive โดยจะครอบคลุมการฝึกฝนทักษะต่าง ๆ ได้แก่ การปรับท่านั่งและการหมุนพวงมาลัยที่ถูกต้อง การเบรกฉุกเฉินที่ความเร็วไม่เกิน 60 กิโลเมตรต่อชั่วโมง การเปลี่ยนช่องทางกะทันหันที่ความเร็วไม่เกิน 60 กิโลเมตรต่อชั่วโมง การเบรกฉุกเฉินพร้อมเปลี่ยนช่องทางกะทันหันที่ความเร็วไม่เกิน 60 กิโลเมตรต่อชั่วโมง การแก้อาการรถเสียหลักหลุดโค้ง การแก้อาการรถหมุน และการฝึกขับแบบสลาลมจับเวลา
ทั้งนี้ ผู้เข้าฝึกอบรมจะได้รับประกาศนียบัตรจากบีเอ็มดับเบิลยูเมื่อเสร็จสิ้นการฝึกอบรวม ซึ่งสามารถนำไปใช้ต่อยอดในการเรียนทักษะการขับขี่ขั้นสูงของบีเอ็มดับเบิลยูในระดับสากล ทั้งระดับขั้นสูง ที่เพิ่มระดับทักษะสู่การรับมือสถานการณ์ต่าง ๆ ที่ความเร็วไม่เกิน 100 กิโลเมตรต่อชั่วโมง พร้อมทักษะการเข้าโค้งแบบดริฟต์ (Drift) หรือการเข้าโค้ง โดยทำให้รถหลุดโค้ง (Oversteer) โดยตั้งใจและควบคุมเพื่อให้ผ่านโค้งอย่างปลอดภัย รวมถึงการกลับรถฉุกเฉินและอื่น ๆ ตลอดจนโครงการ BMW M Driving Experience เพื่อฝึกทักษะการขับรถเพื่อใช้ในสนามแข่งโดยการเรียนและฝึกทักษะกับรถยนต์บีเอ็มดับเบิลยูในตระกูล M ได้อีกด้วย
โดยสื่อมวลชนจำนวนหนึ่งรวมถึง TNN Tech ได้รับเชิญให้เข้าร่วมเรียนในระดับพื้นฐาน ณ สนามแข่งรถปทุมธานี สปีดเวย์ (Pathumthani Speedway) เมื่อวันที่ 9 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา โดยเป็นลักษณะการฝึกอบรมที่มีการปฏิบัติจริงตลอด 1 วัน ทั้งนี้ ผู้ที่สนใจสามารถติดต่อเพื่อรับข้อมูลเพิ่มเติมและจองการฝึกอบรมได้ที่เว็บไซต์ของ BMW Thailand
ข้อมูลจาก BMW Thailand
ข่าวแนะนำ